ไม่พบผลการค้นหา
ปลัดกระทรวงพลังงานเผย ประธานคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ชะลอการอนุมัติงบประมาณปี 2561 และ 2562 กว่า 1.5 หมื่นล้านบาท เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 21 ก.ย. นี้

นายธรรมยศ ศรีช่วย ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ที่มี พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน วันที่ 6 ก.ย. 2561 ยังไม่อนุมัติโครงการใดๆ ที่เสนอขอใช้งบกองทุนฯ ปี 2561 (เพิ่มเติม) และปี 2562 เนื่องจากต้องการรอความชัดเจนผลการตรวจสอบคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่เป็นข่าวในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับการใช้เงินกองทุนฯ บิดเบือน ขาดความโปร่งใส ซึ่งจะต้องรายงานผลตรวจสอบต่อคณะกรรมการกองทุนฯ ในวันที่ 21 ก.ย. นี้

โดยที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ เพียงแค่รับทราบในหลักการการจัดทำคำขอ 2 งบประมาณ คือ 1. งบประมาณจากกองทุนประจำปี 2561 (เพิ่มเติม) สนับสนุนกลุ่มโครงการไทยนิยมยั่งยืน ในวงเงิน 5,200 ล้านบาท ซึ่งมีผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคิดเป็นมูลค่า 1,640 ล้านบาท จากคำขอคือ 1) โครงการติดตั้งระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเกษตร เป้าหมาย 5,000 ระบบ จำนวนผู้ยื่นข้อเสนอ 2,630 ระบบ วงเงินที่ขอรับการสนับสนุน 2,090 ล้านบาท 2) โครงการติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับโรงเรียนชนบท เป้าหมาย 350 ระบบ จำนวนผู้ยื่นข้อเสนอ 653 ระบบ วงเงินที่ขอรับการสนับสนุน 4,626 ล้านบาท 3) โครงการติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เป้าหมาย 170 ระบบ จำนวนผู้ยื่นข้อเสนอ 319 ระบบ วงเงินที่ขอรับการสนับสนุน 1,310 ล้านบาท

2. งบประมาณจากกองทุนประจำปี 2562 ภายใต้ยุทธศาสตร์พลังงานตามแผนอนุรักษ์พลังงาน(EEP) และแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) ในวงเงิน 10,448 ล้านบาท มีผู้ผ่านเกณฑ์ 380 คำขอ คิดเป็นมูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท จากคำขอที่เสนอเข้ามา 955 โครงการ วงเงิน 33,341 ล้านบาท โดยคำขอที่เสนอเข้ามาแบ่งเป็น ส่วนที่ 1 ตามแผนอนุรักษ์พลังงานและแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก ส่วนที่ 2 ผลักดันยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และส่วนที่ 3 กลุ่มงานสนับสนุนโครงการไทยนิยมยั่งยืน

ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ เสนอแนะให้กลับไปพิจารณาใน 3 ประเด็น คือ 1. ควรกำหนดชื่อแผนงานให้สอดคล้องกับคำขอ เช่น การด้านประชาสัมพันธ์ควรระบุชื่อโครงการให้ชัดเจน 2. ควรพิจารณาด้านการกระจายโอกาสการขอใช้งบให้เกิดความทั่วถึง และ 3. คำขอใดที่ยังไม่สมบูรณ์ รายละเอียดไม่ครบถ้วน เพราะขาดประสบการณ์ในการจัดทำคำขอ ให้จัดส่งเจ้าหน้าที่ไปให้คำแนะนำ

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการฯ ได้รับทราบในหลักการในเบื้องต้นว่า ทุกโครงการที่เสนอมานั้นเป็นประโยชน์และมีความเหมาะสมในการดำเนินการ จึงขอให้มีการจัดทำเอกสารให้สมบูรณ์ เพื่อประกอบการพิจารณาในขั้นตอนสุดท้าย โดยให้จัดส่งเอกสารฉบับสมบูรณ์ภายใน 26 ก.ย. 2561 เพื่อให้สำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ส.กทอ.) ดำเนินการต่อไป