ไม่พบผลการค้นหา
"เพื่อไทย" ยืนหยัดร่วม "ยิ่งลักษณ์" สู้คดีจำนำข้าว ยืนยันนโยบายประชาชนได้ประโยชน์ ย้ำหลักฐานใหม่สู้ได้ในชั้นศาล เผยความพร้อม ถกงบ'69 ชูทำรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายได้จริง สภาฯ จ่อรับรอง พ.ร.ก.ไซเบอร์ ที่รัฐบาลประกาศใช้ เพื่อปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคฯ ได้ร่วมกันแถลงข่าวประจำสัปดาห์ ประจำวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม 2568 ในเรื่องความคืบหน้าจากคำพิพากษาในคดีจำนำข้าวของศาลปกครองสูงสุด เรื่องการอภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 เรื่องการแก้ไข พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าฯ เพื่อรองรับนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ตลอดถึงการเสนอให้ที่ประชุมสภารับรอง พ.ร.ก.ไซเบอร์ ที่ได้ประกาศและบังคับใช้ไปแล้ว โดยมีรายละเอียดดังนี้

นายดนุพร ปุณณกันต์ เริ่มต้นแถลงข่าวประเด็นแรกเรื่องคดีศาลปกครองสูงสุดมีคำวินิจฉัยคดีจำนำข้าวซึ่งส่งผลกระทบต่อนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยนายดนุพร ได้กล่าวว่าคดีจำนำข้าว เป็นกระบวนการที่เริ่มต้นในช่วงการรัฐประหารและยึดอำนาจรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งในช่วง 10 กว่าปีนั้น ทีมทนายความของอดีตนายกรัฐมนตรี ได้มีการต่อสู้คดีความทางศาลต่อเนื่องจนมีคำพิพากษาออกมาเป็นที่สุดดังที่ได้ทราบกันแล้ว ทางพรรคเพื่อไทยเองก็ยอมรับในคำพิพากษา ขณะเดียวกันก็มีพี่น้องสอบถามพรรคเพื่อไทยเข้ามาจำนวนมาก ทางพรรคเพื่อไทยขอเรียนว่า พรรคเพื่อไทยยอมรับคำพิพากษาของศาลแต่ก็ขอใช้ช่องทางที่ยังพอมีเหลืออยู่ในการต่อสู้ต่อไป โดยมีข้อมูลใหม่ในทางคดีว่า เมื่อปีที่แล้วก็มีการขายข้าวในคดีจำนำข้าวในโกดังอีกจำนวน 18.9 ล้านตัน ในราคาข้าวดี รวมถึงรายละเอียดอย่างอื่นๆ ซึ่งเป็นหลักฐานใหม่ เป็นเหตุผลใหม่ที่จะขอ ให้ศาลปกครองพิจารณาพิพากษาหรือชี้ขาดใหม่ได้ภายใน 90 วัน ตามพ.ร.บ.ศาลปกครองและวิธีพิจารณาปกครอง พ.ศ. 2542  

ดนุพร ปุณณกันต์

นายดนุพร ปุณณกันต์ กล่าวต่อถึงเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์ถึงเพจพรรคที่ได้มีการลงเนื้อหาเกี่ยวกับคดีจำนำข้าวภายหลังศาลปกครองกลางสูงสุดมีคำพิพากษาออกมาแล้วนั้น ก็ต้องขอเรียนว่านโยบายจำนำข้าว เป็นนโยบายหลักที่พรรคเพื่อไทยใช้หาเสียงตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งทำให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง และนโยบายการจำนำข้าวได้แถลงต่อรัฐสภาโดยอดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในขณะนั้นว่าจะเป็นนโยบายที่จะช่วยพลิกฟื้นคุณภาพชีวิตของชาวนาให้ลืมตาอ้าปาก หลุดพ้นจากความยากจนที่โดนกดขี่ได้ ดังนั้น จึงเหตุจำเป็นที่เพจพรรคเพื่อไทยจะต้องลงข้อมูลชี้แจงรายละเอียดว่าอดีตนายกรัฐมนตรีไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างไร

ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ

ด้านนายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ ได้กล่าวถึงการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญฯ ระหว่างวันที่ 28-31 พฤษภาคมนี้ นอกจากจะพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 แล้ว ก็ ยังมีกฏหมายสำคัญที่จะเสนอต่อรัฐสภา อีก 2 ฉบับ ได้แก่ พ.ร.ก. ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และ พ.ร.ก. การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งกฎหมายนี้มีความสำคัญอย่างไร ต้องบอกว่าใน พ.ร.ก. ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีนี้ ก็คือกฎหมายที่กำหนดให้เครือข่ายโทรศัพท์ ธนาคารเอกชน ร่วมรับผิดชอบต่อกรณีการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์หากไม่ได้ดำเนินการตามมาตรการอย่างครบถ้วน ดังจะเห็นได้ว่าเมื่อบังคับใช้แล้วก็ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการ ธนาคาร หน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมไม้ร่วมมือกับปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ นี่จึงเป็นอีกหนึ่งผลงานสำคัญของรัฐบาล ดังนั้น เมื่อมีการเปิดสภาสมัยวิสามัญฯ ก็บรรจุเข้าสู่การพิจารณาเพื่อให้ที่ประชุมรัฐสภารับทราบ ในวันพุธที่ 28 พฤษภาคมเป็นวาระแรกก็เชื่อว่าจะได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภาอย่างแน่นอน 

นอกจากนี้ นายชนินทร์ ยังได้กล่าวถึงนโยบาย รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายและการเดินทางขนส่งมวลชนด้วยระบบตั๋วร่วม เป็นนโยบายที่ต้องการลดค่าครองชีพให้ประชาชนและส่งเสริมให้พี่น้องใช้ระบบบริการขนส่งสาธารณะ โดยรัฐมนตรีสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.กระทรวงคมนาคมก็ได้ยืนยันว่าจะสามารถเริ่มต้นได้ในเดือนกันยายนนี้ โดย รมว.สุริยะ ได้ผลักดันร่างกฎหมายพระราชบัญญัติขนส่งทางราง และ พระราชบัญญัติการจัดการระบบตั๋วร่วมฯ ดังนั้น ใน การเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ โอกาสนี้ จะได้เสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ พ.ร.บ. รฟม.ฯ ซึ่งจะเป็นการพูดถึงแหล่งที่มาของเงินทุนที่สนับสนุนโครงการนี้ ให้สามารถใช้เงินกำไร เงินรายได้จาก รฟม. มาส่งเสริมการขนส่งสาธารณะ หรือชดเชยค่าโดยสารให้พี่น้องประชาชนได้ ดังนั้น การแก้ไข พ.ร.บ. รฟม. ในครั้งนี้จะทำให้นโยบาย รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายมีแหล่งที่มาของเงินทุนชัดเจน คือการนำเงินรายได้จากระบบรถไฟฟ้ามาอุดหนุนค่าโดยสารช่วยลดค่าครองชีพให้พี่น้องประชาชน

ประเด็นสุดท้าย คือการเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ซึ่งโดยปกติจะพิจารณากัน 3 วัน แต่รอบนี้เราเปิดสมัยประชุม 4 วัน โดยจะเริ่มอภิปรายกันตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม ในช่วงเย็นจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม โดยแบ่งเวลาการปภิปรายฝ่ายละ 20 ชั่วโมง รวม 41 ชั่วโมง โดย สส.พรรคเพื่อไทยได้เตรียมข้อมูลอภิปรายแนะนำการจัดทำงบประมาณของรัฐบาล เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด แก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่และตรงจุดมากที่สุด เพราะเราเชื่อว่า สส.ของเราในทุกพื้นที่จะรู้จักปัญหาในพื้นที่ และพูดแทนพี่น้องประชาชนไปยังรัฐบาลได้อย่างชัดเจน

“ประเทศไทยขณะนี้เผชิญปัญหาทางเศรษฐกิจในระดับโลกที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ รัฐบาลจึงต้องจัดทำงบประมาณให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ทั้งภายนอกและภายในประเทศ แต่อย่างไรก็ตามการปรับเปลี่ยนการจัดทำงบประมาณของรัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญกับประชาชนเป็นลำดับแรกแน่นอน” รองโฆษกพรรค กล่าว