ไม่พบผลการค้นหา
มอบส่วนหน้าปฎิบัติการได้ทันที ศบ.ทก. ยืนยัน กัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนแถมพบใช้อาวุธหนัก จรวดหลายลำกล้องยิงใส่พื้นที่พลเรือน คนไทยเสียชีวิต 1 เด็ก 5 ขวบสาหัส คนในครอบครัวสาหัสอีก 2

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์  โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการ ศบ.ทก. เปิดเผยว่ารัฐบาลได้รับรายงานจากที่ประชุม ศบ.ทก. และ ผู้แทนกองทัพบกว่า สถานการณ์ชายแดนนั้น ยืนยันชัดเจนจากข้อมูล และพยานหลักฐาน พบว่าทหารกัมพูชาได้เปิดฉากใช้อาวุธก่อน โดยมีการบินโดรน (อากาศยานไร้คนขับ) เข้ามาในพื้นที่ของประเทศไทยเพื่อยั่วยุ จากนั้น ทหารกัมพูชาได้เปิดฉาก ยิงเข้าใส่ ทหารไทย ซึ่งกัมพูชามีการใช้อาวุธหนักอย่างต่อเนื่อง โดยมีการใช้จรวดหลายลำกล้องขนาด122 มม.( จลก. BM 21) ยิงเข้าใส่พลเรือนไทยที่ชุมชนบริเวณชายแดนอำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ กระสุนฝ่ายกัมพูชา ตกใส่ บ้านประชาชนคนไทย โดยมี พลเรือนเสียชีวิตหนึ่งราย และเด็กอายุห้าขวบได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมคนในครอบครัวอีกสองคน ซึ่งฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครองได้อพยพประชาชนในพื้นที่ไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว ขณะที่ทหารไทยได้รับรายงานว่ามีบาดเจ็บกว่า 7 นาย 

โดยที่ประชุม ศบ.ทก.ได้รับรายงานว่ากองทัพไทยได้ตอบโต้อย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ โดย ศบ.ทก. ได้ให้กองทัพส่วนหน้าสามารถดำเนินการตัดสินใจในหน้างานได้ ส่วนการปิดด่านชายแดนได้ปิดทั้งหมด โดยดำเนินการปิดมาตั้งแต่ ช่วง 8 โมงเช้าวันนี้แล้ว

นายจิรายุ กล่าวต่อไป ว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี สั่งการให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการลดระดับทางการทูต โดยให้เอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชากลับประเทศ และให้ส่งเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย กลับประเทศ 

ส่วนการประท้วงในองค์กรต่าง ๆได้มอบให้ กระทรวงการต่างประเทศไปดำเนินการ ว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยถูกละเมิด และถูกยั่วยุ และสร้างสถานการณ์อย่างไรบ้างตลอด กว่า 7 เดือนที่ผ่านมาจากฝ่ายกัมพูชา โดยให้เตรียมพยานหลักฐาน ตั้งแต่ มาขุดสนามเพาะ และกลบ และถอนกำลังออกไป โดยทิ้งกับระเบิดไว้จำนวนมาก และพยานหลักฐานที่ทหารไทย ได้รับบาดเจ็บสาหัส ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นระเบิดใหม่ 

พิสูจน์ทราบได้ว่าเมื่อก่อนเดินลาดตระเวนเราไม่เคยมี แต่ตอนนี้เป็นระเบิดที่เกิดใหม่ทั้งหมดในเวลาใกล้เคียงกัน ดังนั้นเรายกระดับการตอบโต้ที่เหมาะสมที่สุดแล้ว