นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วยนางอมรรัตน์ โชคปมิตต์กุล, นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อและแกนนำพรรค พบปะพูดคุยกับสมาชิกพรรคถึงการทำงานใน 1 ปีที่ผ่านมาของสาขาพรรค ในวาระ ครบรอบ 1 ปี สาขาพรรคที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมจัดกิจกรรมต่อเนื่อง "รณรงค์ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร" ภายใต้แคมเปญ “ท.ทหาร ทันสมัย” โดยช่วงเช้า มีการเดินรณรงค์ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา บริเวณตลาดนัด วค. ในเขตเทศบาลนคร และที่ตลาดนัดคลองถมแกรนด์ไนท์พลาซ่า ในพื้นที่ตำบลธนู อำเภออุทัย ในช่วงเย็น ซึ่งชาวอยุธยาให้การตอบรับกิจกรรมครั้งนี้เป็นอย่างดี 

นายธนาธร กล่าวว่า วันนี้มาพูดคุยถึงการทำงานที่ผ่านมาของสาขาตามแนวทางพรรค และแนวทางการทำงานที่จะต้องต่อเนื่องไปในอนาคต ขณะที่การรณรงค์ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร และการเสนอร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เป็นส่วนหนึ่งในนโยบายหาเสียง เพื่อผลักดันในสภาที่แม้ไม่ได้เป็นรัฐบาลก็ต้องผลักดันประเด็นที่หาเสียงไว้กับประชาชน ซึ่งรวมถึงร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกผลกระทบจากคำสั่ง คสช. 17 ฉบับและร่าง พ.ร.บ คุ้มครองแรงงาน อันเป็น 3 นโยบายที่หาเสียงและกำลังผลักดันในสภา พร้อมขอให้ประชาชนที่เห็นด้วยกับ 3 นโยบายดังกล่าว ช่วยกันสนับสนุนให้เป็นกระแสในสังคมเพื่อโน้มให้ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ร่วมยกมือให้ผ่าน 3 วาระในสภาด้วย พร้อมกันนี้ ขอบคุณประชาชนที่ให้กำลังใจ รวมถึงนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติและรัฐมนตรีหลายสมัย ที่ชื่นชมบทบาทของตัวเองและเห็นคุณค่าการทำงานของพรรคอนาคตใหม่

ส่วนที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 151 กรณีผู้ถือหุ้นสื่อหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยนั้น นายธนาธร ระบุว่า

"ปากกาอยู่ที่เขา ไม่ได้อยู่ที่เรา เขาจะตัดสินจะใช้กฎหมายมารังแกก็เป็นเรื่องของเขา เราไม่มีอำนาจ ไม่มีพลังที่จะไปต่อต้านเขาได้"

นายธนาธรกล่าวด้วยว่า สิ่งที่พรรคอนาคตใหม่และตัวเองมี คือการรณรงค์เดินหน้าพูดคุยกับมวลชนให้เข้าใจถึงความตั้งใจที่ดีต่อประเทศชาติ ที่เชื่อว่าประชาธิปไตยไม่ใช่ทางเลือกของประเทศ แต่เป็นทางออกทางเดียวที่มีอยู่ ก่อนที่ระเบิดเวลาของรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะระเบิดขึ้น และก่อนความตึงเครียดทางสังคมจะระเบิดขึ้นเป็นความรุนแรง จึงมีทางเดียวมาช่วยกันรณรงค์ให้บ้านเมืองกับประชาธิปไตย และทุกคดีเตรียมพร้อมจะอธิบายข้อเท็จจริงให้ดีที่สุด ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลเพราะไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น อุดมการณ์ของพรรคและคนที่เชื่อมั่นในประชาธิปไตยก็ยังจะคงอยู่

เมิน 'วันชัย-ศรีสุวรรณ' จ้องหาเรื่อง  

สำหรับกรณีนายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา เปรียบเทียบตัวเองว่าจะมีอนาคตทางการเมืองเหมือนกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และได้แต่สู้นอกสภานั้น นายธนาธร ยืนยันว่าตัวเองจะเหมือนหรือไม่เหมือนอดีตนายกฯทักษิณไม่ใช่ปัญหา ไม่ใช่ประเด็น และย้ำว่าพรรคอนาคตใหม่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อต่อต้านการสืบทอดอำนาจของ คสช. และผลักดันสังคมที่เท่าเทียม ดังนั้นไม่ว่าอยู่ในหรือนอกสภา คนทุกคนมีความหมาย โดย ส.ส.จะทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนของประชาชนให้ดีที่สุดในสภา ส่วนผู้ที่อยู่นอกสภา ก็ยังช่วยกันรณรงค์ช่วยกันสร้างความเข้มแข็งให้พรรคได้ ทุกคนจึงมีคุณค่าต่อการเดินทางของพรรคอนาคตใหม่เท่ากัน

กรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จะไปยื่นเอาผิดว่าตนเองและพรรคทำลายทรัพย์สินราชการ จากการเขียนให้กำลังใจบนผนังห้องที่รัฐสภานั้น มองว่าเป็นส่วนหนึ่งการนำเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มาจุดประเด็นเพื่อทำลายพรรคอนาคตใหม่เท่านั้น พร้อมอธิบายว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นการให้กำลังใจ สร้างความสามัคคีในพรรค และขอให้สื่อมวลชนไปดู ซึ่งเป็นความสร้างสรรค์

แม้มีใครจะพยายามปล่อยข่าวลวงในโลก Social Media ว่าไปเขียนกระจกสภา แต่ความจริงเป็นสติกเกอร์แบบขุ่น ที่มีโลโก้ของพรรคที่แปะกระจกไว้ เนื่องจากระจกของสภาที่ห้องประชุมพรรคนั้นเป็นกระจกใส หลายพรรคการเมืองจึงใช้สติกเกอร์ขุ่นหรือม่านบัง เพื่อให้การประชุมหรือทำงานของพรรคสะดวก ไม่ถูกรบกวนจากภายนอก และทางรัฐสภาก็ไม่มีปัญหา ซึ่งพรรคได้พูดคุยและขออนุญาตแล้วด้วย

นายธนาธร ย้ำด้วยว่า กรณีนี้ถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก แต่ทำให้เห็นว่าความต้องการทำลายพรรคอนาคตใหม่มีอยู่จริง ไม่ว่าจะทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ ก็จะถูกจับผิดหรือฟ้องร้องไปหมด ซึ่งเป็นความพยายามทำให้พรรคอนาคตใหม่ไม่มีเวลาที่จะเดินหน้าต่อไป ต้องหันมาแก้ข่าว แก้ข้อร้องเรียนและคดีความทางด้านกฎหมายต่างๆ ซึ่งและเชื่อว่าประชาชนสามารถตัดสินจากข้อเท็จจริงต่างๆ ได้

นอกจากนี้ในส่วนกรณี ส.ส. ของพรรคโหวตสวนมติพรรคและมติพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยว่า "ก็เห็นแล้วว่าจุดยืนของเขาเป็นอย่างไร" ดังนั้น ไม่ต้องใส่ใจ ใครจะโหวตยังไงคิดว่าประชาชนและสื่อมวลชนก็เห็นชัดกันอยู่แล้ว ซึ่งพรรคได้ประกาศลงโทษผู้โหวตสวนมติพรรคเป็นการภายในไปแล้ว