ภาพของผู้ชุมนุมชาวรัสเซียที่มีทั้งคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่และคนสูงวัย ออกมาเดินขบวนประท้วงตามท้องถนนในไม่น้อยกว่า 70 เมืองตั้งแต่นครเซนต์ปีเตอร์เบิร์กทางฝั่งตะวันตก จรดวลาดิวอสตอคเมืองฝั่งตะวันออกของประเทศ ถือเป็นเหตุการณ์ประท้วงครั้งใหญ่ในรอบหลายสิบปี แทบจะไม่เคยเกิดขึ้นในรัสเซียภายใต้เงาของการปกครองของ 'ซาร์แห่งรัสเซียยุคใหม่' ที่ชื่อ 'วลาดิเมียร์ ปูติน'
เหตุที่ผู้ชุมนุมชาวรัสเซียออกมาเคลื่อนไหวในครั้งนี้ เนื่องจากแสดงออกถึงความไม่พอใจต่อการที่รัฐบาลมอสโก สั่งควบคุมตัว 'อเล็กซี นาวัลนี' อดีตผู้นำฝ่ายค้าน และนักเคลื่อนไหวผู้เป็นหอกข้างแคร่ของปูติน หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นาวัลนี ถูกทางการรัสเซียควบคุมตัวระหว่างเดินทางกลับจากเยอรมนีในทันทีที่มาถึงสนามบินกรุงมอสโก
ผู้ชุมนุมไม่เพียงออกมาเดินขบวนประท้วงในประเทศเท่านั้น แต่ชาวรัสเซียในต่างแดนหลายชาติต่างร่วมเคลื่อนไหวในครั้งนี้เช่นกัน ประเมินว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวของ 'ราษฎรรัสเซีย' มีแนวโน้มต่อเนื่องนับจากนี้ เพื่อต่อต้านระบบปูตินที่ครองอำนาจในรัสเซียมาอย่างยาวนาน
หลายคนที่ติดตามข่าวนี้ อาจเกิดคำถามว่าชายที่ชื่อ 'อเล็กซี นาวัลนี' เป็นใคร เหตุใดเขาสามารถปลุกมวลชนคนรุ่นใหม่นับแสนคนทั้งในและนอกประเทศลุกขึ้นท้าทายรัฐบาลปูตินได้ 'วอยซ์' พาไปรู้จักชายผู้อาจเป็น 'จุดเปลี่ยน' ของการเมืองรัสเซียในอนาคต
ชื่อของ อเล็กซี อนาโตเลวิช นาวัลนี วัย 44 ปี ถูกพูดถึงจากการที่เขาออกมาเปิดโปงการทุจริตของเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลเครมลิน นาวัลนีเป็นอดีตหัวหน้าพรรคก้าวหน้า และเป็นผู้ตั้งฉายาให้พรรคยูไนเต็ด รัสเซีย พรรครัฐบาลปูตินว่าเป็น "พรรคแหล่งรวมคนโกงและโจร" (party of crooks and thieves)
ด้วยความที่ครอบครัวมีเชื้อสายรัสเซียและยูเครน นาวัลนีสามารถสื่อสารทั้งสองภาษาอย่างคล่องแคล่ว จบการศึกษาด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยมิตรภาพประชาชนแห่งรัสเซีย (RUDN University) เมื่อปี 2541 ก่อนจะผันตัวไปเรียนต่อด้านจัดการตลาดหลักทรัพย์ที่มหาวิทยาลัยการเงินภายใต้รัฐบาลสหพันธรัฐรัสเซีย (FinU) ทั้งยังเคยได้รับทุนไปแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยเยลในสหรัฐฯ
นาวัลนี สมรสกับ ยูเลีย นาวัลนายา มีบุตรด้วยกัน 2 คน ช่วงก่อนก้าวเข้าสู่วงการเมือง นาวัลนีถือเป็นทนายความด้านกฎหมายการเงินอนาคตไกล เขามักใช้เวลาว่างนั่งเขียนบทความวิจารณ์การทุจริตภาครัฐ รวมถึงอิทธิพลกลุ่มทุนผูกขาดขนาดใหญ่ที่เอื้อผลประโยชน์กับรัฐบาลโดยเฉพาะบรรดาบริษัทเอกชนด้านพลังงาน
นาวัลนีตัดสินใจทำมากกว่าแค่วิจารณ์รัฐบาลด้วยการลงสู่สนามการเมืองในการสมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีกรุงมอสโกในปี 2548 แต่ก็ไม่ชนะ เช่นเดียวกับปี 2554 เขาเขียนบทความเชิญชวนให้ชาวรัสเซียไม่ลงคะแนนให้พรรคการเมืองของปูติน แต่สุดท้ายพรรคยูไนเต็ดรัสเซียก็คว้าชัยชนะเช่นเคย
เมื่อก้าวแรกทางการเมืองไม่สำเร็จ นาวาลนี จึงก่อตั้งมูลนิธิต่อต้านการทุจริต (Anti-Corruption Foundation - FBK) เพื่อทำกิจกรรมเคลื่อนไหวและตรวจสอบการทุจริตของภาครัฐ ในปี 2551 เขาลงทุนจำนวน 300,000 รูเบิล ในรูปแบบหุ้นตามบริษัทพลังงานขนาดใหญ่หลายแห่งของรัสเซีย ด้วยเป้าหมายเพื่อสามารถเข้าถึงข้อมูลกิจกรรมการเงินของบริษัทเหล่านี้ และทำให้ข้อมูลทางการเงินเป็นที่โปร่งใสต่อสาธารณะ
ธ.ค. 2553 องค์กร FBK เปิดตัวแคมเปญ RosPil ที่แฉความร่ำรวยผิดปกติของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเขาเป็นนักการเมืองคนแรกๆ ที่กล้าลุกขึ้นตั้งคำถามต่อความโปร่งใสของวลาดิเมียร์ ปูติน ซึ่งขณะนั้นปูตินดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รวมถึงดิมิทรี เมดเวเดฟ ผู้นำรัสเซียในยุคนั้น
นาวัลนี ได้ชื่อว่าเป็นนักเคลื่อนไหวรุ่นใหม่ไฟแรง มีลีลาท่าทีการปราศรัยที่ถูกใจคนรัสเซียทั้งรุ่นใหม่รุ่นเก่าที่เบื่อการบริหารของปูตินและพรรคพวก จนได้รับฉายาว่าเป็น 'คู่ปรับของปูติน'
ปี 2557 นาวัลนี ถูกตัดสินในความผิดในสองกระทง จากที่อัยการรัสเซียอ้างว่าเขาฉ้อโกงโดยใช้มูลนิธิ FBK เป็นแหล่งบังหน้าเพื่อฟอกเงิน นำเงินบริจาคของประชาชนเข้ากระเป๋าเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ทั้งสองความผิดถูกมองว่าเป็นการความพยายามเพื่อสกัดกิจกรรมทางการเมืองของเขา ศาลตัดสินให้เขาต้องโทษจำคุก 5 ปี แต่ให้รอลงอาญา โดยได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งเรื่องดังกล่าว เขายืนยันความบริสุทธิของตัวเอง โดยบอกว่าเป็นความพยายามสกัดกั้นจากรัฐบาลเครมลิน กระทั่งต่อมา เม.ย. 2558 พรรคก้าวหน้า (Party of Progress) ที่เขาและพรรคพวกร่วมกันต่อตั้งมาเมื่อปี 2552 ถูกตัดการจดทะเบียนเป็นพรรคการเมือง แต่ต่อมาในปี 2561 นาวัลนีพร้อมนักเคลื่อนไหวอื่นๆ สร้างพรรคการเมืองขึ้นมาใหม่ภายใต้ชื่อ พรรคอนาคตรัสเซีย (Russia of the Future)
2561 รัสเซียกำลังก้าวเข้าสู่การเลือกตั้งประธานาธิบดี หลังจากที่ดิมิทรี เมดเวเดฟ กำลังจะหมดวาระ โดยครั้งนี้วลาดิเมียร์ ปูติน มีแผนกลับมาชิงเก้าอี้ผู้นำรัฐบาลเครมลินอีกครั้ง 'นาวัลนี' ซึ่งแม้จะถูกดำเนินคดีแต่อยู่ในระหว่างรอลงอาญา ยังคงเดินหน้าท้าทายปูตินด้วยการเปิดโปงการทุจริตภายในพรรคยูไนเต็ดรัสเซียของปูติน ผ่านช่องทางออนไลน์ในหลากหลายแพล็ตฟอร์ม
ไม่เพียงแค่นั้น ในการเลือกตั้งครั้งนี้ นาวัลนี แสดงเจตจำนงชัดเจนลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีรัสเซียจากปูติน ในนามพรรคอนาคตรัสเซีย ซึ่งแม้เขาจะระดมรายชื่อสนับสนุนมากกว่า 3 แสนรายชื่อในเวลา 40 วัน แต่ก็ถูกคณะกรรมการกลางการเลือกตั้งของรัสเซียตัดสิทธิ ด้วยเหตุผลขาดคุณสมบัติลงสมัครรับเลือกตั้งได้ เนื่องจากเคยต้องคำพิพากษาของศาลว่าได้กระทำความผิดฐานทุจริตคอร์รัปชันมาก่อน
แม้นาวัลนีจะโต้แย้งว่าข้อกล่าวหานั้นมีขึ้นด้วยเหตุผลทางการเมืองก็ตาม รวมถึงก่อนหน้านั้นในปี 2560 ศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป จะมีคำตัดสินว่านาวัลนีไม่ได้มีความผิดในคดีคอรัปชันตามที่ศาลรัสเซียกล่าวอ้าง โดยตามรายงานของ Freedom House และ ดิ อีโคโนมิสต์ (The Economist) เผยตรงกันว่า นาวัลนีคือคู่แข่งที่ "สมน้ำสมเนื้อ" กับปูตินที่สุด ทว่าผลการเลือกตั้งครัั้ั้งนัั้ั้นทำให้วลาดิเมียร์ ปูติน กลับมาครองอำนาจผู้นำสูงสุดของเครมลินอีกครั้ง
ก.ค. 2562 นาวัลนี รับโทษจำคุก 30 วัน ฐานจัดการประท้วงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางการ เขาล้มป่วยในช่วงถูกจองจำ โดยแพทย์วินิจฉัยว่า "ติดเชื้อผิวหนังอักเสบ" แต่ทีมงานเขายืนยันว่านาวาลนีไม่เคยมีอาการภูมิแพ้เฉียบพลันมาก่อน แต่แพทย์ประจำตัวเขาระบุว่าอาจได้รับสารพิษบางอย่าง สุดท้ายนาวาลนีได้รับการปล่อยตัว โดยภายหลังจากได้รับการปล่อยตัว เดอะวอลล์สตรีตเจอร์นัล ระบุถึงประวัติของนาวัลนีว่าเป็น "บุคคลที่ปูตินเกรงกลัวที่สุด" (The man Vladimir Putin fears most)
ช่วงระหว่าง 2562-2563 นาวัลนียังคงเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลปูตินอย่างต่อเนื่อง ทั้งผ่านการทำกิจกรรมการเมือง และการปราศรัยเดินขบวนประท้วง โดยเฉพาะในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2563 ที่จะเปิดทางให้ปูตินสามารถนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีไปได้ตลอดชีวิต
ส.ค. 2563 นาวัลนีหมดสติระหว่างโดยสารเครื่องบินจากเมืองทอมสก์กลับมายังกรุงมอสโก โดยนักบินต้องนำเครื่องลงจอดฉุกเฉินระหว่างทางเพื่อนำตัวนาวัลนีส่งโรงพยาบาล ผลการตรวจพบว่าเขาถูกสารพิษ 'โนวิช็อก' ซึ่งเป็นสารเคมีทำลายระบบประสาทที่นิยมใช้โดยสารลับตั้งแต่ยุคโซเวียต และเป็นสารเคมีชนิดเดียวกับที่ เซอร์เกย์ สกรีปอล อดีตสายลับรัสเซียซึ่งลี้ภัยในอังกฤษถูกลอบวางยาก่อนหน้านั้น
ทีมงานนาวัลนีเรียกร้องให้นำตัวเขาออกจากโรงพยาบาลในรัสเซียไปรักษาตัวยังเยอรมนีเพื่อความปลอดภัย กระทั่งช่วงก่อนปลายปี นาวัลนีได้รับอนุญาตออกนอกรัสเซียไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลในกรุงเบอร์ลิน
ประธานาธิบดีปูตินกล่าวในตอนหนึ่งของที่ประชุมใหญ่หน่วยงานข่าวกรองของรัสเซียว่า จากเหตุที่ 'พลเรือน' รัสเซียคนหนึ่งถูกลอบวางยาพิษนั้น ไม่มีทางเป็นฝีมือของหน่วยงานความมั่นคงรัสเซีย เพราะหากเป็นฝีมือของสายลับรัสเซียจริง "คงไม่ปล่อยให้รอดชีวิต" ปูตินกล่าวถึงกรณีนาวัลนี ซึ่งที่ผ่านมาผู้นำรัสเซียไม่เคยเอ่ยแม้แต่ชื่อนาวัลนีเลยสักครั้งเดียว
ช่วงที่เขาพักฟื้นนานหลายเดือน ทางการรัสเซียพยายามเล่นงานองค์กร FBK ของเขาด้วยการประกาศให้องค์กรต่อต้านการคอร์รัปชันนี้เป็น "ตัวแทนต่างชาติ" ซึ่งทำให้ FBK ตกเป็นเป้าถูกสอบสวนมากขึ้น พร้อมๆ กับคำสั่งของรัฐบาลเครมลินที่เรียกร้องให้นาวัลนีกลับประเทศ
นาวัลนีเดินกลับกรุงมอสโก เมื่อ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา ช่วงแรกเครื่องบินของนาวัลนีมีกำหนดลงจอดยังสนามบินวนูโคโว ส่งผลให้มีประชาชนจำนวนมากที่ทราบข่าวมารอต้อนรับ แต่ทว่าเครื่องบินกลับได้รับคำสั่งให้เปลี่ยนจุดหมายลงจอดยังสนามบินนานาชาติเชเรเมตเยโวแทน
ทันทีที่มาถึงยังสนามบินในกรุงมอสโก เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวเขาไปยังสถานีตำรวจ โดยภายก่อนที่นาวัลนีจะถูกส่งตัวจากสถานีตำรวจไปยังเรือนจำ เขาได้กล่าวต่อกลุ่มผู้ชุมนุมราวหลักร้อยคนที่มารอให้กำลังใจว่า "อย่ากลัวการลงถนน อย่าลงถนนเพื่อผม แต่ให้ทำเพื่ออนาคตของพวกคุณ"
เขามีกำหนดถูกควบคุมตัวจนถึง 15 ก.พ. เพื่อรอกระบวนการไต่สวนในคดีละเมิดเงื่อนไขการประกันตัวหลายคดี รวมถึงคดีที่อัยการรัสเซียอ้างว่ากำลังสอบสวนเขาฐานฉ้อโกงเงินบริจาค
ในระหว่างที่นาวัลนีถูกคุมตัว ทีมงานของเขาได้โพสต์คลิปวิดีโอชุดหนึ่งลงบนยูทูบซึ่งเปิดโปงเกี่ยวกับ 'วังหรูของปูติน' ซึ่งเป็นคฤหาสน์อันหรูหราขนาดใหญ่ริมทะเลดำ ซึ่งถูกระบุว่า 'บ้านตากอากาศ' ของปูตินหลังนี้ สร้างจากเงินสินบน ที่ผู้นำรัสเซียได้รับจากบรรดามหาเศรษฐีที่เขาสนิทสนม แม้ว่าโฆษกของเครมลินจะออกมามาปฏิเสธ ว่าคฤหาส์นนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับตัวเขาหรือครอบครัว แต่คลิปวิดีโอดังกล่าวมีผู้เข้าชมมากกว่า 20 ล้านครั้งในเวลาไม่ถึงหนึ่งวัน และมากกว่า 92 ล้านครั้งในระยะเวลาเพียงสัปดาห์เดียว แม้ว่าเครมลินพยายามแบนคลิปดังกล่าวก็ตาม
22-23 ม.ค. ประชาชนชาวรัสเซียรวมตัวประท้วง "ระบอบปูติน" ไม่น้อยกว่า 90 เมืองทั่วประเทศ ไม่เว้นแม้แต่เมื่อยาคุสต์ ซึ่งมีอุณหภูมิหนาวจัดถึง -30 องศา ชาวรัสเซียก็ยังร่วมเคลื่อนไหว คลิปวิดีโอกลายชุดแสดงให้เห็นภาพของเจ้าหน้าที่ซึ่งปะทะกับผู้ชุมนุมในระหว่างการพยายามสลายการชุมนุม ผู้ชุมนุมจำนวนมากตอบโต้เจ้าหน้าที่ด้วยการปาหิมะใส่ตำรวจ รวมถึงภาพที่ผู้ชุมนุมพยายามยื้อไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับผู้ชุมนุมรายอื่นๆ เป็นภาพที่เกิดขึ้นคล้ายกันในหลายเมือง ประเมินว่าทั่วประเทศมีผู้คนออกมาประท้วงต่อต้านปูตินไม่น้อยกว่า 100,000 คน และมีผู้ประท้วงไม่น้อยกว่า 3,500 คนที่ถูกจับกุม นับเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองครั้งใหญ่สุดของรัสเซียในรอบหลายสิบปี
เหตุการณ์นี้สร้างความไม่สบายใจให้กับรัฐบาลต่างชาติหลายประเทศรวมถึงสหรัฐฯ แต่ทำเนียบเครมลินออกแถลงการตอบโต้ว่าเรื่องนี้เป็นกิจการภายในของรัสเซีย ทั้งยังโจมตีเหตุชุมนุมว่าเป็นการต่อต้านอำนาจรัฐและละเมิดกฎหมาย โดยรัฐบาลเชื่อว่า "อำนาจจากต่างชาติ" อยู่เบื้องหลังการประท้วงนี้
แม้นาวัลนีถูกคุมตัว แต่ทีมงานของเขายังคงเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ 'ราษฏรรัสเซีย' ออกมาเดินขบวนแสดงพลังประท้วงตลอดช่วงสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ เช่นเดียวกับประชาชนที่ร่วมเคลื่อนไหว ยืนยันว่าการลงถนนเดินขบวนประท้วงจะต้องเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวนาวัลนี และปล่อย'เพื่อนผู้ชุมนุม'รายอื่นๆ ที่ถูกจับกุมเป็นจำนวนมาก
แม้ยังไม่อาจประเมินได้ว่า การชุมนุมของชาวรัสเซียที่ยังคงเดินหน้าต่อไปนั้น จะสามารถแรงขับเคลื่อนที่เปลี่ยนแปลงสังคมรัสเซียได้มากน้อยเพียงใด รวมถึงชะตากรรมของนาวัลนี นักเคลื่อนไหวคู่อริ 'ปูติน' จะเป็นเช่นไรต่อไป แต่สิ่งที่นาวัลนีกระทำตลอดหลายปีที่ผ่านมา ได้สร้างแรงกระเพื่อมต่อสังคมรัสเซียนับจากนี้เป็นต้นไปอย่างแน่นอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :