ไม่พบผลการค้นหา
'พร้อมพงศ์' ข้องใจ พรรคส้มนิ่งเงียบหลุมยุบขนาดใหญ่ ทั้งที่ สส.กทม.เต็มสภา ไม่ขุดคุ้ยเหมือนปมแรงงาน ไม่แปลกใจแฟนคลับถล่มเละ ย้ำ หลังแถลงนโยบายรัฐบาลอนุทิน เผชิญทั้งโหมดเดินหน้า-ถอยหลัง เศร้า แบ่งงานรองนายกฯ คุมโซน จัดทัพเตรียมเลือกตั้ง 69

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี แบ่งงานรองนายกรัฐมนตรีทั้ง 6 คน หากไม่นับงานรองนายกฯ ที่ดูแลภาพรวมทางเศรษฐกิจ และการรับผิดชอบงานทางกฎหมาย ที่เหลือทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เป็นการแบ่งงานภูมิภาค เหนือ กลาง อีสาน ใต้ ตะวันออก เพื่อเตรียมพร้อมเลือกตั้งต้นปี 2569 หรือไม่ เป็นการจัดแม่ทัพคุมโซน ตอบสนองความต้องการกลุ่มการเมืองโดยที่ประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร นับวันจะละเมิดข้อตกลง MOA ที่มีต่อพรรคประชาชน จะไม่มีเสียงสส. มาเติม ตั้งแต่นายอนุทิน ได้รับการโหวตเป็นนายกฯ มีกลุ่มการเมือง หลายพรรคการเมือง ย้ายกันเข้ามาชนิดไม่เกรงใจสีส้ม พรรคที่เคยยึดมั่นหลักการณ์ก็นิ่งเงียบ 

“รัฐบาลนายอนุทิน เผชิญปัญหาหลุมยุบขนาดใหญ่ หน้าวชิรพยาบาล กลางเมืองกรุงท่านที่เก่งตอบทุกเรื่องบอกต้องมีผู้รับผิดชอบ แต่พอถูกถามถึงบริษัทรับเหมาที่ได้งานนี้ แค่ยิ้มๆ เดินออกจากวงสัมภาษณ์ไปดื้อๆ โลกโซเชียลตอนนี้ถล่มทลายมาก พรรคที่เคยเก่งขุดคุ้ย เกาะติด กระทรวงแรงงาน ประกันสังคม ถนนพระราม 2 ในกทม.มีสส.ถึง 32 คน กลับไม่แสดงท่าที นำมาสู่การถกเถียงในสภาฯ มัวแต่มาเล่นเกมเรื่ององค์ประชุมสภาฯ ล่ม มาตรวจสอบฝ่ายค้านด้วยกัน ไม่รู้เหมือนกันว่า มีดีลพิเศษอะไรกันอีกหรือไม่ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆกระทบถึงชีวิต ทรัพย์สิน ความปลอดภัย ความเชื่อมั่นระบบคมนาคมขนส่งคนที่อยู่ในกทม.และประชาชนที่อาศัยในเมืองหลวง ควรหยิบยกพูดคุยอย่างจริงจัง หาตัวผู้ทำความผิด ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ไม่แปลกใจแฟนคลับส้มจะผิดหวัง ตั้งแต่ยกมือให้นายอนุทิน MOAโดนละเมิด มาถึงหลุมยุบขนาดใหญ่ ชาวเน็ตจะตั้งข้อสังเกตลักษณะอย่างนี้ ลืมหน้าที่ฝ่ายค้าน แต่เป็นฝ่ายค้ำยันให้รัฐบาลหรือไม่”นายพร้อมพงศ์กล่าว

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า วันที่ 29-30 ก.ย. นายอนุทินและครม. แถลงนโยบายรัฐบาล 4 ด้าน ครอบคลุมทั้งการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ความมั่นคงชายแดน ปัญหาสังคม การพนัน คอลเซ็นต์เตอร์ ขอให้กวาดล้างจริงๆจังๆ รวมทั้งเรื่องภัยพิบัติธรรมชาติ สร้างระบบเตือนภัย เยียวยาชดเชย ทันท่วงที เรื่องหลุมยุบขนาดใหญ่หน้า วชิรพยาบาล จะสรุปออกมาอย่างไร เรื่องนี้มันเกี่ยวพันไม่ใช่แค่ รฟม. กระทรวงคมนาคม กทม. รัฐบาล มีประเด็นอื่นๆที่ต้องสรุปบทเรียนและตรวจสอบ นำมาสู่การแก้ไขทั้งระบบ

อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า หลังการแถลงนโยบายเสร็จสิ้น รัฐบาลมีเวลา 4 เดือนหรือประมาณ 120 วันทำงาน หมดเวลามูเตลู รัฐบาลนายอนุทิน จะเข้าสู่โหมดทั้งเดินหน้าและนับถอยหลัง เดินหน้าพิสูจน์ฝีมือ การแก้ไขปัญหาคดีที่ดินเขากระโดง คดีฮั้วสว. ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง พืชผลเกษตรตกต่ำ การดึงนักท่องเที่ยวกลับมา ฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้ภาคตลาดทุน และการสร้างความมั่นใจจากต่างชาติ ปัญหากระทบกระทั่งกับกัมพูชา ถอยหลังคือ จะต้องยุบสภาฯปลายเดือนม.ค.69 คืนอำนาจให้ประชาชนตามคำพูด ส่วนตัวคงไม่กล้าคาดหวังกับผลงาน 4 เดือนมากนัก ขอเพียง อย่าสร้างปัญหาใหม่เพิ่มเติม โดยเฉพาะปัญหาทุจริตคอรัปชั่น ต้องห้ามเกิดอย่างเด็ดขาดในยุครัฐบาลคนละครึ่ง คนนอกครึ่ง กลุ่มบ้านใหญ่การเมืองอีกครึ่ง ขอฝากไว้เป็นการบ้าน อะไรที่สัญญาไว้ ขอให้พูดแล้วทำ อย่าไปมุ่งเรื่องที่ไม่ใช่ผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน