ไม่พบผลการค้นหา
"ทำให้อินสตาแกรมกลับมาเป็นอินสตาแกรมได้แล้ว หยุดพยายามทำตัวเป็นติ๊กตอกสักที"

โลกของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียกำลังเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนหลังการประสบความสำเร็จของแพลตฟอร์มยักษ์อย่างติ๊กตอกที่ขณะนี้ให้บริการใน 150 ประเทศ และมีผู้ใช้งานมากกว่า 10,000 ล้านบัญชี นั่นคือปัจจัยที่ทำให้เฟซบุ๊กและอินสตาแกรมกำลังเร่งปรับตัวด้วยการผลักดันการใช้งานฟีเจอร์คลิปวิดีโอแบบสั้นอย่าง 'Reels' มากขึ้นอย่างชัดเจนจนอาจทำให้หลายคนเริ่มไม่พอใจ

มากไปกว่าความรำคาญของผู้ใช้งาน การปรับตัวของ Reels ในอินสตาแกรมกำลังทำให้ครีเอเตอร์ผู้สร้างคอนเทนต์มากมายกำลังสูญเสียรายได้จากที่เคยได้รับ

Love Me Tender Films หนึ่งในผู้ให้บริการภาพถ่ายและวิดีโอมืออาชีพในสิงคโปร์กล่าวกับสำนักข่าว CNA ว่าพวกเขาต้องปรับตัวอย่างหนักในการปรับรูปแบบในการถ่ายทำและนำเสนอผ่าน Reels ที่กำลังได้รับความนิยม แต่ก็ยังต้องเจอกับปัญหาหนักอย่าง 'การเข้าถึง' ที่คอนเทนต์ในบัญชีอินสตาแกรมนั้นมีผู้ชมลดลงอย่างชัดเจน

"เราพบว่ายุคของการสร้างผู้ติดตามแบบออร์แกนิกได้จบลงแล้วจากเดิมที่จะมีผู้เข้าชมคอนเทนต์แบบออร์แกนิกได้ราว 50-60% จากจำนวนผู้ติดตาม ตอนนี้มันลดลงไปเหลือเพียง 5-10% เท่านั้น เราไม่มั่นใจว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นเมื่อใด แต่มันชัดเจนขึ้นในช่วงการระบาดของโควิดที่ผ่านมา" Love Me Tender Films กล่าวพร้อมชี้ว่าสิ่งนี้กระทบกับรายได้อย่างมาก

ผู้คนทั่วโลกต่างแสดงความไม่พอใจต่อการเปลี่ยนแปลงนี้เช่นกัน ก่อนหน้านี้ คิม คาดาร์เชียน และ ไคลีย์ เจนเนอร์ เซเลบริตีชื่อดังของโลกก็เคยกล่าวว่า "Make Instagram Instagram again and stop trying to be like TikTok" หรือ "ทำให้อินสตาแกรมกลับมาเป็นอินสตาแกรมได้แล้ว หยุดพยายามทำตัวเป็นติ๊กตอกเสียที" แต่ทางอินสตาแกรมก็ออกมาชี้แจงว่า ผู้คนกำลังสนใจคอนเทนต์แบบคลิปสั้น อินสตาแกรมก็เพียงแค่ปรับตัวตามเท่านั้น