ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายชี้ว่า รัฐบาลใช้อำนาจไม่อยู่ในหลักนิติธรรม กรณีส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวทิศเหนือและทิศใต้ โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2562 วันที่ 11 เม.ย. 2562 เอื้อประโยชน์การต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าให้บริษัทหนึ่ง เนื่องจากเป็นการออกคำสั่งให้มีคณะกรรมการโดยปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน เจรจากับบริษัทบีทีเอสซึ่งเป็นบริษัทเดิมที่ได้รับสัมปทาน และยังเหลือเวลาในสัญญาอีก 10 ปี และเมื่อเจรจาเสร็จ ก็เข้าสู่เงื่อนไขตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนปี 2562 ซึ่งมีผลไปก่อนแล้วเมื่อเดือน มี.ค. 2562
แต่คำสั่งที่ออกมาเป็นการยกเว้นเงื่อนไข และแก้ไขสัญญาที่เหลืออีก 10 ปี ให้เชื่อมกันเป็นสัญญาเดียวกับส่วนต่อขยายไปอีก 40 ปี ซึ่งสภาฯ เคยมีมติไม่ให้ขยายสัมปทาน โดยให้รอจนครบสัญญา 10 ปี แล้วค่อยประมูลใหม่ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปทำตามกฎหมายร่วมทุน แต่ก็มีความพยายามต่อขยายสัมปทานให้ได้
ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เสียรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังถึง 2 คน คืออุตตม สาวนายน ซึ่งก่อนลาออกเคยมีหนังสือถอนความเห็นการต่อสัญญาสัมปทานสายสีเขียว เนื่องจากไม่เป็นไปตามกฎหมายร่วมทุน กลัวผิดกฎหมาย แต่ปรากฎว่าสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ส่งเรื่องถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรีต่อขยายสัญญาร่วมลงทุนอีก 40 ปี
จนเมื่อปรีดี ดาวฉาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มาเจอในการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรก และกลัวจะผิดกฎหมาย จึงถอนเรื่องนี้ออกมาเช่นกัน เพราะไม่ถูกต้อง จึงเป็นที่มาให้ปรีดีลาออก และถามถึงนายกรัฐมนตรีว่าจะเดินหน้าให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบเรื่องนี้หรือไม่ และใช้อำนาจออกคำสั่งตามมาตรา 44 ออกคำสั่งเอื้อนายทุนหรือไม่
นอกจากนี้ ยุทธพงศ์ ยังอภิปรายถึงการจัดซื้อเรือดำน้ำที่ไม่ได้จัดซื้อตามกฎหมาย ไม่ได้เป็นการซื้อแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) เพราะรัฐบาลโดยฝ่ายไทย พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ เสนาธิการทหารเรือขณะนั้น ทำสัญญาซื้อขายกับ 'เฮียลู่' ประธานบริษัท China Shipbuilding & Offshore International (CSOC) ซึ่งไม่ได้เป็นรัฐบาล และการโอนเงินก็ไม่ได้โอนไปหาหน่วยงานรัฐหรือกระทรวงการคลังจีน ไม่มีหนังสือมอบอำนาจจากรัฐหรือ Full Power ทั้งของฝั่งไทยและจีน และตอนนี้บริษัท CSOC ก็มาเปิดบริษัทที่ไทยแล้ว และมีหลายออฟฟิศหลายประเทศ ถึงถามเหตุถึงการปล่อยปละละเลยให้ไปเซ็นสัญญาที่ไม่ได้เป็นแบบรัฐต่อรัฐ โดยชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็กล่าวสั้นๆ ว่า ยุทธพงศ์ ก็จะได้มีข้อมูลไว้สู้คดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: