ไม่พบผลการค้นหา
ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์แฉยุทธการ ‘เด็ดหัว DSI คนสำคัญทำคดี ฮั้ว สว.’ ที่เจอคำสั่ง 'ยืมตัว' ไปนั่งตบยุง ตั้งแต่ยังไม่แถลงนโยบาย บรรดาเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนทำคดี ‘ฮั้ว สว.’ และ ‘เขากระโดง’ ถูกระเบิดลงกระเด็นกระดอนไปคนละทิศคนละทาง

ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์ข้อความผ่านสื่อโซเชียลมีเดียแฟนเพจเฟซบุ๊ก วันนี้ (5 ตุลาคม 2568) โดยระบุว่า ระเบิดลง ดีเอสไอ

บรรดาเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ที่มีส่วนทำคดี ‘ฮั้ว สว.’ และ ‘เขากระโดง’ ถูกระเบิดลงกระเด็นกระดอนไปคนละทิศคนละทาง คนทำคดี คุมสำนวน ถูกล็อกคอบ้าง ถูกย้ายออกจากหน้าที่เดิมบ้าง ร้อนรนถึงกับ ‘ไม่เป็นอันกินอันนอน’ กันทีเดียว

ยังไม่ทันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ประเดิมงานแรกก็ย้ายเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเสียก่อนแล้ว โอนย้ายออกนอกหน่วยกันวุ่นวาย คำสั่งออกถี่ยิบ อ้างว่า “ยืมตัว” รีบถึงขนาดเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2568 ยังไม่ทันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา

กระทรวงยุติธรรม “ลักไก่” เซ็นหนังสือขอยืมตัว ร.ต.อ. เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผอ.กองคดีเทคโนโลยีสารสนเทศ ไปช่วยราชการที่สำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ซึ่ง ร.ต.อ.เขมชาติ เป็นคณะทำงานคนสำคัญในคดีฮั้ว สว. พูดตามประสาชาวบ้าน เป็นข้าราชการน้ำดี ทำคดีอยู่ดีๆ มีผลงาน ดันถูก “เด้ง” ให้มาเข้ากรุ ”งานที่ทำอยู่ ให้เลิกทำ งานใหม่ไปนั่งตบยุง“

ทั้งที่การแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเพิ่งเริ่มวันแรกเมื่อ 29 กันยายน 2568 นี่เอง ก่อน “แถลงนโยบายต่อรัฐสภา“ ล่วงหน้า 3 วัน ก็เปิดยุทธการ “เด็ดหัวดีเอสไอทำคดี ฮั้ว สว. คนสำคัญ” เสียแล้ว ทำไมต้องยืมตัวเจ้าหน้าที่คนสำคัญของคดี ฮั้ว สว.? ทุกวันนี้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอถึงกับนอนผวา หมดกำลังใจทำงาน ต้องรอลุ้นว่าจะถูก ”ยืมตัว“ กระเด้งออกนอกหน่วยเมื่อไหร่

คนทำงานตามกฎหมายกลับได้รับผลตอบแทนด้วย “ระเบิดเด้งฟ้าผ่า” ไปทีละคนสองคน ถ้าตรงไปตรงมาอย่างที่พูดจริง ก็ช่วย “ใจนิ่ง“ หากไม่ผิดก็อย่าไปร้อนตัว อย่าไปทำอะไรโฉ่งฉ่าง ถ้าจะทำก็ให้เนียนๆ หน่อย แต่นี่รีบเร่งเป็น “งานด่วน” ย้ายกันตั้งแต่ไก่ยังไม่ทันขัน ไม่ทันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โถ.. ยังมีเวลาถมถืดอีกตั้ง 4 เดือน ไม่ใช่ 4 วัน หรือว่าใจจริงส่วนลึกกลัวจะอยู่ไม่ถึง?

“ช้างตายทั้งตัว เอาใบบัวไปปิด” มันจะปิดมิดได้เสียที่ไหนเล่า?