ไม่พบผลการค้นหา
พรรคเพื่อไทย ส่งส.ส.อีสานลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วม พร้อมระดมทุนผ่านโครงการเพื่อไทยช่วยไทย รวมใจช่วยน้ำท่วม ด้านรมว.สาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจสอบและช่วยเหลือผู้ประสบภัยจังหวัดร้อยเอ็ด

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทยแถลงข่าวถึงสภาพน้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ ซึ่งได้รับผลจากพายุโพดุลที่สร้างความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชนทั้งในภาคเหนือและภาคอีสาน โดยบางจังหวัดท่วมหนักที่สุดในรอบ 40 ปี ซึ่งขณะนี้พายุยังไม่สิ้นฤทธิ์และยังคงสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่อง สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ พรรคเพื่อไทยไม่ได้นิ่งนอนใจและเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ส.ส.เพื่อไทย ในพื้นที่น้ำท่วม ต่างเกาะติดพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลังเพราะตระหนักดีว่าความทุกข์ของประชาชนนั้นรอไม่ได้ 

ส่วนพรรคเพื่อไทย โดยหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ และประธานยุทธศาสตร์ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ได้มีดำริให้ดำเนินการช่วยเหลือคู่ขนาน โดยเปิดโครงการที่ชื่อว่า “เพื่อไทยช่วยไทย รวมใจช่วยน้ำท่วม” โดยสั่งการให้ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทยทุกแห่งในประเทศ เปิดเป็นพื้นที่รับบริจาคเพื่อให้ประชาชนที่อยากช่วยเหลือพี่น้องที่กำลังประสบภัย ร่วมบริจาคข้าวสาร อาหารแห้ง เสื้อผ้า และของจำเป็นได้โดยตรง โดยภาคอีสานจะใช้ที่ทำการศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทยจังหวัดขอนแก่นเป็นศูนย์กลาง โดยให้ ส.ส.บัลลังก์ อรรณนพพร โทร 098-824-5858 เป็นผู้ประสานงานศูนย์

ส่วนภาคเหนือจะใช้ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทยจังหวัดเชียงใหม่เป็นศูนย์กลาง โดยให้ ส.ส.จักรพล ตั้งสุทธิธรรม โทร 089-851-8558 เป็นผู้ประสานงานศูนย์ ซึ่งทั้งสองศูนย์จะเป็นศูนย์กลางที่จะกระจายความช่วยเหลือจากพี่น้องทั้งประเทศไปยังพื้นที่ภัยพิบัติ ส่วนที่กรุงเทพมหานครจะใช้ที่ทำการใหญ่พรรคเพื่อไทย อาคารโอเอไอ ถนนเพชรบุรี เป็นศูนย์กลางรับความช่วยเหลือ และจะกระจายความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ภัยพิบัติต่อไป โดยพรรคเพื่อไทยขอเป็นกำลังใจให้ผู้ประสบภัยทุกคนสามารถฟันฝ่าวิกฤติอุทกภัยครั้งนี้ไปให้ได้ และขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกคนที่กำลังทำงานช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ในขณะนี้

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน พร้อมสั่งการให้ช่วยเหลือด้านสาธารณสุขแก่ประชาชน ในพื้นที่อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ที่ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อน “โพดุล” เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา

ในการนี้ นายอนุทินและคณะ ลงพื้นที่บ้านท่าเยี่ยม ตำบลวังหลวง อำเภอเสลภูมิ เพื่อเยี่ยมเยียนดูแลสุขภาพอนามัยของประชาชนผู้ประสบอุทกภัย พร้อมมอบถุงยังชีพจำเป็น ยารักษาโรค ให้แก่ประชาชนบ้านท่าเยี่ยม ตำบลวังหลวง จำนวน 200 คน และสั่งการไปยังสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ดูแลในเรื่องสุขภาพอนามัย โรคติดต่อที่มาจากทางน้ำ และเร่งอพยพผู้ป่วย และผู้สูงอายุในพื้นที่ได้รับผลกระทบ ให้อยู่ในที่ปลอดภัย พร้อมสั่งระดมเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข ให้ติดตามดูแลสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันสถานการณ์ สำหรับจังหวัดร้อยเอ็ดพื้นที่ที่ยังได้รับผลกระทบ ประกอบด้วย อำเภอเสลภูมิ อำเภอโพนทองและ อำเภอเมืองร้อยเอ็ด ในส่วนของมาตรการและแนวทางแก้ไขปัญหา ของจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ดำเนินการ

1.จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัยฯ จังหวัดร้อยเอ็ด ประจำปี พ.ศ. 2562

2. จัดทำแผนเผชิญเหตุอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จังหวัดร้อยเอ็ด ปี 2562

3. สั่งการแบ่งพื้นที่รับผิดชอบกรณีเกิดสถานการณ์อุทกภัยขึ้นในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด

4.ดำเนินการสำรวจข้อมูลวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ ในการบรรเทาสาธารณภัยของส่วนราชการในจังหวัดร้อยเอ็ด

5.ประชุมคณะกรรมการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ปี 2562 เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2562 และวันที่ 29 สิงหาคม 2562 ประชุมการติดตามสถานการณ์และการแก้ไขปัญหาน้ำเอ่อล้นพนังลำน้ำยัง ท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ พร้อมเตรียมความพร้อมรับมือพายุโซนร้อน “โพดุล” ที่กำลังจะเข้ามา

นอกจากนี้ จังหวัดร้อยเอ็ดได้ขอจัดตั้งโรงครัวพระราชทาน ไปที่ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. ( ศอญ.จอส.904 วปร.) เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ในเบื้องต้น 3 จุด ได้แก่.  ​ อบต.เหนือเมือง อ.เมือง วัดบ้านนาแซง ต.นาแซง อ.เสลภูมิ หอประชุมอำเภอเมืองร้อยเอ็ด โดยเริ่มบริการตั้งแต่วันนี้ (31 ส.ค.62) และโรงครัวพระราชทาน มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) 4 จุด

จากนั้น ในภาคบ่าย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เรียกประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยเพื่อให้การช่วยเหลือด้านสาธารณสุขผ่านระบบ Video Conferrence ไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบต่างๆ ณ ห้องประชุมแก้วมุกดา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อให้หน่วยงานด้านสาธารณสุข ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อีกด้วย