ไม่พบผลการค้นหา
รายละเอียดของการเดินทางร่วมประชุมและพูดคุยกับเอกชนในประเทศ ออสเตรเลีย เยอรมนี ฝรั่งเศส ด้วยความตั้งใจใช้ผ้าขาวม้าแทนผ้าพันคอของนายกฯ ไทยจนสร้างกระแสในโซเชียลมีเดีย การเดินทางพร้อมผ้าขาวม้านั้นไปพบปะหารือกับใครบ้าง?

เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีไทยเดินทางเยือนออสเตรเลีย เยอรมนี ฝรั่งเศส ระหว่าง 6-14 มี.ค.

ในภารกิจต่างๆ จะเห็นนายกฯ ใช้ผ้าขาวม้าหรือผ้าครามของจังหวัดต่างๆ แทนผ้าพันคอ ซึ่งเป็นความตั้งใจ อย่างไรก็ตาม นายกฯ ไม่ได้ใส่ตลอดทุกการประชุมทางการ เป็นแต่เพียงบางช่วงตอนหรือการพบปะผู้คนในแวดวงต่างๆ

รายละเอียดของการเดินทางและความตั้งใจใช้ผ้าขาวม้า รวบรวมจากการโพสต์ใน X ของเศรษฐา ดังนี้

ผ้าพันคอเศรษฐา

6 มี.ค.2567 ประชุมอาเซียน-ออสเตรเลีย

“คล้องผ้าขาวม้าสวยๆ จาก จ.ร้อยเอ็ดที่ประชาชนมอบให้ ก่อนเข้าร่วมประชุมเต็มคณะ (Plenary) ของผู้นำอาเซียน-ออสเตรเลีย ณ นครเมลเบิร์น เครือรัฐออสเตรเลีย เพื่อส่งเสริมและโปรโมทผ้าไทยครับ”

นายกฯ ระบุว่า การเดินทางมาร่วมประชุมที่ออสเตรเลียครั้งนี้ ตั้งใจมาดึงดูดให้ออสเตรเลียเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น โดยเฉพาะการค้า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการลงทุนสีเขียว (สิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ) ผ่านการลงทุนด้านพลังงานทดแทน สร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า ภายใต้ยุทธศาสตร์ Carbon Neutrality ในส่วนของ Green Finance ไทยอยู่ระหว่างออกพันธบัตรเพื่อความยั่งยืนในปีนี้

ในการประชุมเต็มคณะ นายกฯ ได้เสนอผลักดันการค้าการลงทุนระหว่างอาเซียน-ออสเตรเลีย ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ 5.5% ต่อปี ผ่าน FTA กรอบความร่วมมือ RCEP และ AANZFTA ตลอดจนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่าง Landbridge ที่จะเป็น Game Changer ในภูมิภาค ซึ่งไทยจะทำควบคู่ไปกับการพัฒนาด้านการบิน ขนส่งทางราง และด้าน Digital เป็นไปตาม Vision 8 ด้านที่เคยได้ประกาศไว้

ในส่วนการประชุมอย่างไม่เป็นทางการ ที่ประชุมหารือกันเรื่องการแก้ไขปัญหาระดับภูมิภาค ย้ำข้อเรียกร้องของอาเซียนในการยุติการใช้ความรุนแรงในกาซ่า ปล่อยตัวประกันทั้งหมด ตลอดจนความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนเมียนมา นอกจากนี้ไทยยังนำเสนอยุทธศาสตร์ฟ้าใส ‘CLEAR Sky Strategy’ ในการใช้นวัตกรรมแก้ปัญหาหมอกควันข้ามแดนกับประเทศเพื่อนบ้านทุกประเทศ


7 มี.ค. เยอรมนี ร่วมงานท่องเที่ยวใหญ่ที่สุดในโลก

“เดินทางถึงเยอรมันแล้วครับ ลงเครื่องมาอุณหภูมิอยู่ที่ 2 องศา ได้ผ้าขาวม้าสวยๆ จากพี่น้องชาวร้อยเอ็ดนี่แหละครับช่วยให้อบอุ่น

“วันนี้ผมมีภารกิจที่กรุงเบอร์ลินช่วงสั้นๆ คือ การเข้าร่วมงาน ITB Berlin 2024 งานแสดงสินค้าด้านการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจัดในเดือนมีนาคมของทุกปี พร้อมพบผู้บริหารบริษัทเอกชนของเยอรมนี

“ก่อนขึ้นกล่าววิสัยทัศน์ในงาน Internationale Tourismus-Borse Berlin 2024 ผมเดินชมบูธของประเทศไทยซึ่งมีหลายจังหวัดเข้ามาร่วมแสดง และได้เชินชมบูธของประเทศต่างๆ ที่มาในงานด้วย

“เนื่องจากมาร่วมบูธของประเทศไทย ผมเลยเลือกเอาฝ้ายครามธรรมชาติของ จ.สกลนคร มาคล้องคอ ‘สีคราม’ เมืองสกลเป็นสีย้อมผ้าที่เก่าแก่ที่สุด ถูกขนานนามว่าเป็น ‘ราชาแห่งสีย้อม’ ของดีต้องขออวดหน่อยครับ”

นายกฯ ระบุว่า มีภาครัฐและเอกชนจาก 180 กว่าประเทศเข้าร่วมงานนี้ สำหรับประเทศไทยในปี 2024 ตั้งเป้ารายได้รวมที่ 3.5 ล้านล้านบาท โดย 2.3 ล้านล้านบาทมาจากการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง มาเที่ยวไทยกว่า 8.5 ล้านคน เป็นรายได้ 670,000 ล้านบาท

โดยรัฐบาลตั้งใจให้ไทยเป็น Tourism Hub เป็น Homestay ของคนทั่วโลก จึงได้มีการปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ ปรับปรุงความสะดวกในการเดินทางเช่นการยกเว้นวีซ่าชั่วคราวเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับภูมิภาค นอกจากนี้ยังจะนำเสนอ Soft Power สนับสนุนศักยภาพของทุกจังหวัดเป็นจุดขายด้วย


8 มี.ค. เยือนฝรั่งเศส ภารกิจพบเอกชนใหญ่เมืองแฟชั่น

“คิดไว้ตั้งแต่ตอนที่ได้ผ้าขาวม้าผืนนี้มาตอนไปลงพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด ว่าสีสวยสดแบบนี้ จะเอามาคล้องคอ ใส่คู่กับสูทสีน้ำเงินตอนเยือนฝรั่งเศส การเยือนครั้งนี้ ผมตั้งใจมาเชิญชวนภาคเอกชนและบริษัทรายใหญ่ของฝรั่งเศสไปลงทุนบ้านเรา

“เช้านี้ผมมีทั้งหมด 12 meeting one on one กับภาคธุรกิจ เริ่มต้นด้วยการพูดคุยกับ CEO ของ ACCOR Group กลุ่มเครือโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยในประเทศไทยมีมากกว่า 100 โรงแรมภายใต้แบรนด์ ปัจจุบันทาง ACCOR อยากขยายการลงทุนในประเทศไทย ทั้งในเมืองรองและจังหวัดอื่นๆ

“นอกจานี้ผมได้พูดคุยกับทาง Michelin Guide ที่เข้ามาส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหารในประเทศไทยเป็นเวลานาน...ผมจึงขอให้ยกระดับความร่วมมือระหว่างไทยกับ Michelin เพื่อช่วยส่งเสริมและร่วมจัดงานอีเวนท์ต่างๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศ

“ช่วงสายได้พบกับ Federation de la Haute Couture et de la Mode ซึ่งเป็นองค์กรหลักในการจัดงาน Paris Fasion Week ได้พูดคุยถึงอุตสาหกรรมแฟชั่นของไทย และยกระดับ Young Talents Designer ในประเทศให้ได้มีประสบการณ์สัมผัสงานดีไซเนอร์ระดับโลก ซึ่งทางสมาพันธ์ก็ยอมรับในศักยภาพวงการแฟชั่นไทย ผมได้ขอความร่วมมือกับทางสมาพันธ์ให้จัดงานกิจกรรม หรือสถาบันการศึกษาในไทย เพื่อให้ความรู้กับเยาวชนต่อยอดความฝันก้าวสู่วงการแฟนชั่นระดับโลก

“อีกหน่วยงานที่มีความสำคัญด้านแฟชั่นคือ Colbert ซึ่งพยายามผลักดันแบรนด์ต่างๆ ทั่วโลกได้ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพและให้ความรู้แก่แบรนด์และนักออกแบบทั่วโลก ผมจึงได้เชิญองค์กรดังกล่าวมาให้ความรู้ โดยผ่านความร่วมมือกับคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟท์พาวเวอร์แห่งชาติด้วยครับ"

นายกฯ ระบุถึงโปรแกรมการพบเอกชนเพิ่มเติมว่า ได้พบกับ CEO บริษัทผลิตยาง Michelin ที่มีสำนักงานภูมิภาคในประเทศไทย และใช้ยางพาราในไทยเป็นจำนวนมาก บริษัทขอให้ทางรัฐบาลมีมาตรการส่งเสริมธุรกิจ เพราะขั้นตอนต่างๆ มีความล่าช้า นายกฯ จึงได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงอุตสาหกรรมเร่งรัดด้าน ease of doing bussiness ซึ่งทาง Michelin มีนโยบายลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอน

บริษัท Richemont เป็นกลุ่มบริษัทเจ้าของแบรนด์ระดับโลก ไม่ว่า Cartier, Van Cleef & Arples IWC Chole ซึ่งพบว่าประเทศไทยมียอดขายเป็นอันดับต้นๆ ของโลก จึงได้ขอความร่วมมือในการทำ collaboration กับแบรนด์ของไทย เพื่อส่งเสริมศักยภาพนักออกแบบรวมถึงวัตถุดิบไทยที่มีคุณภาพ และยังชวน Richemont มาทำอีเวนท์ในไทย ซึ่งบริษัทให้ความสนใจ

บริษัท Valeo ซึ่งเชี่ยวชาญการออกแบบและการผลิตส่วนประกอบ ระบบบูรณาการ และโมดูลสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ มีรายได้ 8.2 แสนล้านบาทต่อปี ชวนมาขยายการลงทุนในประเทศไทย ผลักดันการสร้างระบบนิเวศให้กับรถ EV

Airbus Group บริษัทผลิตอากาศยานและระบบป้องกันประเทศที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป เพื่อผลักดันศักยภาพไทยในการเป็นศูนย์ความเป็นเลิศระดับภูมิภาคด้านการสนับสนุนและปฏิบัติการบิน บริษัทพร้อมสนับสนุนรวมถึงความต้องการเครื่องบินของไทย

บริษัท Stellantis บริษัทผลิตรถยนต์อันดับ 4 ของโลก ผู้บริหารที่สนใจจะลงทุนในประเทศ ตามมาด้วย Global head music of google and YOUTUBE เพื่อหาแนวทางพัฒนาศักยภาพของวงการภาพยนตร์หรือเพลงไทย นอกจากนี้ยังหาความร่วมมือกันในการจัดอีเวนท์หรือคอนเสิร์ตใหญ่ๆ ในไทย โดยใช้แพลตฟร์อมยูทูปในการขยายผล


9 มี.ค. คุย Fomular E และอื่นๆ อีกมากมาย

“หลายคนคงเคยได้ยินชื่อการแข่งขัน Formula E ซึ่งเป็นการแข่งขันรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า วันนี้ผมมีโอกาสพูดคุยจิบน้ำชากับทางบริหาร ซึ่งเป็นผู้จัดรายการแข่งรถ EV ทั่วโลก เขาสนใจเข้ามาจัดการแข่งขันรถแข่งแบบ EV ในประเทศไทย”

นายกฯ ระบุด้วยว่า ปีที่ผ่านมา ยอดจองรถ EV ของไทยมีมากถึง 40% จากยอดจองทั้งหมด ทั้งนี้ Formula E จะเข้ามาสำรวจพื้นที่ใน จ.เชียงใหม่สัปดาห์หน้าเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดการแข่งขันในประเทศไทย

Steering comittee ของ Art Basel ซึ่งเป็นงานแสดงศิลปะนานชาติที่จัดขึ้นทุกปีที่เมือบบาเซิล สวิตเซอร์แลนด์ หาดไมอามี ฮ่องกง และตั้งแต่ปี 2022 เริ่มจัดที่ปารีส เป็นเวทีแสดงผลงานของศิลปินที่มีชื่อเสียง ดึงดูดผู้ชอบงานศิลปะครั้งละเกือบแสนคน นายกฯ จึงได้เชิญชวนให้ Art Basel มาจัดในไทยบ้าง

เศรษฐา - แพทองธาร ปารีส

ผู้บริหารห้าง Les Galaries Lafayette ห้างฝรั่งเศสระดับไฮเอนด์เน้นขายแบรนด์ดังระดับโลก มีสาขาในปารีส จีน การ์ตา UAE ลักเซมเบิร์ก และกำลังขยายไปอินเดีย นักท่องเที่ยวไทยแวะมาห้างนี้ 2% จากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด 35 ล้านคน ถือว่าเยอะมาก นายกฯ จึงหาโอกาสส่งเสริมนักออกแบบรุ่นใหม่ของไทยให้ได้แสดงศักยภาพโดยนำเอาสินค้ามาแสดงที่ห้างนี้

ผู้บริหารห้าง Tang Fre’res ซุปเปอร์มาร์เก็ตขายวัตถุดิบและสินค้าจากเอเชียที่มีสาขามากที่สุดนอกเอเชีย โดย 40% เป็นผลิตภัณฑ์นำเข้าจากประเทศไทย นายกฯ จึงชวนให้เขาซื้อสินค้าจากไทยให้มากขึ้น และได้แนะนำทางร้านทำมุมพิเศษที่ขายสินค้าไทย ซึ่งหากทำ FTA เสร็จสินค้าจากไทยจะเข้ามาได้อีก เช่น ข้าวหอมมะลิ วันนี้สินค้าไทยยังติดปัญหากฎเกณฑ์ที่เขาควบคุมอยู่ เช่น กะเพรา ซึ่งยังใช้ยาฆ่าแมลง นายกฯ จึงมอบให้กระทรวงพาณิชย์พูดคุยแล้วเอาตารางมากางว่ามีสินค้าใดติดปัญหาอยู่ จะแก้อย่างไร


10 มี.ค. กระเป๋ากระจูดในกรุงปารีส

“มาฝรั่งเศส เมืองแห่งแฟชั่น ผมตั้งใจเอาผลิตภัณฑ์กระจูดของดีจังหวัดนราธิวาส และผ้าขาวม้า จ.อุดรธานี ผ้าขาวม้าคือเครื่องหมายของการผูกมิตร มีความเป็นสากล มี multi-color ถ้าเราต่อยอดและขยายตลาดในต่างประเทศได้ ในอนาคตข้างหน้าผ้าขาวม้าผืนละ 50 บาท อาจยกระดับราคาให้เป็น 1,000 บาทได้ และนั่นคือการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับคนไทย”

กระเป๋ากระจูด

นายกฯ ระบุ หารือกับประธานห้างสรรพสินค้า Printemps ห้างค้าปลีก สินค้าประเภทแฟชั่นที่เก่าแก่ของฝรั่งเศส ชวนมาเปิดสาขาที่ไทย และชวนทางห้างจัดมุมแสดงสินค้าไทยระยะสั้น โดยเฉพาะ Showcase สินค้าที่ออกแบบโดยนักออกแบบรุ่นใหม่ของไทย คาดว่าปลายปีนี้จะได้ร่วมกันจัดอีเวนต์ หรือ pop-up ร่วมกันในประเทศไทย

11 มี.ค. พบประธานาธิบดีฝรั่งเศส

“คิดไว้ตั้งแต่ตอนลงพื้นที่ไปภาคอีสานและภาคใต้ว่าอยากเอาผ้าไทยและวัตถุดิบอื่นๆ ของไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่างผ้าครามสกล ผ้าขาวม้า อัญมณีไทย เครื่องจักรสาน และเครื่องหอมไทย มานำเสนอเป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าของแบรนด์ดัง ผมจึงตั้งใจใส่ผ้าขาวม้า จ.นครพนม เป็นผ้าพันคอ มาพบเพื่อแลกเปลี่ยนพูดคุยถึงเทรนด์ดีไซน์ระดับโลกกับเอกชนรายใหญ่ของอุตสาหกรรมแฟชั่น

กลุ่ม LVMH (Louis Vuitton Moet Hennessy) มีแบรนด์ระดับไฮเอนด์ถึง 75 แบรนด์ในมือ ตั้งแต่แฟชั่น อัญมณี เครื่องสำอาง น้ำหอม ไวน์ สุรา มีรายได้ประมาณ 3.1 ล้านล้านบาทต่อปี ผู้ซื้อส่วนใหญ่มาจากเอเชีย ไม่รวมญี่ปุ่นถึง 30% ขณะเดียวกัน Kering คู่แข่ง LVMH ซึ่งเป็นบริษัทสินค้าหรูฝรั่งเศส มีแบรนด์ในเครือ 18 แบรนด์ มีห้องทดลองนวัตกรรมวัตถุดิบ Meterials Innovation Lab ที่รักษาสิ่งแวดล้อมเป็นของตัวเอง ก็ได้แสดงความในใจในวัตถุดิบไทยและรับไปพิจารณา

เศรษฐา-มาครง

ช่วงบ่ายหารือกับประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอมานูว์เอล มาครง เรื่องที่ประเทศไทยจะเป็น Aviation Hub โดยขอให้รัฐบาลฝรั่งเศสสนับสนุนการลงทุนในประเทศไทย โดยเสนอให้ Airbus จัดตั้งสำนักงานภูมิภาคในไทย ด้านธุรกิจการบินอวกาศ และเสนอความร่วมมือพัฒนาเชื้อเพลิงอากาศยานอย่างยั่งยืน

ส่วนเป้าหมายการเป็น Future Mobility Hub นั้นได้เชิญชวนบริษัทยานยนต์ฝรั่งเศสที่ผลิตเครื่องยนต์และแบตเตอรี่ไฟฟ้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น และเสนอจัดทำ ‘Green Lane’ กับอียูสำหรับลดภาษีสินค้าเพื่อสิ่งแวดล้อมเพื่อสนับสนุนอตุสาหกรรมรถไฟฟ้า ซึ่งทางฝรั่งเศสสนใจอย่างมากในโครงการพัฒนาระบบราง

ต่อมาประชุมกับ CEO ของ Fomular 1 โดยชวนมาจัดการแข่งขันในไทย และเชิญมาศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดแข่งในปี 2027


12 มี.ค. ร่วมงานอสังหาริมทรัพย์โลก เมืองคานส์

นายกฯ ระบุมีปาฐกถาแสดงวิสัยทัศน์และประสบการณ์ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของไทย ในงานมหกรรมอหสังหาริมทรัพย์นานาชาติ (MIPIM2024) The Global Urban Festival ซึ่งมีผู้เข้าร่วม 22,500 ราย ทั้งองค์กรของรัฐ และบริษัทชั้นนำทั่วโลก