ต่างประเทศ
ผบ.ทบ.แอลจีเรียประกาศ "ผู้เป็นปฏิปักษ์กับกองทัพ คือ ศัตรูของประเทศ"
การชุมนุมเรียกร้องการปฏิรูประบบการเมืองการปกครองแอลจีเรียเกิดขึ้นต่อเนื่องทุกวันศุกร์ในกรุงแอลเจียร์ รวมเป็นระยะเวลา 17 สัปดาห์แล้ว โดยเป้าหมายของกลุ่มผู้ชุมนุมคือการเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลและนักธุรกิจที่เป็นเครือข่ายใกล้ชิดของอดีตประธานาธิบดีอับเดลาซิส บูเตฟลิกา ที่ประกาศลาออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการไปเมื่อ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา เพราะถูกกลุ่มผู้ชุมนุมรวมตัวต่อต้าน หลังจากที่เขาประกาศว่าจะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 5 รวมเป็นระยะเวลากว่า 20 ปี
การประกาศลาออกของอดีต ปธน.บูเตฟลิกา ส่งผลให้การเลือกตั้งทั่วประเทศถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด จากเดิมที่จะจัดขึ้นในวันที่ 4 ก.ค. 2562 และการชุมนุมของกลุ่มผู้ประท้วงรัฐบาลยังดำเนินต่อไป แม้จะมีผู้เข้าร่วมน้อยลงจากเดิมบ้างก็ตาม
ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมจำนวนมากระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของพันโทอาเหม็ด กาอิด ซาลาห์ ผบ.ทบ.แอลจีเรีย ที่เสนอว่ากองทัพพร้อมจะเป็นตัวกลางในการเจรจายุติความขัดแย้งระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและรองประธานาธิบดีอับเดลกาเดร์ เบนซาลาห์ ซึ่งตอนนี้เป็นประธานาธิบดีรักษาการ เพราะผู้ชุมนุมมองว่าเบนซาลาห์เป็นหนึ่งในเครือข่ายคนใกล้ชิดของอดีต ปธน.บูเตฟลิกา และกองทัพก็ไม่ใช่ตัวกลางทางการเมืองอย่างแท้จริง แต่เป็นหนึ่งในกลุ่มชนชั้นนำที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยื้ออำนาจในการปกครองประเทศ
ท่าทีต่อต้านกองทัพของผู้ชุมนุม ทำให้ ผบ.ทบ.กาอิด ซาลาห์ แถลงเตือนว่า ผู้ที่เป็นปฏิปักษ์กับกองทัพ เท่ากับเป็นศัตรูของประเทศชาติ แต่สำนักข่าวอัลจาซีราและดอยเชอเวลเลอรายงานว่า ผู้ชุมนุมที่รวมตัวกันประท้วงเมื่อวันศุกร์ที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา ยังคงยืนยันว่าไม่ต้องการให้กองทัพเข้ามาเป็นตัวกลางในการเจรจายุติความขัดแย้ง ทั้งยังเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมสอบสวนพฤติกรรมเจ้าหน้าที่รัฐบาลในสมัยของอดีต ปธน.บูเตฟลิกา โดยหลายรายถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวพันกับการทุจริตคอร์รัปชัน
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานความเคลื่อนไหวล่าสุด ระบุว่าศาลสูงของแอลจีเรียได้เบิกตัวอดีตนายกรัฐมนตรีอับเดลมาเล็ก เซลัล เข้าให้ปากคำในคดีที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงในระหว่างดำรงตำแหน่ง
ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน เจ้าหน้าที่ตำรวจแอลจีเรียเพิ่งจับกุมตัวมูรัด อุลมี ประธานบริหารบริษัท SOVAC ซึ่งเป็นคู่ค้าทางธุรกิจของบริษัทรถยนต์โฟล์กสวาเกน พร้อมตั้งข้อหาทุจริต ซึ่งการกระทำเหล่านี้ถูกมองว่าเป็นความพยายามล้มล้างเครือข่ายอำนาจเดิมของอดีต ปธน.บูเตฟลิกา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
