นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง เปิดเผยเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 ว่า หลังคำสั่งของศาลฎีกาให้จำคุกนายทักษิณ ชินวัตรเป็นเวลา 1 ปี จากกรณีชั้น 14 และได้เข้าไปถูกคุมขังในเรือนจำ ในฐานะที่ตนเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยได้มีโอกาสร่วมทำงานทางการเมืองกับท่านมาในอดีต รูงยิ่งได้อ่านข้อความที่นายทักษิณโพสต์ในเพจ เฟซบุ๊คก็ยิ่งเพื่มความเคารพนับถือ เนื้อหาทั้งหมดได้กล่าวถึงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ล้นเกล้ารัชกาลที่ 10 ที่ได้พระราชทานอภัยลดโทษเหลือ 1 ปี น้อมรับและพร้อมเข้าสู่กระบวนการตามคำพิพากษาของศาล แม้จะไร้อิสรภาพทางกาย แต่เสรีภาพทางความคิดที่จะทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติและประชาชนยังมีอยู่ตลอดไป นี่คือ หัวใจของผู้ชายวัย 76 ปีที่แข็งแกร่ง  

นางสาวตรีชฎา กล่าวว่า ปฐมเหตุที่ทำให้นายทักษิณ ต้องติดคุก เป็นผลมาจากการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ผ่านมา 8 ปีก็เกิดรัฐประหารขึ้นอีกครั้งในปี พ.ศ. 2557 ความหมายของความยุติธรรม กฎหมาย การเมือง และอำนาจ ปรากฎให้เห็นและเป็นไปพร้อมๆกับการถูกตีความ การวิเคราะห์วิจารณ์ และเข้าใจไปคนละทางสองทาง ความเป็นจริงที่มิอาจปฏิเสธได้ตลอดเกือบ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา คือ บ้านเมืองเกิดความขัดแย้ง แตกแยก มีการแบ่งข้างอย่างรุนแรง ความรักและจิตวิญญาณในความเป็นพี่น้องคนไทยเสมือนครอบครัวเดียวกันสูญหายไป ความโกรธเกลียดอาฆาตแค้น มุ่งทำลายล้างเข้ามาแทนที่ ณ วันนี้ ท่านทักษิณได้ยอมรับคำสั่งศาลอย่างองอาจ ไม่เพียงแต่ครอบครัวที่เศร้าโศกเสียใจ หากแต่คนไทยที่รักและศรัทธาในผลงานและนโยบายในอดีตจวบจนปัจจุบันจำนวนมากก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกัน  

“คุกคุมขังร่างกายของท่านทักษิณได้ แต่ไม่อาจสกัดกั้นวิญญาณแห่งเสรีภาพทางความคิด ความห่วงใย ความปรารถดีต่อประเทศและประชาชน ที่สำคัญ ความทรงจำของสังคมที่มีต่อท่านทักษิณครั้งที่เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำในการบริหารราชการแผ่นดิน นำสิ่งดีๆมาให้ยังคงดำรงอยู่ไม่เสื่อมคลาย กรณีนี้เป็นเครื่องเตือนใจว่า การสร้างบ้านเมืองให้เป็นมาตรฐาน มีความยุติธรรมอย่างแท้จริง ระบอบการเมืองมีความมั่นคงและยั่งยืน ไม่ยื้อแย้ง ล้มลุกคลุกคลาน โดยคำนึงถึงเจตนารมณ์และความต้องการของประชาชนเป็นตัวตั้ง เชื่อว่า คุณความดีและประโยชน์ต่างๆที่ท่านทักษิณได้สร้างได้ทำไว้ให้กับส่วนรวมจะทำให้ท่านทักษิณได้กลับมาสู่อิสรภาพในเวลาไม่นาน ขอให้คนไทยที่รักท่านทักษิณร่วมกันส่งกำลังใจและเฝ้ารอวันที่จะไปร่วมกันต้อนรับเมื่่อก้าวออกจากสถานที่คุมขัง” น.ส.ตรีชฎากล่าว