ไม่พบผลการค้นหา
'อนาคตใหม่' เปิด 6 รายชื่อ กมธ.สารเคมีเกษตรฯ จากพรรค ย้ำมีสัดส่วน ส.ส. - หมอ - นักวิชาการ-ชาวนา คนที่เข้าใจปัญหา คลุกคลีเกษตรกรใน กมธ. เชื่อมั่นสามารถนำความรู้ที่มีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ช่วยเหลือเกษตรกรหลุดพ้นจากการใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายกับชีวิต

นางสาวพรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรมีมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการควบคุมการใช้สารเคมีในภาคเกษตรกรรม ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากความตื่นตัวในพิษภัยของพาราควอต และสารตกค้างอื่นๆ ที่เป็นอันตรายทั้งต่อเกษตรกรและผู้บริโภค รวมถึงเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม โดยในกรรมาธิการ 44 คน ซึ่งแบ่งเป็นสัดส่วนจาก ครม. 5 คน และจากพรรคการเมือง 39 คน แบ่งเป็นสัดส่วนของพรรคต่างๆ เช่น เพื่อไทย 11 คน พลังประชารัฐ 9 คน อนาคตใหม่ 6 คน

อย่างไรก็ดี มีความน่าสนใจว่าในสัดส่วนของพรรคอนาคตใหม่ มีการตั้งกรรมาธิการที่มีสัดส่วนของ ส.ส. 3 คน และนักวิชาการ-ภาคประชาชน 3 คนเท่ากัน 

สัดส่วนของ ส.ส. ได้แก่ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นสัตวแพทย์ และได้อภิปรายอย่างมีสีสันเต็มไปด้วยเนื้อหาสาระ เกี่ยวกับพิษภัยของสารเคมีในภาคปศุสัตว์ ที่ตกค้างมาถึงผู้บริโภค รวมถึงผลกระทบในระยะยาวที่สารเคมีอันตรายต่างๆ มีต่อเกษตรกรและผู้บริโภค 

นอกจากนี้ ยังมีนายแพทย์เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.จังหวัดเชียงราย และรองโฆษกพรรคอนาคตใหม่ เข้ามาเสริมทีม กมธ.นี้ นายแพทย์เอกภพนอกจากจะเป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงกีฬา จากบทบาทอดีตแพทย์ประจำทีมฟุตบอลชาติไทย ยังใช้เวลานับสิบปีในฐานะแพทย์ประจำโรงพยาบาลรัฐในเชียงราย ได้สัมผัสผู้ป่วยที่เป็นเกษตรกร ซึ่งต้องเจ็บป่วยจากการใช้สารเคมี นอกจากนี้นายแพทย์เอกภพยังเคยทำแปลงผัก-นาข้าวสาธิตในโรงพยาบาล เพื่อชักชวนให้ผู้ป่วยเห็นว่าการทำเกษตรที่ปลอดภัย ไร้สารเคมี สามารถทำได้จริงอีกด้วย

ส่วนนายนิติพล ผิวเหมาะ หรือทนายต้น ส.ส. อีกคนที่อยู่ใน กมธ.สารเคมีเกษตรฯ เป็นทนายความนักสิ่งแวดล้อมและนักรณรงค์ด้านสิทธิสัตว์มาอย่างยาวนาน ใช้เวลาหลายปีในวงการต่อสู้เพื่อพิทักษ์ช้างจากการตายด้วยการกินพืชผลการเกษตรที่ปนเปื้อนสารเคมีในพืชไร่ รวมถึงรณรงค์ด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการใข้สารเคมีในภาคเกษตรต่อเนื่อง 

แม้ทีม ส.ส.อนาคตใหม่ จะมีผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ และสิ่งแวดล้อมอยู่ไม่น้อย แต่ทางพรรคก็ยังมอบโควต้าอีกถึงครึ่งหนึ่งให้กับผู้เชี่ยวชาญจากนอกพรรค คนแรกได้แก่ รศ.ดร.พวงรัตน์ ขจิตวิชยานุกูล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการ ด้านวิจัยและนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร นักวิจัยด้านวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมผู้ต่อสู้เรียกร้องให้รัฐบาลไทยแบนพาราควอตและสารเคมีอันตรายในภาคเกษตรมาอย่างต่อเนื่อง จนเคยถูกกดดันให้ลาออกจากม.นเรศวรมาแล้ว 

กมธ.ในสัดส่วนคนนอกอีกคนของอนาคตใหม่ก็ดีกรีไม่ธรรมดา นางสาวปรกชล อู๋ทรัพย์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช หรือไทยแพน เจ้าของผลงานการตรวจผัก-ผลไม้ในตลาดทั่วประเทศไทย เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้คนไทยได้ทราบข้อมูลน่าตกใจว่าผักผลไม้ในท้องตลาดร้อยละ 41 มีสารเคมีตกค้างเกินมาตรฐาน

กมธ.สัดส่วนคนนอกคนสุดท้าย คือนายอนุกูล ทรายเพ็ชร เคยเป็นผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ในสุรินทร์ อนุกูลเป็นลูกชาวนา ที่เห็นความยากลำบากและถูกเอารัดเอาเปรียบของครอบครัว ที่ตกอยู่ใต้ระบบเกษตรพันธสัญญา ต้องซื้อเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย ยาฆ่าแมลงจากบริษัทยักษ์ใหญ่ จึงตัดสินใจบุกเบิก folkrice ธุรกิจเพื่อสังคม ผลิตและจำหน่ายข้าวเกษตรอินทรีย์ที่ปลอดภัยทั้งต่อเกษตรกรและผู้บริโภค โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการยกระดับอาชีพเกษตรกร และให้คนไทยได้กินพืชผลที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ในราคาที่เหมาะสม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :