วันนี้ (3 กันยายน 2568) ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แถลงมติของคณะกรรมการบริหารพรรคประชาชน โหวตหนุน นายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 พร้อมยืนยันว่าการตัดสินใจครั้งนี้ของไม่ได้ตัดสินใจโดยใช้ข้อคิดเห็น หรือในเรื่องของความนิยม ผลประโยชน์ของพรรคประชาชนเป็นตัวตั้ง แต่ตัดสินใจโดยมีเป้าหมายเพื่อจะนำพาประเทศไปสู่ทางออก ตามวิธีทางของระบอบประชาธิปไตยในรัฐสภา ป้องกันอำนาจนอกระบบเข้าแทรกแซง ปลดล็อคการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และคืนอำนาจให้กับประชาชนโดยเร็วที่สุด
หลังแถลงเสร็จ นายณัฐพงษ์ ได้ลงนามใน 'ข้อตกลงร่วมระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทย' ต่อหน้าสื่อมวลชนที่ อาคารรัฐสภา ทั้งนี้ นายณัฐพงษ์ ระบุว่า 'ข้อตกลงร่วมระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทย' จะมีผลก็ต่อเมื่อหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยได้ลงนามในข้อตกลงร่วมกันนี้ และมีถ้อยแถลงต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการ
ข้อตกลงร่วมระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทย กรณีการเลือกบุคคลไปดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และให้คณะรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ ทำให้สภาผู้แทนราษฎรต้องพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 159 พรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทยเห็นร่วมกันว่า นายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องทำหน้าที่ บริหารราชการแผ่นดินเพื่อแก้ไขปัญหาจำเป็นเร่งด่วนเฉพาะหน้าในระยะเวลาอันสั้น จัดทำประชามติเพื่อให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และยุบสภาผู้แทนราษฎร
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาชนจะให้ความเห็นชอบนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ภายใต้เงื่อนไขที่พรรดประชาชนและพรรคภูมิใจไทยตกลงร่วมกัน ดังต่อไปนี้
1. นายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องยุบสภาผู้แทนราษฎรภายใน 4 เดือน นับตั้งแต่วันที่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป
2. ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จำเป็นต้องมีการออกเสียงประชามติก่อนที่รัฐสภาจะดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอ้าณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ตามมาตรา 256 นั้น คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ต้องจัดให้มีการออกเสียงประชามติในประเด็นการแก้ไข รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 เพื่อนำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญญฉบับใหม่ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง โดยเร็ว ทั้งนี้ต้องไม่เกินกว่าวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป
3. ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่จำเป็นต้องมีการออกเสียงประชามติก่อนที่รัฐสภาดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ตามมาตรา 256 นั้น คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ พรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทย จะเร่งผลักดันร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อกำหนดให้มีกระบวนการจัดทำรัฐธธรรมนูญฉบับใหม่ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง ให้แล้วเสร็จในวาระของสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้โดยเร็ว เพื่อสร้างหลักประกันว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่จะยุบสภาผู้แทนราษฎรภายใน 4 เดือนจริง พรรคภูมิใจไทยต้องไม่ดำเนินการโดยวิธีการใดๆ เพื่อทำให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก
5. พรรคประชาชนยืนยันเป็นฝ่ายค้านต่อไป โดยจะทำหน้าที่ตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดิน ของรัฐบาลชุดใหม่อย่างเต็มที่ และจะไม่มีบุคคลใดจากพรรคประชาชนไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี