ไม่พบผลการค้นหา
ที่ประชุมสภา มีมติเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 63 หลังพิจารณามาราธอน 4 วัน 3 คืน เห็นด้วย 253 เสียง งดออกเสียง 196 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 นายกฯ กล่าวขอบคุณสมาชิก พร้อมยืนยัน จะใช้งบฯ อย่างโปร่งใส คุ้มค่า พร้อมนำข้อเสนอ ส.ส.ทุกคนไปปรับปรุงแก้ไข

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท ในวาระที่ 2 และ 3 ใช้เวลาการพิจารณาทั้งสิ้น 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 8-11 มกราคม

ทั้งนี้ ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว มีทั้งสิ้น 55 มาตรา ปรับลดทั้งสิ้น 16,231 ล้านบาท เพื่อนำไปจัดสรรให้กับส่วนราชการ และองค์กรอิสระแทน และประเด็นที่มีการอภิปรายมากที่สุดคือ งบประมาณในสัดส่วนรายกระทรวง โดยเฉพาะกระทรวงกลาโหม ที่กรรมาธิการปรับลดมากที่สุดกว่า 1,518 ล้านบาท 

ในที่สุด วันนี้ (11 ม.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น.ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้มีมติเอกฉันท์เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท วาระ 3 ด้วยคะแนน 253 เสียง งดออกเสียง 196 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง และไม่เห็นด้วย 0 จากผู้เข้าร่วมประชุมทั้งสิ้น 450 คน

จากนั้น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าร่วมรับฟังการประชุมสภาฯ พร้อมกล่าวขอบคุณสภาผู้แทนราษฎรที่ให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 และระบุว่า ร่างงบประมาณเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืน การใช้จ่ายงบประมาณบรรลุตามเป้าหมาย ลดความเหลื่อมล้ำ ทั่วถึงประชาชน พร้อมน้อมรับข้อเสนอแนะของสมาชิก เพื่อส่งให้หน่วยงานต่างๆ ประกอบการพิจารณา ขอให้มั่นใจว่างบประมาณจะใช้ตามวัตถุประสงค์ โดยรัฐบาลจะกำกับดูแลให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ 

ต่อมา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ขอบคุณทุกคนที่รับผิดชอบหน้าที่ต่อบ้านเมือง และขอให้สมาชิกทุกคนได้ใช้วันหยุดชดเชยที่อดหลับอดนอน ก่อนจะสั่งปิดการประชุมในเวลา 17.41 น.

ทั้งนี้ ก่อนเดินทางกลับ นายกรัฐมนตรี ได้พูดกับสื่อมวลชนว่า ขอบคุณทุกคน และเมื่อถามว่า โล่งใจหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ตอบว่า ก็สบายใจอยู่แล้ว เพราะทุกคนช่วยกันอยู่แล้ว นี่ก็คือปัญหาแหละ ถ้างบประมาณออกไม่ได้ ก็ทำงานลำบาก จะได้ดูแลประชาชนได้เต็มที่ต่อไปนี้ รัฐบาลจะดูแลอย่างเต็มที่ ทุกคนก็ร่วมมือกันทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม คาดว่า จะส่งให้วุฒิสภาพิจารณาในจันทร์ที่ 13 มกราคม โดยวุฒิสภามีกรอบเวลาการพิจารณา 20 วัน แต่ไม่สามารถแก้ไขร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวได้ จากนั้น ส่งไปยังคณะรัฐมนตรี ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อประกาศใช้ต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: