ไม่พบผลการค้นหา
วันนี้ (25 กันยายน 2568) ประธานรัฐสภาเผยหลังหารือ 4 ฝ่าย กำหนดวันประชุมรัฐสภาให้รัฐบาลแถลงนโยบาย วันที่ 29-30 ก.ย.นี้  ขณะที่ฝ่ายค้านได้รับการจัดสรรเวลา 15 ชั่วโมง แบ่งให้พรรคเพื่อไทย 6 ชั่วโมง พร้อมกำหนดวันประชุมร่วมรัฐสภาพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วันที่ 14-15 ต.ค.นี้

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมระหว่างคณะกรรมการประสานงานพรรคการเมืองฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร (วิปฝ่ายค้าน) คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) คณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) และตัวแทนรัฐบาล เพื่อพิจารณากำหนดวันและเวลาให้รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 ว่า ทีประชุมเห็นควรกำหนดวันแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ในวันจันทร์ที่ 29 และ วันอังคารที่ 30 กันยายน นี้ เริ่มประชุมในเวลา 09.00 น. ทั้งสองวัน แต่ในวันที่สองคือ วันที่ 30 ก.ย. คณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอให้การประชุมเสร็จสิ้นภายในเวลา 18.00 น. เนื่องจากจะมีการประชุม ครม.นัดพิเศษต่อจากการแถลงนโยบาย  

นอกจากนี้ เผยว่าที่ประชุมได้หารือถึงการจะกำหนดวันประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งขณะนี้มีพรรคการเมืองอย่างน้อย 3 พรรค พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาชน และพรรคเพื่อไทย เสนอเป็นร่างแก้ไขเข้ามา ตามแนวทางคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ประชุมเห็นควรกำหนดวันประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 14 และ 15 ตุลาคม นี้

ด้าน ‘แนน บุณย์ธิดา สมชัย’ สส. อุบลราชธานี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวเพิ่มเติมถึงการจัดสรรเวลาการแถลงนโยบายของนายกฯ และการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภา ว่าจัดสรรเวลาให้กับครม. และ สส. พรรคร่วมรัฐบาลรวมเวลา 6 ชั่วโมง โดยไม่นับรวมเวลาที่นายกฯ ใช้แถลงนโยบาย ส่วน สว.ได้เวลารวม 3 ชั่วโมง สส.พรรคร่วมฝ่ายค้านรวมเวลา 15 ชั่วโมง ขณะที่ประธานในที่ประชุมได้เวลารวม 1 ชั่วโมง และในระหว่างเวลาอภิปรายหากมีประท้วงให้นับเวลาจากฝ่ายที่ประท้วง

ทั้งนี้ สำหรับสัดส่วนการจัดสรรเวลาอภิปรายของฝ่ายค้านจำนวน 15 ชั่วโมง นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน เผยว่าตนได้พูดคุยกับพรรคเพื่อไทย แม้จะไม่เข้าร่วมวิปฝ่ายค้าน แต่ได้จัดสรรเวลาให้ในสัดส่วนที่เหมาะสม คือ พรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นรวม 9 ชั่วโมง และพรรคเพื่อไทย 6 ชั่วโมง