ไม่พบผลการค้นหา
ประธานรัฐสภา เตรียมนำคณะผู้แทนรัฐสภาไทยเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา หรือ IPU ครั้งที่ 151 ระหว่างวันที่ 18-25 ตุลาคม 2568 เสนอวาระเร่งด่วน เกี่ยวกับการปราบปรามสแกมเมอร์และอาชญากรรมทางไซเบอร์ต่อที่ประชุม

คณะผู้แทนรัฐสภาไทยเตรียมเสนอวาระเร่งด่วน เกี่ยวกับการปราบปรามสแกมเมอร์และอาชญากรรมทางไซเบอร์ต่อที่ประชุม IPU

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เตรียมนำคณะผู้แทนรัฐสภาไทยเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา หรือ IPU ครั้งที่ 151 ระหว่างวันที่ 18-25 ตุลาคม 2568 โดยทางคณะผู้แทนไทย เตรียมเสนอวาระเร่งด่วนเกี่ยวกับการปราบปรามสแกมเมอร์ และอาชญากรรมไซเบอร์ รวมถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการค้ามนุษย์ ซึ่งส่งผลให้โลกเดือดร้อน ตามข้อมติเรื่อง "การเสริมสร้างบทบาทของรัฐสภาในการต่อด้านอาชญากรรมทางไซเบอร์ข้ามพรมแดนควบคู่กับการธำรงไว้ซึ่งหลักมนุษยธธรรม" ซึ่งคณะผู้แทนไทยเป็นผู้เสนอ ได้เน้นย้ำถึงการเพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อนของอาชญากรรมทางไซเบอร์ในระดับโลก และผลกระทบต้านมนุษยธรรมที่ร้ายแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีผู้คนจำนวนมากอยู่ในกระบวนการค้ารค้ามนุษย์และถูกบังคับให้เข้าร่วมขบวนการหลอกลวงทางออนไลน์

ทั้งนี้ มติดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า อาชญากรรมทางไซเบอร์ไม่เพียงเป็นปัญหาทางเทคนิคเท่านั้น แต่ยังเป็นความท้าทายด้านกฎหมายและการเมืองที่จำเป็นต้องได้รับการดำเนินการอย่างเร่งด่วนจากรัฐสภาทั่วโลก

มติดังกล่าวเรียกร้องให้รัฐสภาเร่งปรับปรุงกฎหมายภายในประเทศให้ทันสมัย เพื่อกำหนดโทษต่อการบังคับให้กระทำความผิดทางไซเบอร์ ปิดช่องโหว่ขอจระบบการเงินดิจิทัล และกำกับดูแลภาคเอกชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการละเมิด พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเพิ่มกลไกตรวจสอบการปฏิบัติงานของหน่วยขานบังคับใช้กฎหมาย เสริมสร้างความร่วมมือข้ามพรมแดนผ่านกลไกต่าง ๆ เช่น องค์การตำรวจสากล (INTERPOL) สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNDDC) และสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงได้ (ASEAN) รวมถึงการนำแนวทางที่ให้ความสำคัญกับเหยื่อเป็นศูนย์กลางมาปรับใช้ เพื่อให้การช่วยเหลือ ฟื้นฟู และคืนสู่สังคมเป็นไปอย่างยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม มติดังกล่าวยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการแก้ไขปัจจัยอันเป็นแก่นแท้ของปัญหา เช่น ความยากจน การทุจริตและการชาดช่องทางการย้ายถิ่นที่ถูกกฎหมาย ตลอดจนการเสริมสร้างกฎระเบียบในการกำกับดูแลสกุลเงินดิจิทัลและการไหลเวียนของเงินทุนข้ามพรมแดน พร้อมทั้งส่งเสริมการสนทนาและความร่วมมือระหว่างรัฐสภา ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถต่อต้านอาชญากรรมทางไซเบอร์ได้โดยไม่ละเมิลสิทสิทธิทางดิจิทัล

สุดท้าย มติดังกล่าวได้เรียกร้องให้ สหภาพรัฐสภา (Inter-Parliamentary Union: IPU) จัดตั้ง คณะทำงานเฉพาะกิจว่าด้วยศูนย์หลอกลวงและอาชญากรรมทางไซเบอร์ข้ามชาติ เพื่อทำหน้าที่ติดตามการดำเนินการและส่งเสริมความร่วมมือทางกฎหมายระหว่างรัฐสภาต่าง ๆ อันจะนำไปสู่การสร้างสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่ปลอดภัย มั่นคงเคารพสิทธิมนุษยชน และมีมนุษยธรรมอย่างแท้จริง