ไม่พบผลการค้นหา
ประชุมใหญ่พรรครวมไทยสร้างชาติ ยังไม่เปิดตัวบิ๊กเซอร์ไพรส์ 'แรมโบ้' เผยเปิดตัวบิ๊กเซอร์ไพร์ส มิ.ย.-ก.ค. ย้ำจุดยืนหนุน 'ประยุทธ์' เป็นนายกฯ เป็นพันธมิตร พปชร. โยนถาม 'พีระพันธุ์' เป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์

เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 31 มี.ค. 2565 ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ "แรมโบ้อีสาน" ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ผู้ก่อตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ว่า การประชุมใหญ่พรรครวมไทยสร้างชาติวันเดียวกันนี้เดิมคิดว่าจะเปิดตัวบิ๊กเซอร์ไพร์ส แต่จากการหารือเห็นร่วมกันว่าอยากให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อน ดังนั้นการประชุมวันนี้จะเป็นการประชุมตามระเบียบที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดไว้ว่าจะต้องประชุมในรอบ 1 ปี และจะมีการปรับปรุงระเบียบและโครงสร้างพรรค ตั้งกรรมการสรรหา และรายงานงบดุล ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องรายงาน กกต. ทั้งนี้ ผู้ใหญ่ที่เราได้ประสานไว้จึงบอกให้พวกเราเตรียมการให้เรียบร้อยก่อน เพราะถ้าหากยังไม่เรียบร้อยเดี๋ยวผู้ใหญ่ที่จะมาร่วมอุดมการณ์กับเราจะไม่สะดวกใจ หากพรรคยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งนับแต่วันนี้พรรครวมไทยสร้างชาติถือว่าสมบูรณ์แล้ว

เสกสกล ย้ำว่า ทั้งนี้ ตั้งใจว่าจะมีการประชุมเพื่อเปิดตัวบิ๊กเซอร์ไพรส์ประมาณเดือนมิ.ย.-ก.ค. ดังนั้นจึงขออภัยสื่อมวลชนที่เคยได้ประกาศไปแล้วว่าจะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ในการประชุม วันนี้บิ๊กเซอร์ไพรส์จะมีเพียง นากานต์ ชัยศรี อดีตมิสไทยแลนด์เวิล์ด ว่าที่ผู้สมัคร สส.กทม. และปรพล อดิเรกสาร สมาชิกพรรค รวมถึง ปองพล อดิเรกสาร สมาชิกพรรค 

เมื่อถามว่าที่จะมีการเปิดตัวเดือน ก.ค.ช้าเกินไปหรือไม่ เสกสกล กล่าวว่า ไม่ช้า ตอนนี้พรรครวมไทยสร้างชาติมีสาขาทั่วทุกภาค มีคนอยากเป็นสมาชิกพรรคอีกมากมาย ยืนยันว่าจะมีสมาชิกทั่วประเทศ เครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชน อดีตคนเสื้อแดงเยอะแยะ และยังมีเวลาหาสมาชิกอีกเยอะ การเมืองวันนี้ตนอยากให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยก่อน จึงยังไม่อยากให้การเปิดตัวหวือหวาอะไร สำหรับตนในฐานะผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี อยากให้นายกรัฐมนตรีทำงานจนครบ 4 ปี ไม่มีอะไรมากระทบกระทั่งจนเป็นอุปสรรคในการทำงาน เรามีมวลสมาชิกสนับสนุนทั่วประเทศ ถ้าตนขยับรับรองว่าสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติมีจำนวนมาก 

เมื่อถามว่า ทำไมต้องรอถึงเดือน ก.ค. ถึงจะเปิดตัวบิ๊กเซอร์ไพรส์ นายเสกสกล กล่าวว่า ความจริงต้องการให้กกต.รับรองออกมาให้เรียบร้อย และขอย้ำว่าคนที่จะมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคต้องมีจุดยืนชัดเจน 2 ข้อคือ 1.รักและปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ถ้าใครคิดล้มล้างจาบจ้วงสถาบันไม่ต้องมา 2. ต้องประกาศจุดยืนชัดเจนว่าสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ต่ออีก 1 สมัย และเราพร้อมจะผลักดันพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ว่านายกฯจะสังกัดพลังประชารัฐหรือไม่ เราพร้อมสนับสนุน ตนเคยพูดเราว่า ถ้าพรรคพลังประชารัฐสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ และต้องเสนอคนเดียวเท่านั้น รวมไทยสร้างชาติก็พร้อมที่จะสนับสนุนรวมกับพลังประชารัฐ

เมื่อถามอีกว่าถ้านายกรัฐมนตรีไม่ลงเล่นการเมืองต่อ เสกสกล กล่าวว่า เราก็จะสนับสนุนใครก็ตามที่มีจุดยืนปกป้องสถาบัน ใจซื่อมือสะอาด ไม่โกงชาติบ้านเมืองเหมือนอดีตผู้นำบางคน แต่ถึงอย่างไร ตนมั่นใจว่าพล.อ.ประยุทธ์ยังสู้ต่อ ยังอาสาทำงานให้ประเทศชาติบ้านเมืองต่อไป

เมื่อถามว่าบิ๊กเนมที่จะมามีชื่อ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ตามที่เป็นข่าวหรือไม่ นายเสกสกล กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องไปถาม พีระพันธุ์เอง แต่ตนไม่อยากให้ไปเจาะจงรายชื่อใคร เพราะบางคนยังไม่ได้ออกจากสมาชิกพรรคเดิม จะผิดกฎหมายพรรคการเมืองได้ แต่ยืนยันว่ามีหลายคนที่บิ๊กเซอร์ไพรส์จะมาร่วมงานกับเรา ส่วนหนึ่งเป็นชื่อตามที่มีข่าว เพราะมีการพูดคุยกันระดับหนึ่งแล้ว ตอนนี้ขอเวลา และขอยืนยันว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ใช่เป็นพรรคของ กปปส.ตามที่เป็นข่าว และยืนยันว่าไม่มีสีเสื้อ แต่เป็นรวมไทยสร้างชาติเป็นสโลแกนที่นายกฯ อยากเห็นคนไทยทุกคนรวมพลังกันสร้างบ้านสร้างเมืองให้เกิดความมั่นคงเข้มแข็งต่อไป 

เมื่อถามว่าถ้าพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ทั้งคู่ ในการเลือกตั้งจะตัดคะแนนกันหรือไม่ เสกสกล กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ที่ประชาชนจะตัดสิน ยืนยันว่าในทางการเมืองไม่มีการตัดคะแนนกันอยู่แล้ว อยู่ที่ประชาชน เราไปตัดสินแทนประชาชนไม่ได้

เมื่อถามว่า ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการสร้างความขัดแย้งระหว่างรวมไทยสร้างชาติกับพลังประชารัฐใช่หรือไม่ สกสกล กล่าวว่า มีแต่จะเป็นพันธมิตรกัน ตนให้ความเคารพ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันไม่มีความขัดแย้ง ถ้าพลังประชารัฐสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯต่อ รวมไทยสร้างชาติจะเป็นพรรคคู่ขนานที่จะหาสมาชิก ถ้าประชาชนไม่เลือกพลังประชารัฐก็มาเลือกรวมไทยสร้างชาติได้ ถือเป็นพันธมิตรกัน

"เราพร้อมที่จะเอา ส.ส.ไปยกมือสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีร่วมกับพลังประชารัฐ และวันนี้สเปก พรรครวมไทยสร้างชาติคือ พล.อ.ประยุทธ์เท่านั้น เมื่อไหร่ที่พล.อ.ประยุทธ์วางมือทางการเมืองค่อยมาคิดถึงคนอื่นต่อ"

เมื่อถามว่า คาดว่ารวมไทยสร้างชาติจะเป็นพรรคชนาดไหน เสกสกล กล่าวว่า เราส่งสส.ครบ 400 เขต บัญชีรายชื่อ 100 ครบทุกคน ซึ่งความตั้งใจเราก็อยากให้ได้มากที่สุด แต่จะได้มากแค่ไหนอยู่ที่ประชาชน ในใจเราอยากเป็นพรรคใหญ่อยู่แล้ว ซึ่งไม่แน่เหมือนกันประชาชนอาจจะรวมใจเป็นหนึ่งเดียวเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ อาจจะแลนสไลด์ชนะถล่มทลายมากกว่าพรรคเพื่อไทยก็ได้ใครจะไปรู้ 

รวมไทยสร้างชาติ -DC7E-41AC-8A9C-850A15A67D03.jpegเสกสกล แรมโบ้ -0280-439B-9114-FE7B9FD971C5.jpeg

รวมไทยสร้างชาติประชุมใหญ่ เคาะกก.บห.

เวลา 10.00 น.วันที่ 31 มี.ค.ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เขตทวีวัฒนา ใน

พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้จัดให้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 โดยมีนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ก่อตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ ปรพล อดิเรกสาร สมาชิกพรรค สิทธิศักดิ์ พัฒนชัย สมาชิกพรรค

นากานต์ ชัยศรี อดีตมิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 1990 ในฐานะว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม. และสมาชิกพรรคเข้าร่วม โดยที่ประชุมได้มีการเลือกตั้งการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ได้แก่ ธัญย์ธรณ์เทพ แย้มอุทัย เป็นหัวหน้าพรรค ธนดี หงษ์รัตนอุทัย เลขาธิการพรรค

ธีระพล มลิวัลย์ เหรัญญิกพรรค ชัยรัตน์ จันทร์ทนดิษ นายทะเบียนสมาชิก

ขณะที่กรรมการบริหาร ประกอบด้วย สิทธิศักดิ์ พัฒนชัย ปรพล อดิเรกสาร กิตติเชษฐ์ พันธ์จรุง ว่าที่ร้อยโทไกรภพ นครชัยกุล กฤติเดช พุธวัฒนาภรณ์ พิชิต การจักร ศรายุทธ ยี่สุ่นเกด และวิฑูรย์ อริยะพงษ์ และเลือกตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคชุดใหม่ 

แรมโบ้ สุภรณ์ เสกสกล รวมไทยสร้างชาติ -FC22-413A-87CD-5F039868169F.jpeg

เปิดตัว "ส้ม ชนากานต์" อดีตนางงามไม่คาดหวังนั่ง ส.ส.

ชนากานต์ ชัยศรี ว่าที่ผู้สมัคร สส. กทม. พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงการเข้าร่วมงานทางการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่าส่วนตัวได้ทำงานภาคของนางงามมาโดยตลอดกว่า 30 ปี และหากมีโอกาสได้ทำงานเพื่อช่วยเหลือประชาชนได้มากขึ้น ซึ่งงานการเมืองจะเป็นส่วนช่วย และตนเองถือเป็นฟันเฟืองเล็ก ๆ  

ทั้งนี้ไม่ได้เจาะจงว่าจะลงสมัครพรรคการเมืองใด แต่ส่วนตัวได้รู้จักกับ เสกสกล อัตถาวงศ์ แกนนำพรรคมาก่อน และคอยให้การสนับสนุนตนเองในการทำโครงการเพื่อช่วยเหลือสังคมมาโดยตลอด ขณะเดียวกันผู้ใหญ่ในพรรคได้เล็งเห็นว่าตนเองน่าจะสามารถทำงานได้มากขึ้น แม้ว่าจะไม่ได้เชี่ยวชาญการเมือง แต่ได้ทำงานเพื่อประชาชนมาโดยตลอด ดังนั้นหากผู้ใหญ่ในพรรคให้โอกาสส่วนตัวพร้อม และเชื่อว่าจะสามารถช่วยประชาชนได้ในบางเรื่องโดยงานที่ถนัดโดยเฉพาะเรื่องการสร้างอาชีพ เพราะตนเองมีความถนัดในการทำอาหาร 

พร้อมกับไม่กังวลกับฐานเสียงเดิมในพื้นที่ เพราะตนเองไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องได้เป็น ส.ส. เพราะยังสามารถทำงานช่วยเหลือประชาชนได้ และยืนยันว่าแม้งานทางการเมืองของตนเองจะมาจากศูนย์ แต่ก็มีความตั้งใจที่จะเข้ามา และพร้อมที่จะเรียนรู้ในการลงพื้นที่