ไม่พบผลการค้นหา
โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ท้าให้ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เข้าร่วมการดีเบตผ่านทางทางโทรทัศน์กับเขา ในขณะที่ทั้งสองกำลังเข้าใกล้การแข่งขันเพื่อการหาเสียง ในศึกการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังจากการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งขั้นต้นในมลรัฐหลักๆ ของสหรัฐฯ หรือที่เรียกว่า “ศึกสุดยอดวันอังคาร”

ทรัมป์ ซึ่งค่อนข้างมีความแน่ชัดว่าจะเป็นตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ในการลงรับเลือกตั้งเป็นแคนดิเดตประธานาธิบดีของพรรค กล่าวว่าเขาพร้อมจะเข้าร่วมการจัดการดีเบตทางโทรทัศน์กับ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต โดยทรัมป์โพสต์ข้อความผ่านทางช่องทางออนไลน์ด้วยอักษรตัวพิมพ์ใหญ่ในภาษาอังกฤษทั้งหมดว่า "ทุกเวลา ทุกที่ ทุกสถาน" 

ในการรณรงค์หาเสียง ไบเดนกล่าวว่าทรัมป์ “กระหายความสนใจและกำลังดิ้นรนที่จะขยายการร้องโอดโอยของเขา”

อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการตกลงร่วมกันในการจัดดีเบตแคนดิเดตประธานาธิบดีก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ ในเดือน พ.ย.นี้แต่อย่างใด

การออกมาท้าทายไบเดนของทรัมป์ในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงที่ นิกกี้ เฮลีย์ ผู้ท้าชิงการเป็นแคนดิเดตหญิงจากพรรครีพีบลิกันสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือน พ.ย.นี้ ประกาศการถอนตัวออกจากการแข่งขัน

“เป็นเรื่องสำคัญเพื่อประโยชน์ของประเทศของเรา ที่ โจ ไบเดน และผมจะต้องถกเถียงกันในประเด็นต่างๆ ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออเมริกาและชาวอเมริกัน” ทรัมป์โพสต์บนเว็บไซต์โซเชียลมีเดียของเขาอย่างแพลตฟอร์ม Truth Social ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่เฮลีย์ประกาศถอนตัวออกจากการแข่งขัน

ทรัมป์กล่าวเสริมอีกว่า การดีเบตดังกล่าวกับไบเดนอาจดำเนินการโดยคณะกรรมการแห่งชาติของพรรคเดโมแครต หรือคณะกรรมาธิการดีเบตประธานาธิบดี ซึ่งคอยทำหน้าที่ดูแลการดีเบตของประธานาธิบดีในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา

ทรัมป์กล่าวว่าคณะกรรมการดีเบต ซึ่งประกาศตนว่าไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด แต่ถูกกล่าวหาโดยฝ่ายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ว่ามีอคติต่อทรัมป์ เป็น “บริษัทในเครือ” ของพรรคเดโมแครต

ในช่วงที่ผ่านมา ทรัมป์ ในวัย 77 ปี กล่าวโจมตีในหลายครั้งว่า ไบเดน ในวัย 81 ปี แก่เกินไป และมีอาการหลงๆ ลืมๆ เกินกว่าที่จะมาดีเบตกับเขา ในขณะที่ไบเดนตอบโต้กลับว่า ทรัมป์เองต่างหากที่แก่เกินไปแล้ว

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (6 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวตั้งคำถามต่อโฆษกทำเนียบขาวว่า การที่ไบเดนปฏิเสธการดีเบตกับทรัมป์อาจก่อให้เกิดความสงสัยใน "ความเฉียบแหลม" ของไบเดนหรือไม่ ก่อนที่โฆษกทำเนียบขาวจะตอบกลับกับสื่อเพื่อขอให้มีการตั้งคำถามต่อการรณรงค์หาเสียงของไบเดน ก่อนศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แทน

ทีมการรณรงค์หาเสียงของไบเดนไม่ได้ระบุว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเข้าร่วมการดีเบตกับทรัมป์หรือไม่ แต่มีการระบุว่าให้พรรครีพับลิกันหันความสนใจ ไปที่การแถลงนโยบายของไบเดนต่อรัฐสภาสหรัฐฯ ประจำปีนี้แทน “นั่นคือการสนทนาที่เราจะมีในเวลาที่เหมาะสมในรอบนี้” ไมเคิล ไทเลอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการรณรงค์หาเสียงของไบเดน กล่าว

“หากเขาอยากพบประธานาธิบดีไบเดนในช่วงเวลาทองของการออกอากาศอย่างมาก เขาก็ไม่จำเป็นต้องรอ เขาสามารถเข้าร่วมกับชาวอเมริกันหลายสิบล้านคนที่จะติดตามชมแถลงนโยบายในคืนวันพรุ่งนี้” ไทเลอร์กล่าวต่อ

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่าเขาจะจับตาดูการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาของไบเดน และ "จะแก้ไขให้ถูกต้องและตอบสนองอย่างรวดเร็ว" ต่อคำพูดของไบเดนในระหว่างการแถลงต่อรัฐสภาสหรัฐฐฯ

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ทรัมป์ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง หลังจากที่เขาปฏิเสธที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการดีเบตทางโทรทัศน์กับคู่แข่งจากพรรครีพับลิกันด้วยกัน เพื่อการเสนอชื่อตัวเองชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของวพรรครีพับลิกันในรอบการเลือกตั้งครั้งนี้

ทรัมป์อ้างเหตุผลของการไปร่วมดีเบตกับคู่แข่งจากพรรครีพับลิกันด้วยกันในเวลานั้นว่า เขาไม่ได้ประโยชน์จากการจัดงานดังกล่าว พร้อมกันนี้ ทรัมป์ยังอ้างว่าเขาเป็นผู้มีคะแนนนิยมนำในการเลือกตั้งอย่างกว้างขวาง

ทั้งนี้ ไบเดนและทรัมป์เคยดีเบตกัน 2 ครั้ง ระหว่างการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี 2563


ที่มา:

https://www.bbc.com/news/world-us-canada-68497838?fbclid=IwAR2Jq4J-BF0ckjabYIjjQQdo4JpzFGeZRwvdHFAZAlI9M7KBbbf5pxGAhI8