วิทยุรัฐสภารายงานว่า วันนี้ (8 กันยายน 2568) นายเจษ อนุกูลโภคารัตน์ ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานประสานการเมืองและรับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้รับมอบหมายจากนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง เป็นผู้แทนรับหนังสือจากนายฉัตรวัฒน์ พงษ์ธนาชลิตกุล ตัวแทนกลุ่มประชาชนต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน 4 ภาค พร้อมคณะ เพื่อขอให้ทบทวนและให้ตรวจสอบคุณสมบัติผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล และให้ตรวจสอบคุณสมบัติคณะรัฐมนตรี ผู้ช่วยรัฐมนตรี ว่าเข้าข่ายขาด .คุณสมบัติผิดจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือไม่

โดย นายฉัตรวัฒน์  กล่าวว่า ภายหลังหลังจากที่มีการแต่งตั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 อย่างเป็นทางการ  ตนยังคงมีข้อกังวลในการรับรองบุคคลเข้ามาดำรงตำแหน่งสำคัญในการบริหารประเทศ เนื่องจากอาจเป็นบุคคลที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอรัปชัน โดยเฉพาะการปล่อยปละละเลยไม่กำกับดูแลคดีเขากระโดง ซึ่ง เป็นคดีความที่ถูกตัดสินโดยศาลฎีกา และศาลปกครองในขณะที่ยังคงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอยู่ ซึ่งเป็นการขัดต่อจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างจงใจ อีกทั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล ยังเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฮั้ว สว. ที่มีความปรากฏตามการถูกหมายเรียกจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ให้ได้รับทราบข้อกล่าวหาอีกด้วย ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้ประธานรัฐสภาทบทวน ตรวจสอบคุณสมบัติบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี/รัฐมนตรี/และผู้ช่วยรัฐมนตรี ที่อาจส่อผิดจริยธรรมในการดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอื่นตามมาภายหลัง อันจะนำไปสู่ประเทศชาติ ที่ปราศจากการทุจริตคอร์รัปชันอย่างยั่งยืน

ด้าน ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานประสานการเมืองฯ กล่าวว่า ตนจะรับข้อร้องเรียนดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาและตรวจสอบความถูกต้องตามกระบวนการของนิติบัญญัติต่อไป