ไม่พบผลการค้นหา
‘เพื่อไทย’ เตือน ‘พรรคประชาชน’ แกนนำ ‘พรรคฝ่ายดีล’ อย่าอายในการทำหน้าที่ ‘ฝ่ายค้าน’ ขยับส่งสัญญาณ ‘รัฐบาลภูมิใจไทย’ เรื่องบุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่ง ‘รัฐมนตรี’ ชี้ประชาชน ห่วง ‘คดีเขากระโดง- คดีฮั้ว สว.’ ถูกเป่าหาย

วันนี้ (14 กันยายน 2568) นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่หลายฝ่ายได้ออกมาตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับบุคคลที่เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรี รัฐบาลพรรคภูมิใจไทยว่า MOA พรรค มีข้ประชาชน - พรคภูมิใจไทย ที่มีข้อตกลงสำคัญคือการยุบสภาภายใน 4 เดือน แต่ขณะนี้รัฐบาลพรรคภูมิใจไทย ที่พรรคประชาชนเป็นแกนนำจัดตั้งขึ้นมานั้น ไม่เพียงล้มเลิกโครงการช่วยเหลือประชาชนหลายด้าน ยังมีแนวโน้มที่จะเดินหน้าโครงการเมกะโปรเจ็ค เหมือนจะไม่ได้อยู่แค่ 4 เดือนหรืออยู่เพื่อยุบสภาจริงหรือไม่ 

ที่สำคัญ รายชื่อบุคคลที่จะมารับตำแหน่งรัฐมนตรี ยังสร้างความกังวลให้กับสังคม โดยเฉพาะบุคคลที่จะเข้ามารับตำแหน่งในกระทรวงยุติธรรม ซึ่งถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นอดีตข้าราชการที่เติบโตมาจากพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และมีส่วนเชื่อมโยงใกล้ชิดกับบุคคลที่ถูกกล่าวหาในขบวนการฮั้ว สว. ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สอบสวนอยู่ เรื่องนี้พรรคประชาชนจะส่งสัญญาณอย่างไร

รวมทั้งมีกระแสข่าวพรรคภูมิใจไทย จะครอบครองกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีอำนาจกำกับดูแลกรมที่ดิน และครอบครองกระทรวงคมนาคม ที่มีอำนาจกำกับดูแลการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการทวงคืนที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ คืนเป็นของหลวง จึงเป็นเรื่องน่ากังวลว่า เรื่องที่ดินเขากระโดง และเรื่องคดีฮั้ว สว. จะเดินต่อไปอย่างไร

พรรคเพื่อไทย คงไม่เรียกร้องอะไรต่อพรรคภูมิใจไทย เพราะที่ผ่านมาสังคมได้พูดถึงและความกังวลต่อทั้งเรื่องเขากระโดงและการตรวจสอบขบวนการฮั้ว สว. มาอย่างต่อเนื่อง แต่แกนนำรัฐบาลก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่สำหรับพรรคประชาชนในฐานะที่ท่านเป็นคนดีลกับพรรคภูมิใจไทยนั้น ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ 

“หากมีรายชื่อท่านใดที่ท่านไม่สบายใจ เป็นรายชื่อที่ท่านได้เคยตรวจสอบมา ผมเรียนว่าท่านควรส่งสัญญาณไปยังพรรคภูมิใจไทยอย่างชัดเจน ว่าท่านสบายกับว่าที่รัฐมนตรีท่านไหน ไม่สบายใจกับรัฐมนตรีท่านไหน เพื่อจะทำให้ MOA ที่ท่านเชื่อถืออย่างมาก ที่ท่านบอกเองว่าท่านจะเป็นฝ่ายค้าน และท่าก็เรียกร้องให้เราเป็นฝ่ายค้านร่วมกับท่าน วันนี้พรรคเพื่อไทยก็ขอเรียนร้องไปยังท่านด้วย ให้ท่านเป็นฝ่ายค้าน แม้จะเป็นฝ่ายค้านที่ร่วมตั้งรัฐบาลภูมิใจไทย ท่านต้องแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้”

นอกจากนี้ ดนุพร ยังกล่าวถึงประเด็นข้อวิจารณ์ว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ อดีตนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง และกรณีที่อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ถูกส่งตัวเข้าไปบังคับโทษในเรือนจำอีกครั้ง ซึ่งมีทั้งนักวิชาการ และนักการเมือง ได้ออกมาชี้ว่า วันนี้เป็นช่วงเวลาขาลงขอพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งข้างหน้าจะเหลือไม่ถึง 100 เสียง หรือต่ำกว่า 50 เสียง

“ผมเรียนว่า พรรคเพื่อไทยมีความเป็นสถาบันทางการเมือง ผมไม่ตอบโต้ เราขอน้อมรับคำวิจารณ์ต่างๆ เพื่อจะเอาไปพัฒนาพรรคเราให้ดีขึ้น และผมขอเรียนไปยังโหวตเตอร์ของพรรคเพื่อไทย คนที่ยังศรัทธาและรักในพรรคเพื่อไทย ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราประสบกับวิกฤติทางการเมือง เราถูกรัฐประหารมา 2 ครั้ง ถูกยุบพรรคมา 2 หน แต่ทุกครั้งเราลุกขึ้นยืนกลับมาได้อย่างเข้มแข็ง”