วันที่ 3 ตุลาคม 2568 นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายในสภาว่า ขอเรียนสอบถามไปถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ ว่า ความเสียหายที่เกิดจากรัฐมนตรีช่วยฯ ที่ท่านอนุทินส่งเข้าไปเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อปี 2553 ได้ออกประกาศฉบับหนึ่ง คือประกาศฉบับที่ 10/2553 ซึ่งไปเปิดช่องให้มีการนำพืชตัดต่อพันธุกรรมจีเอ็มโอเข้ามาภายในประเทศทั้งๆที่ประเทศไทย ได้มีพ.ร.บ.กักพืช ปี 2507 ให้พืชจีเอ็มโอนำเข้ามาได้เฉพาะวิจัยและทดลอง มานานมากกว่า60ปีแล้ว แต่รัฐมนตรีที่ท่านอนุทินส่งเข้าไป กลับไปออกประกาศข้อ 5 เพิ่มว่า อนุญาตให้นำเข้าเพื่ออุตสาหกรรมได้
ทั้งนี้ การนำเข้าผลิตภัณฑ์หรือการนำเข้าล็อตใหญ่ต้องมีหลักกฎเกณฑ์กติกาที่เข้มงวด แต่จะเข้ามาแบบเป็นมโหฬาร หลายล้านตันต่อปีจนกระทั่งสินค้าหลายชนิดเสียหายไม่ว่าพืชกลุ่ม คาร์โบไฮเดรต ข้าวโพด ที่เราผลิตได้ 5 ล้านตันต่อปี แต่ความต้องการใช้จริงอยู่ที่ 9 ล้านตัน แต่กลุ่มทุน และโรงสีกลับไม่ซื้อจากเกษตรกร แต่ไปรอเอาพืชจีเอ็มโอที่ราคาต่ำมาใช้แทน ราคาทุกอย่างจึงดิ่งเหวหมด ข้าวโพด ถั่วเหลือง กระทบไปถึงกระทั่งข้าวที่เป็นกระดูกสันหลังของเกษตรกร ราคาตกต่ำหมด
ที่สอบถามท่านนายกรัฐมนตรีเพราะว่า ท่านเป็นคนส่งรัฐมนตรีช่วยเกษตรไปทำเรื่องนี้ขึ้นมา ซึ่งต่อมาท่านมอบหมายให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรรับผิดชอบ ก็นึกว่าจะเร่งช่วยเกษตรกรได้ ซึ่งผมได้เรียนสอบถาม ร.อ.ธรรมนัส ในสภาแห่งนี้เมื่อวันแถลงนโยบาย ท่านได้แสดงท่าทีกลางสภาว่ายอมจะยกเลิกประกาศ เพราะเห็นในความเสียหายที่เกิดขึ้น แล้วก็ยอมรับว่ามีข้อกระทบต่อเกษตรกร จริง และวันนี้ ก็ตั้งใจมาถามว่า เหตุใดประกาศฉบับที่ 10/2553 ที่เป็นกฎหมายที่ขัดกฎหมายแม่ พ.ร.บ.กักพืช ปี 2507 ยังไม่ถูกเดินหน้ายกเลิก
'เมื่อวานมีการประชุมของคณะกรรมาธิการการพาณิชย์ได้เชิญทั้งกรมวิชาการเกษตร มาตอบเรื่องนี้ แต่ฟังแล้วดูเหมือนกรมวิชาการฯไม่เต็มใจจะยกเลิกครับ ผมไม่มั่นใจจริงๆว่าท่านจะยกเลิก จึงมาเรียนถามย้ำว่า เหตุใดท่านจึงไม่เดินหน้ายกเลิก ทั้งที่ท่านรัฐมนตรีธรรมนัสได้รับปากในรัฐสภาวันแถลงนโยบายซึ่งเป็นสัญญาประชาคมแล้ว หากไม่ดำเนินการยกเลิกเกรงว่าจะเป็นการบิดเบือนคำมั่นสัญญาที่มีไว้ต่อรัฐสภา และประชาชน ขอความกรุณายกเลิกประกาศที่ทำความเสียหายให้กับพี่น้องเกษตรกรตรงนี้ได้หรือไม่ และอยากถามท่านจะดูแลพี่น้องประชาชนแล้วจะชดเชยพี่น้องที่เกิดความเสียหายจากประเด็นนี้กว่า9แสนล้านบาทได้อย่างไรตลอด15ปีที่ผ่านมานี้่' นายวรวัจน์ กล่าว
นายวรวัจน์ กล่าวอีกว่า ถ้ายังไม่ยอมยกเลิกจริงๆ ก็เชื่อว่าเกษตรกว่า30ล้านคนที่ประสบปัญหาหนี้สินเพราะขายพืชผลไม่ได้ราคา จะไม่มีทางเลือกพวกท่านเป็นสส.เป็นรัฐมนตรีและไม่ยอมให้พวกท่านเป็นรัฐบาลต่อไป อย่างแน่นอน และอย่างไรก็ตาม ผมอยากขอให้พี่น้องประชาชนร่วมกันลงชื่อรณรงค์ให้มีการยกเลิกประกาศ ที่ทำให้ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทั้ง GMO และ GEd ก่อนเกษตรกรไทยจะสูญรายได้มหาศาลมากกว่านี้ ผ่านทางช่องทาง https://chng.it/vC9nkNVFFf ด้วย