ไม่พบผลการค้นหา
'ทวี ไกรคุปต์' รับทราบ 4 ข้อหารุกป่าสวนผึ้ง พร้อมนำเอกสาร นส.3 แสดง 200 ไร่ ย้อนถามกรมป่าไม้ ไม่มีป่ามานานแล้ว เหตุใดเพิ่งมาจับ

ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ทวี ไกรคุปต์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม บิดาของ ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามความผิดใน 4 ข้อหา กรณีถูกร้องเรียนว่าบุกรุกที่ดินรัฐกว่า 1,000 ไร่ บริเวณ หมู่ 9 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี

ทวี กล่าวว่า มาขอเลื่อนวันให้การกับตำรวจ โดยนำเอกสารใบจองเพื่อออกเป็นหนังสือ นส.3 มามอบเป็นหลักฐาน ซึ่งเป็นเอกสารที่ออกไว้เมื่อปี 2516 แต่ยังไม่ทราบว่าได้มาอย่างไร เพราะทำธุรกิจอยู่ในกรุงเทพฯ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับที่ดินในสวนผึ้งเลย กระทั่งเป็น ส.ส.ราชบุรีในปี 2522 ยังไม่มีทรัพย์สินใน จ.ราชบุรี และปีต่อมา มีนายหน้านำที่ดินมาขาย 3 แปลง 90 กว่าไร่ เห็นว่าไม่มีทรัพย์สิน ทั้งที่เป็น ส.ส.ราชบุรี จึงซื้อไว้ กระทั่ง 3 ปีต่อมา มีนายหน้านำที่ดินอีก 3 แปลง 30 ไร่ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับที่เดิมมาขาย สภาพที่ดินตอนนั้นเตียนโล่งไม่มีสภาพเป็นป่าไม้ก็เลยซื้อไว้ กระทั่งต้นปีนี้ กรมป่าไม้แถลงข่าวว่าตนมีที่ในเขตป่า ก็สับสนว่าไม่มีป่าแล้วตั้งนานแล้ว เหตุใดไม่จับกุมดำเนินคดีตั้งนานมาแล้ว

ด้าน พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รอง ผบก.ปทส.กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกมารับทราบ 4 ข้อกล่าวหาตามที่ ปารีณา ถูกตำรวจป่าไม้ ร้องทุกข์กล่าวโทษไปก่อนหน้านี้ ได้แก่ ความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 และ มาตรา 31 ความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน และความผิดตาม พ.ร.บ.น้ำบาดาล พ.ศ. 2520 ร่วมกันประกอบกิจการน้ำบาดาล ในเขตน้ำบาดาลใดๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้มีสิทธิหรือสิทธิครอบครองที่ดิน ในเขตน้ำบาดาลโดยไม่ได้รับอนุญาต

โดย ทวี ได้นำเอกสาร นส.3 มาแสดงต่อพนักงานสอบสวนว่าครอบครองที่ดินประเภทดังกล่าว 200 ไร่ ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลที่ บก.ปทส.ได้สอบสวนเจ้าหน้าที่กรมที่ดินว่า ทวี ครอบครองผืนดินดังกล่าวจริง เมื่อมาหักลบพบว่า ทวี ได้บุกรุกที่ดินประมาณ 800 กว่าไร่

นอกจากนี้ ทวี ยังกล่าวร้องเรียนขอความเป็นธรรมผ่านสื่อว่าเป็นการเลือกปฏิบัติกับตนหรือไม่ จะต้องใช้กฎหมายปฏิบัติโดยเท่าเทียมกัน อยู่บนมาตรฐานความยุติธรรม พร้อมขอให้รีบดำเนินการกับบุคคลที่มีการครอบครองที่ดินในพื้นที่ใกล้ๆ เคียงที่ดินของตน ซึ่งอยู่กันคนละฝั่ง

ทั้งนี้หากตนผิดจริงก็จะยินดีคืนให้หลวง แต่ก็ต้องดำเนินคดีให้เหมือนกันทุกราย ซึ่งเชื่อว่าไม่ได้มีเพียงแค่คนเดียว

ทางพนักงานสอบสวนได้นำภาพถ่ายทางอากาศของที่ดินบริเวณดังกล่าวมาให้ทวี ชี้จุดว่าที่ดินใดเป็นที่ดินที่ตัวเองครอบครองเอกสาร นส.3 โดยระหว่างนี้ บก.ปทส.จะสืบสวนสอบสวนหาเจ้าของที่ดินเดิมว่าเป็นใคร และ ทวี ได้ซื้อที่ดินมาจากใคร เพื่อสอบถามเจ้าของที่ดินเดิมมาประกอบสำนวนว่าตรงกับที่ ทวี นำชี้จุดครอบครองหรือไม่ 

พ.ต.อ.วัชรินทร์ กล่าวอีกว่าในสัปดาห์หน้า ตำรวจ บก.ปทส.พร้อมเจ้าหน้าที่ศาล ผู้เชี่ยวชาญด้านแปรภาพถ่ายทางอากาศและแผนที่ เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน และกรมป่าไม้ จะลงพื้นที่เกิดเหตุพร้อมนายทวี เพื่อให้เจ้าตัวนำชี้บริเวณที่ครอบครองตามเอกสาร นส.3 หลังจากนี้ พนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานและคำให้การของผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดไปสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้องตามกฎหมายต่อไป

ในเบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำทวี พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา โดยทวีได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา