ไม่พบผลการค้นหา
'ประเสริฐ' ยืนยันเป็นรัฐมนตรีดีอีมา 2 ปี ไม่เคยมีเรื่องเสนอผลประโยชน์ ลั่นรัฐบาลเพื่อไทยเอาจริงปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ผลงานคว้ารางวัล WSIS Prizes 2025 จาก ITU แปลกใจรัฐมนตรีใหม่ยังไม่ทำหน้าที่เจอไอ้โม่ง 40 ล้าน

ประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีไทย และ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ระบุผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย วันนี้ (1 ตุลาคม 2568) ว่า 

ผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ มา 2 ปี ไม่เคยมีผู้ใดมาเสนอผลประโยชน์ เพื่อไม่ให้จับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์และเว็บไซต์ จนทำให้มูลค่าความเสียหายจากอาชญากรรมออนไลน์ลดลงกว่าครึ่งและทำให้ทางกระทรวงดิจิทัลฯ ได้รับรางวัลชนะเลิศ WSIS Prizes 2025 จากสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ในโครงการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านอาชญากรรมออนไลน์

ผมแปลกใจที่รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลฯ คนใหม่ ยังไม่ทันได้ทำหน้าที่แต่มีคนมาเสนอมอบเงินผลประโยชน์ถึงเดือนละ 40 ล้านบาท ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ผมเข้าใจว่าที่เขากล้าเสนอเรื่องผิดกฎหมายเช่นนี้ อาจเป็นเพราะภาพลักษณ์ของท่านที่ทำให้เหล่ามิจฉาชีพเข้าใจได้ว่า มีช่องทางในการพูดคุยเรื่องดังกล่าว

เมื่อท่านยืนยันว่า “จะทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย” ผมจึงขอแนะนำให้เร่งดำเนินการหาตัวผู้กระทำความผิดมารับโทษโดยเร็ว

'อย่าดีแต่พูด อย่าทำตัวเป็นรัฐมนตรีต้นทุนต่ำ'

โดยเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2568 นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้กล่าวต่อที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ วาระเรื่องด่วน 1 คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เรื่อง การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ว่า 'ตนได้รับการติดต่อทางอ้อมเพื่อเสนอติดสินบน เดือนละ 40 ล้านบาท ให้ละเว้นการปราบปรามและจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ และเว็บไซต์ผิดกฎหมาย'

หลังจาก รัฐมนตรีดีอี ไชยชนก ชิดชอบ กล่าวในสภาฯ สส.พรรคเพื่อไทย ก่อแก้ว พิกุลทอง ได้ฝากให้ รัฐมนตรีไชยชนก ช่วยกระชากหน้ากากไอ้โม่ง 40 ล้าน นอกจากนี้ นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย ก็ออกมาระบุถึงเรื่องที่รัฐมนตรีไชยชนกกล่าวในสภาฯว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นเรื่องร้ายแรง มีแก๊งลวงโลกใช้สมาชิกสภามาเจรจาให้สินบนรัฐมนตรี ถึงรัฐนตรีไชยชนก จะอ้างว่าได้ปฏิเสธข้อเสนอไปแล้ว แต่เรื่องนี้จบแค่นี้ไม่ได้ นายไชยชนก ในฐานะ รมว.ดีอี ต้องใช้เวลาที่มีอยู่ 4 เดือนนี้ นำคนเจรจาติดสินบนกับรัฐมนตรีมาดำเนินคดีให้ได้

'ผมยังจำวันที่ท่านสะอึกสะอื้น พูดในสภาว่าไม่ยอมรับกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ได้ดี แต่วันนี้ท่านเล่าเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาติดสินบนด้วยอาการเรียบเฉย ไม่รู้ว่าสำหรับท่านถือว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดาหรืออย่างไร'

'ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านจะจัดการเรื่องนี้ให้ความจริงปรากฏ ไม่ใช่ปล่อยให้มันเป็นเพียงการตั้งข้อสังเกตเพื่อใส่ร้ายป้ายสีรัฐบาลเพื่อไทย เพราะหากเป็นเช่นนั้น ผมก็มีข้อสังเกตเช่นเดียวกันว่า ในสมัยที่รมว.DE ชื่อประเสริฐ จันทรรวงทอง เหตุใดผู้ร้ายจึงไม่กล้าปรากฏตัว แต่กลับมาปรากฏตัวเมื่อกระทรวง DE มีรัฐมนตรีคนใหม่ที่ชื่อ ไชยชนก ชิดชอบ'

ทั้งนี้ ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้ระบุผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย X เมื่อวันที่ (30 กันยายน 2568) ว่า เห็นท่าน รมต.ดีอี ป้ายแดง อภิปรายว่ามีคนกล้าเสนอเงินถึง 40 ล้านบาทต่อเดือน เพื่อแลกกับการไม่จับและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยท่านก็ตั้งคำถามว่า นี่เป็น “ประเพณีปฏิบัติ” ตั้งแต่สมัยรัฐบาลเพื่อไทยหรือไม่

ดิฉันในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย ขอชี้แจงว่า ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาภายใต้รัฐบาลเพื่อไทย ไม่เคยปรากฏกรณีที่มีผู้ใดติดต่อรัฐมนตรีของพรรคเราเพื่อเสนอสินบน เพราะแนวทางของเรามีจุดยืนชัดเจนในการปราบปรามอาชญากรรมและต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันมาโดยตลอด

ดิฉันอยากย้อนถามกลับไปยังท่านรัฐมนตรีว่า เหตุใดพอพรรคของท่านเพิ่งมาเป็นแกนนำรัฐบาลไม่กี่วัน ถึงได้มีคนกล้ารีบติดต่อหาท่านเพื่อเสนอเงินเร็วเพียงนี้

หรือเป็นเพราะพรรคของท่านมีภาพลักษณ์ที่ทำให้เหล่ามิจฉาชีพเข้าใจไปว่า มีช่องทางในการพูดคุยเรื่องที่ผิดกฎหมายเช่นนี้ได้ ใช่หรือไม่?

“ประเพณีปฏิบัติ” ที่ท่านกล่าวมา ดิฉันกังวลใจว่ามันอาจกำลังจะเริ่มขึ้นในรัฐบาลชุดนี้มากกว่าหรือไม่คะ

ที่สำคัญ การที่มีคนพยายามติดต่อเสนอเงินเช่นนี้ ถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 ฐาน “ให้สินบนเจ้าพนักงาน” ท่าน รมต.ป้ายแดงจึงยิ่งต้องพิสูจน์ความจริงใจ ด้วยการหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ ไม่ใช่เพียงใช้เวทีของสภาเพื่อโยนคำถามให้พรรคอื่นเสียหาย

เพราะหากปล่อยไว้โดยไม่เร่งดำเนินการ จะยิ่งย้อนกลับมาทำลายภาพลักษณ์ของรัฐบาลและพรรคของท่านเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้มากกว่าค่ะ

ล่าสุด วันนี้ (1 ตุลาคม 2568) มีรายงานข่าวว่า นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้สั่งการให้นายพชร อนันตศิลป์ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ติดตามประเด็นข้อเท็จจริงดังกล่าวอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งรวบรวมหลักฐาน เพื่อดำเนินการเอาผิดตามกฎหมาย ต่อไป