ไม่พบผลการค้นหา
กกร. ปรับลดจีดีพีปี 2562 เหลือโตร้อยละ 2.7 ถึง 3 หลังยังเผชิญปัจจัยเสี่ยง ซึ่งในไตรมาส 3 เศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะอ่อนแรง ด้านส่งออกประเมินติดลบสูงถึงร้อยละ 2 หนุนรัฐขยาย “ชิม ช้อป ใช้” เฟส 2 แต่ต้องหลังประเมินเฟสแรก

นายกลินทร์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ว่า ทิศทางเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/2562 ยังอยู่ในภาวะที่อ่อนแรงอย่างต่อเนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรก โดยมีปัจจัยถ่วงหลักจากความเสี่ยงในภาคต่างประเทศ ทั้งเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ผลจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน และการแข็งค่าของเงินบาท ฉุดให้การส่งออกยังคงหดตัวเป็นวงกว้างทั้งในรายการสินค้าและตลาดส่งออกหลัก กระทบต่อภาคการผลิต ในขณะเดียวกัน แรงขับเคลื่อนภายในประเทศก็แผ่วตัวลงทั้งการบริโภคและการลงทุน มีเพียงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ขยายตัวดีขึ้น ส่วนหนึ่งจากผลของฐานที่ต่ำในช่วงเดียวกันปีก่อน  

โดยภายใต้สถานการณ์ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจหลักในโลก, สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ยืดเยื้อ, ประเด็น Brexit และทิศทางเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้กกร. ได้ปรับลดประมาณการการส่งออกในปี 2562 มาติดลบที่ร้อยละ 2.0 ถึง ร้อยละ 0.0 จากเดิมติดลบร้อย 1.0 ถึงร้อยละ 1.0 และปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2562 ลงมาเป็นร้อยละ 2.7-3.0 จากเดิมคือร้อยละ 2.9-3.3

ทั้งนี้ กกร. เห็นด้วยที่รัฐบาลมีแนวคิดที่จะขยายมาตรการ “ชิม ช้อป ใช้” ในเฟสที่ 2 ให้ตรงกับฤดูกาลท่องเที่ยว โดยมองว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่แนะว่าการขยายมาตรการเฟส 2 ควรทำจากหลังประเมินมาตรการเฟสแรกก่อนว่าก่อให้เกิดผลในด้านบวกและด้านลบอย่างไร และที่สำคัญการขยายมาตรการ “ชิม ช้อป ใช้” ไม่ควรให้ชุดมาตรการกินระยะเวลายาวนานเกินไป

นอกจากนี้ กกร. ประเมินว่า มาตรการ “ชิม ช้อป ใช้” จะโดยมีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ประมาณ 20,000 – 30,000 ล้านบาท สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ประมาณร้อยละ 0.1-0.2


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :