นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าว ถึงกรณีที่รัฐบาลมีแนวคิดที่จะทำประชามติว่าจะยกเลิกเอ็มโอยู 43 หรือ 44 หรือไม่ ซึ่งความเห็นแบ่งเป็นสองฝ่ายฝ่ายแรกบอกว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาทางเทคนิค เกรงว่าคนจะไม่เข้าใจ แต่อีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่าเนื่องจากเรื่องนี้มีการถกเถียงกันในสังคม ควรที่จะถามพี่น้องประชาชนเพื่อได้ข้อยุติว่าจะยกเลิกหรือไม่ ตนเห็นว่าเรื่องนี้ควรมีการถกเถียงและเอาความจริงและเสนอข้อมูลให้กับพี่น้องประชาชนอย่างครบถ้วน ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เอ็มโอยูทั้งสองฉบับนั้นมีข้อดีข้อเสียอย่างไรเพราะประโยชน์ของชาตินั้นตั้งอยู่บนความจริงไม่ใช่ตั้งอยู่บนความเท็จหรือมายาคติ ตนสนับสนุนให้ทุกภาคส่วน รวมทั้งสื่อมวลชน เอาความจริงและข้อมูลมาเสนอให้มากที่สุด
นายนพดลกล่าวต่อว่า ไม่ว่าจะมีการเดินหน้าทำประชามติหรือไม่ แต่ตนขอตั้งเป็นข้อสังเกตในเบื้องต้นซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ประชาชนควรรู้ดังนี้
1. หนึ่งเอ็มโอยู 43,44 ใช้มา 24-25 ปี ทำไมยังไม่มีรัฐบาลใดที่แจ้งยกเลิกไปยังกัมพูชา
2. เอ็มโอยู 43 นั้นลงนามในสมัยท่าน ชวน หลีกภัย พรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรี ตนไม่เชื่อว่าคนอย่างนายชวน หลีกภัย จะทำอะไรอย่างไม่รอบคอบและไม่ปกป้องดินแดนไทย
3. เอ็มโอยู 43 นั้นเป็นกรอบเจรจาระหว่างไทยกับกัมพูชา ไทยไม่ได้ไปยอมรับแผนที่ 1:200,000 ของกัมพูชา การเจรจาเรื่องเขตแดนถ้าเราไม่ยอมรับจุดใดก็ปฎิเสธได้
4. กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย มีความเห็นว่าเอ็มโอยู 43 และ 44 มีข้อดีมากกว่าข้อเสีย
5. เอ็มโอยู 43 เป็นข้อผูกมัดให้กัมพูชาจะต้องมาคุยเรื่องเขตแดนกับประเทศไทย ห้ามมีมือที่ 3 มายุ่ง หรือห้ามยกระดับ ไปยังเวทีโลกเช่นเวทียูเอ็นหรือศาลโลกเป็นการป้องกันไม่ให้กัมพูชายกระดับความขัดแย้ง ต้องผูกมัดคุยกับประเทศไทยเท่านั้น
6. เอ็มโอยู 43 ห้ามคู่กรณีไปเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ เป็นการห้ามไม่ให้กัมพูชาจะต้องสร้างชุมชน สร้างวัด สร้างตลาดหรือขุดคูเลต ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ ถ้ามีการละเมิดก็ต้องประท้วงและบังคับให้ต้องยุติการละเมิด
7. แม้ยกเลิกเอ็มยู 43,44 ไปก็ตาม กัมพูชาและไทยก็ต้องมีกลไกในการมาเจรจาเรื่องเขตแดนอยู่ดี ซึ่งก็ต้องมาเริ่มต้นหารือกันใหม่ นายนพดล ปัทมะ กล่าวต่อว่า ตนเสนอให้รัฐบาลได้มอบให้ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติหรือ สมช.ได้ไปศึกษาข้อดี ข้อเสียก็ได้ โดยเชิญกรมสนธิสัญญาและกฎหมายกรมแผนที่ทหาร กองทัพกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง มาพูดคุยกันถึงข้อดีข้อเสีย เพื่อเอาความจริง ข้อกฎหมายระหว่างประเทศและประเด็นเรื่องเขตแดนมาพูดคุยให้ถ่องแท้ เพราะคนไทยควรต้องรู้ความจริง และผลประโยชน์ของชาตินั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานของความจริง ความรู้และข้อมูล เพราะหากจะทำประชามติในวันเลือกตั้งจะได้ตัดสินใจถูกต้อง