ไม่พบผลการค้นหา
ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย แนะวิธีเปิดร้านอาหาร-ตลาด อย่างปลอดภัย ป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 เตรียมพร้อมก่อนรัฐบาลประกาศอย่างเป็นทางการ กรณีคลายล็อกดาวน์ ให้หลายกิจการกลับมาเปิดให้บริการได้

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยและอดีต รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า การเปิดเมืองอย่างปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากปิดต่อไปประชาชนก็อยู่ไม่ได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าโควิดก็ยังอยู่กับเราไปอีกยาวนานพอสมควร ดังนั้นจึงควรรักษาสมดุลระหว่างการรักษาความสามารถในการควบคุมการระบาดของโรคได้ บวกกับการที่จะสามารถเปิดการทำธุรกิจการค้าการทำมาหากินได้อย่างปลอดภัย เพื่อที่ไม่ให้เศรษฐกิจทรุดไปมากกว่านี้ โดยมีข้อแนะนำสำหรับการเปิดตลาดสด ตลาดนัด และร้านอาหาร ดังนี้

ตลาดไท

ตลาดควรจัดทางเข้าและทางออกให้เหลือเพียง 1-2 ทาง จากเดิมที่เข้าได้ทุกด้าน โดยการใช้เชือกขึงรอบตลาด และกำหนดให้มีการตรวจวัดอุณหภูมิและล้างมือก่อนเข้าตลาด ขณะเดียวกันคนที่จะเข้าไปซื้อของก็ต้องใส่หน้ากากเพื่อป้องกันการระบาดของโรคและพยายามอย่าใกล้กันมากนัก (Social Distancing) ขณะเดียวกันต้องเพิ่มจุดล้างมือสำหรับคนที่ไม่สามารถหาเจลล้างมือได้ หรือหากมีเจลล้างมือเพียงพอก็ควรวางประจำไว้ในแต่ละร้าน

พ่อค้าแม่ค้าก็ต้องใส่หน้ากากเป็นหลักและใส่ Face Shield เป็นอุปกรณ์เสริม ส่วนร้านค้าที่ขายของกิน ต้องป้องกันละอองของน้ำมูกน้ำลาย หรือสารคัดหลั่งอื่นๆ จากคนขายและคนซื้อตกใส่อาหาร โดยทำโครงสร้างง่ายๆ ขึ้นมาด้วย PVC หรือไม้ไผ่ แล้วคลุมพลาสติกใส

ส่วนร้านค้าที่ไม่ใช่อาหาร แต่เป็นสินค้าที่ต้องหยิบมาดู หรือทดลองใช้ เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือเสื้อผ้า ก็ต้องเพิ่มให้มีแอลกอฮอล์เช็ดทุกครั้งหลังลูกค้าแต่ละคนใช้ลองแล้ว โดยย้ำว่าไม่ว่าตลาดนัดหรือตลาดสดเป็นที่ที่มีคนพลุกพล่าน ลูกค้าต้องระมัดระวังตัวเองอย่างสูงสุด และผู้ประกอบการถ้าอยากจะเปิดร้านได้ต่อไปก็ต้องเข้มงวดกับความสะอาดปลอดภัย

ร้านอาหาร.jpg

ส่วนร้านอาหารซึ่งเป็นธุรกิจที่ต่างคนต่างพึ่งพากัน ร้านอาหารขนาดใหญ่ก็จะต้องมีการตรวจวัดอุณหภูมิและล้างมือก่อนลูกค้าเข้าร้าน และลูกค้าต้องใส่หน้ากากอนามัยนี่ต้องเป็นหลัก ถ้าสวม Face Shield อย่างเดียวไม่สวมหน้ากากอนามัยก็ไม่ปลอดภัย

ภายในร้านต้องปรับให้นั่งห่างกันอย่างน้อย 1.5 เมตรขึ้นไป โต๊ะนึงควรจะให้นั่งรวมกันไม่เกิน 6 คนแล้วแต่ละโต๊ะก็ควรจะห่างกัน 1.5-2 เมตร เมื่อก่อนอาจจะเคยรับได้ 20-30 คนในร้านอาจจะลดจำนวนลูกค้าเหลือครึ่งหนึ่ง แม้รายได้อาจจะลดลงหน่อยก็ปรับตัวกันยังดีกว่ารายได้ติดลบ

นอกจากนั้น คนเสิร์ฟและคนปรุงอาหารจะต้องมีสุขอนามัยที่มากขึ้น ต้องตรวจวัดอุณหภูมิและเช็คอาการของตัวเองว่าไม่มีไข้ ไม่มีหวัด ไม่มีอาการที่ใกล้เคียงกับการป่วยโควิดทุกวัน สวมใส่เครื่องป้องกันตัวเอง ตั้งแต่หมวก, หน้ากาก, Face Shield และต้องหมั่นล้างมือ รวมทั้งใส่ถุงมือขณะประกอบอาหาร เมื่อประกอบอาหารเสร็จจะไปทำกิจส่วนตัวต้องเปลี่ยนถุงมือ

ส่วนร้านอาหารขนาดเล็ก เช่น ร้านข้าวแกง ก็ต้องทำเครื่องป้องกัน ใช้พลาสติกคลุมอาหาร แล้วค่อยตักอาหารใส่จานหรือใส่ถุงพลาสติกอีกที

อุปกรณ์ที่จะให้ลูกค้ารับประทาน เช่น จาน หรือช้อน ต้องทำความสะอาดและลวกน้ำร้อนก่อนทุกครั้ง เช่น บางโรงเรียนที่เอาหม้อหุงข้าวต้มน้ำเดือดตลอดเวลาเพื่อให้ใช้ลวกช้อนและจานก่อนรับประทานอาหาร แต่ถ้าร้านใหญ่เขาอาจจะมีเครื่องอบทำความสะอาดอยู่แล้ว

ขณะเดียวกันก็ควรมีเจลล้างมือวางไว้ที่โต๊ะ และเมื่อลูกค้าออกจากร้านไปแล้วก็ต้องใช้น้ำยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดโต๊ะทุกครั้ง เพราะว่าโต๊ะจะเป็นจุดสัมผัส ไม่ว่าจะสัมผัสทางมือ ทางแขน ลูกค้าก็อาจจะไปขยี้หู ขยี้ตาได้

"เราจะได้สร้างควมมั่นใจให้กับผู้บริโภคหรือลูกค้าของเราได้ แล้วพวกเราเองสำหรับเป็นลูกค้า กินข้าวนอกบ้านก็ไม่ใช่เรื่องอันตราย ถ้าเรารู้จักการป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัด แล้วขณะเดียวกันร้านก็ดูแลสุขภาพเราด้วยนะคะ" คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง