วันนี้ (12 ส.ค. 2568) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย รศ.อภิญญา เวชยชัย รองประธานกรรมการคู่สมรสคณะรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง กรุงเทพฯ โดย นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทยด้านบริหาร เป็นผู้แทนปลัดกระทรวงมหาดไทย และนางสาวอรอุมา วรแสน ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้แทนนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย พร้อมด้วยข้าราชการสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และสมาชิกแม่บ้านมหาดไทย ร่วมพิธี
เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 รัฐบาลกำหนดจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติร่วมกับปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และในต่างประเทศ โดยในช่วงเช้า เป็นการจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศลพระสงฆ์สามเณร 94 รูป และภาคค่ำ เป็นพิธีวางพุ่มทองพุ่มเงินถวายราชสักการะเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เพื่อแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่ตลอดระยะเวลา 70 ปีแห่งการปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการเคียงข้างพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมหัตถศิลป์หัตถกรรมการทอผ้า ให้คงอยู่คู่กับสังคมไทยและเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ให้กับประชาชนในถิ่นทุรกันดาร ตลอดจนถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจนทำให้ทั่วผืนแผ่นดินไทยมีความร่มเย็น ด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด และพระองค์ยังทรงเป็น ผู้นำในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ด้วยทรงมีพระราชเสาวนีย์พระราชทานแก่รัฐบาล ข้าราชการ และประชาชนชาวไทย ได้ตระหนักถึงพิษภัยของยาเสพติด พร้อมทั้งพระราชทานโครงการกองทุนแม่ของแผ่นดินเป็นทุนตั้งต้นในการทำให้ประชาชนทุกหมู่บ้าน/ชุมชนได้ร่วมกันเสริมสร้างสิ่งที่ดีป้องกันไม่ให้คนในชุมชนหันไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเพียงพระราชกรณียกิจบางประการที่ยังผลให้อาณาประชาราษฎรได้มีความร่มเย็นเป็นสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน