ไม่พบผลการค้นหา
'8 พรรคร่วม' ประสานเสียงพร้อมดัน 'พิธา' นั่งนายกฯ จ่อแถลงเอ็มโอยูตั้ง รบ.ประชาชน 22 พ.ค.นี้ เชื่อมั่น 313 เสียงผ่านด่านโหวตนายกฯ ในรัฐสภาได้ 'ชลน่าน' บอกย้ำแล้วเป็นรอบที่หลายร้อย หนุน ‘พิธา’ นายกฯ ชี้จุดยืน ม.112 หาจุดร่วมได้ ด้าน 'สุดารัตน์' จวกหากจะมาแบ่งเก้าอี้หากิน ก็ไม่ต้องมาเป็นรัฐบาล

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 18 พ.ค. ที่โรงแรมดิ โอกุระ เพรสทีจ มีการจัดแถลงจัดตั้งรัฐบาลของประชาชน จาก 8 พรรคร่วมรัฐบาล นำโดยพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเป็นธรรม พรรคพลังสังคมใหม่ และพรรคเพื่อไทรวมพลัง 

สำหรับแกนนำพรรคต่างๆ ที่เดินทางร่วมแถลงข่าว ประกอบด้วย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรคเพื่อไทย วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย น.ต.ศิธา ธีวารี สุพันธุ์ มงคลสุธี แคนดิเดตนายกฯ พรรคไทยสร้างไทย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม กัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคเป็นธรรม วสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลัง, และ เชาวฤทธิ์ ขจรพงศ​กีรติ หัวหน้าพรรคพลังสังคมใหม่ ร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลของประชาชน ท่ามกลางสื่อมวลชนทั้งในประเทศและต่างประเทศมาร่วมรายงานข่าวกันอย่างแน่นขนัด

พิธา LINE_ALBUM_230518_10.jpgพิธา ก้าวไกล ชลน่าน พรรครัฐบาล เสรีพิศุทธ์ สุดารัตน์ LINE_ALBUM_230518_12.jpgพรรครัฐบาล ก้าวไกล พิธา LINE_ALBUM_230518_13.jpgพิธา ก้าวไกล สุดารัตน์ ชลน่าน พรรครัฐบาล LINE_ALBUM_230518_14.jpgพิธา สุดารัตน์ เสรีพิศุทธ์ พรรครัฐบาล ก้าวไกล LINE_ALBUM_230518_15.jpgพิธา สุดารัตน์ IMG_3503.jpeg


LINE_ALBUM_230518_16.jpg

โดยก่อนการแถลงข่าวจะเริ่มต้นขึ้น พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ มายังโรงแรมดิ โอกุระ เพรสทีจ พร้อมกับกล่าวว่า วันนี้รถติด จึงใช้บริการรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างในการมาแถลงข่าวในวันนี้ด้วย

ทั้งนี้ พิธาแถลงต่อสื่อมวลชนว่า พวกเราทุกพรรคขอขอบคุณทุกเสียงที่ประชาชนมอบให้ เสียงของประชาชนทุกเสียงคือเสียงแห่งความหวัง คือเสียงแห่งการเปลี่ยนแปลง รัฐบาลชุดใหม่จะทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ต่ออำนาจของประชาชน และเราจะเป็นรัฐบาลของคนไทยทุกคน

ทุกพรรคขอประกาศจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชนร่วมกัน ด้วยความเคารพในฉันทามติของประชาชน ดังนี้

1. ทุกพรรคเห็นชอบที่จะสนับสนุนหัวหน้าพรรคก้าวไกล พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ตามเสียงข้างมากจากผลการเลือกตั้งของประชาชน

2. ทุกพรรคจะร่วมกันจัดทำข้อตกลงร่วม (MOU) ในการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อแสดงถึงแนวทางการทำงานร่วมกัน และวาระร่วมของทุกพรรค และจะแถลงต่อสาธารณะในวันที่ 22 พ.ค.นี้ เพื่อแก้ไขวิกฤตการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและความมั่นคงของประเทศ

3. ทุกพรรคจะจัดตั้งคณะทำงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาล เพื่อเตรียมความพร้อมให้สามารถบริหารราชการแผ่นดินต่อจากรัฐบาลเดิมได้แบบไร้รอยต่อ

โดยพิธาให้ความเชื่อมั่นว่าการจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชนจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนและโดยราบรื่นจำนวน 313 เสียง มีความเพียงพอและเป็นความปกติของระบอบประชาธิปไตย

ขณะนี้ คณะทำงานทั้ง 2 ทีม ได้แก่ คณะเจรจาและคณะเปลี่ยนผ่านอำนาจ ได้เตรียมการวางแผนในหลายรูปแบบว่าจะมีฉากทัศน์ใดเกิดขึ้นบ้าง แต่ละฉากทัศน์จะบริหารจัดการอย่างไร เพื่อลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงพิจารณาว่าจุดยืนและนโยบายของทุกพรรคการเมือง จะทำงานร่วมกันอย่างไรโดยยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง กระบวนการทั้งหมดจะคำนึงถึงเสถียรภาพของรัฐบาลและการมีส่วนร่วมของทุกพรรคการเมือง เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จลุล่วง ทุกพรรคการเมืองสามารถสานต่อนโยบายที่ได้สัญญาไว้กับประชาชน

สำหรับความเห็นของ ส.ว. หลายคนที่ออกมาแสดงจุดยืนว่าจะโหวตนายกฯ ตามเสียงข้างมากของสภาผู้แทนราษฎรนั้น พิธากล่าวว่าขอขอบคุณ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของใคร แต่เป็นเรื่องของระบบ ถือเป็นนิมิตรหมายอันดีที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยที่ประชาชนเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด

ส่วนทั้งท่าทีของทั้ง 8 พรรคการเมืองต่อจุดยืนแก้ไขมาตรา 112 นั้น โดย พิธา ระบุว่า ก่อนเลือกตั้งดีเบตและพูดคุยเรื่องนี้เยอะแล้ว แต่ละพรรคก็ได้แสดงจุดยืนชัดเจนเป็นเอกภาพ ส่วนกรณีที่พรรคภูมิใจไทยประกาศไม่สนับสนุนพรรคการเมืองที่มีจุดยืนแก้ไขมาตรา 112 ก็เป็นเรื่องของพรรคภูมิใจไทย 

สำหรับความกังวลต่อแนวทางการโหวตของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) พิธา ย้ำว่าไม่กังวล ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อเจรจาและอีกชุดคือคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านอำนาจไปสู่ประชาชน ซึ่งทุกพรรคการเมืองได้พูดคุยกันตกผลึก และพร้อมที่จะแถลงรายละเอียดของเอ็มโอยู ในวันที่ 22 พ.ค.นี้ 

พิธา ยังเปิดเผยว่าคณะกรรมการทั้งสองชุดนี้ จะได้ประเมินฉากทัศน์ต่างๆ ที่จะเป็นอุปสรรคในการจัดตั้งรัฐบาลไว้แล้วและหาวิธีการรับมืออย่างเหมาะสม จึงไม่กังวลว่าคะแนนเสียงจาก ส.ว.จะมีไม่มากพอ เพราะได้สร้างโรดแมปไว้แล้ว

พิธา ยืนยันว่ายังไม่มีการเจรจาหาพรรคร่วมรัฐบาลเพิ่มเติม เพระตัวเลข 311 เสียง เพียงพอแล้วสำหรับระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นการที่ต้องมานั่งคิดว่าต้องหาให้ได้ 376 เสียง จึงไม่ใช่ความกังวลของเราในตอนนี้ แม้ว่าอาจมีหลายฉากทัศน์ที่คาดไม่ถึง แต่ตนก็ไว้วางใจในคณะกรรมการทั้งสองชุด ซึ่งมีทุกพรรคการเมืองร่วมด้วย คณะกรรมการจะพิจารณาว่าตัวเลขที่สมดุลในการจัดตั้งรัฐบาลคือเท่าไหร่ รวมถึงจุดยืนอุดมการณ์ของพรรคการเมืองที่จะมาร่วมด้วย

เมื่อถามว่า กระแสข่าวที่พรรคก้าวไกล ได้พูดคุยกับพรรคก้าวไกล เป็นการภายในถึงกระทรวงที่แต่ละพรรคการเมืองต้องการ พิธา ยอมรับว่ามีการพูดคุยกัน แต่ไม่ได้เน้นไปถึงกระทรวงต่างๆ แต่เน้นที่วาระซึ่งแต่ละพรรคการเมืองได้หาเสียงไว้ ซึ่งเพราะวาระของแต่ละพรรคใกล้เคียงกัน เราจึงมานั่งอยู่ร่วมกันวันนี้ 

“ถ้าเราแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง แสวงจุดร่วมในนโยบายสำคัญๆ แม้วิธีจะแตกต่างกัน แต่ถ้าเราคุยกันให้ตลกผลึกผมก็คิดว่าเรื่องใครจะคุมกระทรวงไหนเป็นเรื่องปลายเหตุ” พิธา กล่าวทิ้งท้าย


'ชลน่าน' ย้ำครั้งที่ร้อย พร้อมดัน 'พิธา' นายกฯ

นพ.ชลน่าน กล่าวยืนยันว่าพรรคเพื่อไทย มี141 เสียงจะสนับสนุนพรรคก้าวไกล เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยขอยืนยันพรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะสนับสนุน พิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ คนที่ 30 ของประเทศไทย และร่วมจัดตั้งรัฐบาลแห่งความหวัง ความฝันของพี่น้องประชาชนให้ได้ จะเป็นครัังที่100 หรือ 500  เพราะว่ากระแสปั่นตรงนี้เยอะเหลือเกิน

นพ.ชลน่าน บอกถึงแนวทางการเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล ว่าทุกเรื่องจะนำมาประกอบทั้งหมด อีกทั้งเงื่อนไขหลักยกเป็นหน้าที่ให้พรรคก้าวไกลเป็นผู้เสนอในเอ็มโอยูร่วมกัน ส่วนจุดใดร่วมกันได้ไม่ได้ หรือจุดใดต้องแก้ไข คงจะต้องมีการหารือกันก่อน

ส่วนประเด็นมาตรา 112 ที่หลายคนมองจะเป็นเงื่อนไขสำคัญในการร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล นพ.ชลน่าน บอกว่า เป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่คงจะมีการพูดคุยกัน แต่หากมีการลงนามข้อสรุปกันแล้ว ถือว่าทุกคนทุกพรรคเห็นทางออกร่วมกันได้

LINE_ALBUM_230518_26.jpg

หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังยืนยันจะทำภารกิจให้สำเร็จคือการผลักดันคะแนนเสียงในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาให้ถึง 376 เสียง เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพรรคแกนนำอย่างเดียว

”เรามั่นใจว่าจะมีเสียงในรัฐสภา 376 เสียงเพื่อเลือกนายกฯ เข้าสู่การจัดตั้งคณะรัฐมนตรีเป็นรัฐบาลของประชาชน” นพ.ชลน่าน ย้ำ


'สุดารัตน์' บอกถ้าจะแบ่งเก้าอี้ ไม่ต้องมาเป็น รบ.

คุณหญิงสุดารัตน์ ยืนยันว่า พรรคไทยสร้างไทย ได้พูดเป็นสัญญาประชาคม ว่า สนับสนุนให้ทุกฝ่ายเดิยตามครรลองประชาธิปไตย เมื่อพรรคก้าวไกล ได้ฉันทามติจากประชาชน พรรคไทยสร้างไทย ยังย้ำว่า ยืนยันตั้งแต่วันแรก ว่าจะยกมือสนับสนุนให้ พิธา เป็นนายกรัฐมนตรี 

LINE_ALBUM_230518_19.jpg

ส่วนข้อตกลงเรื่องนโยบาย ยังไม่ได้เริ่มนับ 1 หลังจากนี้จะตั้งคณะทำงานร่วมกัน โดยขอยืนยันว่า การทำนโยบายจะทำเพื่อประชาชนซึ่งเป็นเรื่องสำคัญกว่าการแบ่งกระทรวง 

"ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่มองว่า หากเป็นรัฐบาล เพื่อแบ่งกระทรวงในการทำมาหากิน ดิฉันก็ไม่จะเป็นต้องมาเป็นรัฐบาล แต่มุ่งหมายทำเพื่อประชาชน ต้องการให้ประเทศไทยไปยืนอยู่บนแผนที่โลกให้ได้"

สำหรับจุดยืน มาตรา112 นั้น พรรคไทยสร้างไทยชัดเจน ว่า ต้องรักษาชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ดังนั้น การจะทำอะไรให้สถาบันเสื่อมเสียนั้น ต้องปกป้อง ส่วนการที่มีผู้มีอำนาจ มาใช้มาตรา 112 กลั่นแกล้ง ทำลายบุคคล ต้องนำมาพิจารณา เพื่อปกป้องสถาบันไม่ให้ใครนำไปเป็นอำนาจทำร้ายคนอื่น 

ส่วนการจะลงรายละเอียด ของจุดยืนแต่ละพรรคต้องคุยกัน ไม่ใช่เพียง มาตรา 122 แต่ทุกนโยบาย


3 พรรคเล็กผนึกกำลังหนุนตั้งรัฐบาล

ขณะที่หัวหน้าพรรคร่วมอื่นๆ เช่น พรรคเป็นธรรม พรรคพลังสังคมใหม่ และพรรคเพื่อไทรวมพลัง ประกาศพร้อมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และเชื่อมั่นว่าพรรคก้าวไกลจะสามารถผ่านวิกฤตได้สำเร็จ ยืนยันในอุดมการณ์ประชาธิปไตย และหวังว่าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ ส.ว. จะเคารพฉันทามติของประชาชน

LINE_ALBUM_230518_5.jpgพิธา สุดารัตน์ LINE_ALBUM_230518_19.jpgพิธา ก้าวไกล LINE_ALBUM_230518_20.jpgพิธา ก้าวไกล LINE_ALBUM_230518_21.jpgพิธา ก้าวไกล LINE_ALBUM_230518_22.jpgพิธา IMG_3499.jpegพิธา ก้าวไกล IMG_3498.jpegปิติพงศ์ เป็นธรรม IMG_3497.jpegพิธา สุดารัตน์ IMG_3503.jpegชลน่าน พรรครัฐบาล พิธา ก้าวไกล IMG_3502.jpegพิธา สุดารัตน์ IMG_3513.jpegชลน่าน สุดารัตน์  IMG_3515.jpeg

ต่อมา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์หลังการแถลงจัดตั้งรัฐบาลของประชาชนถึงการจัดทำเอ็มโอยูตั้งรัฐบาลของประชาชน ว่า ขณะนี้ตนเห็นเอ็มโอยู ในการจัดตั้งรัฐบาล ทำงานร่วมกันแล้ว โดยพรรคแกนนำหลักเป็นคนยกร่างมา และหากตรงไหนรับไม่ได้ เราก็บอกเขาว่าตรงนี้เอาไปปรับแก้นะ มันก็จะเป็นการพูดคุยในลักษณะแบบนี้ ข้อมูลประเด็นข้อห่วงใยต่างๆต่างๆก็จะอยู่ในเอ็มโอยูและได้มีการปรับแก้แล้ว มีบางข้อที่พรรคเพื่อไทยเห็นแย้งเยอะพอสมควร 

เมื่อถามว่า แล้วแบบนี้จะบรรลุข้อตกลงกันหรือไม่ นพ.ชลน่าน ตอบว่า ก็ต้องมานั่งพูดคุยกัน เพราะพรรคแกนหลักก็เปิดโอกาสให้เติมเต็มแล้วพูดคุยกัน พูดง่ายๆอย่างเรื่องของการแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน มันก็มีการพูดคุยกันในระดับหนึ่งแล้ว เพียงแต่ว่าหากเป็นลายลักษณ์อักษรก็มาเขียนกันในเอ็มโอยูเท่านั้น ซึ่งขั้นตอนนี้อาจจะกล่าวได้ว่าเอ็มโอยู อาจจะเป็นตัวที่ทำให้เราสามารถอยู่ร่วมกันได้

เมื่อถาม ในฝั่งพรรคเพื่อไทย น่าจะมีการแก้เอ็มโอยู เยอะใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน ตอบว่า เขาส่งแต่เพียงตัวยกร่างมาเท่านั้นเอง และพรรคก้าวไกลเขาก็ไม่ยึดติดว่าต้องเป็นไปในตามนี้ 

เมื่อถามเรื่อง การแก้ มาตรา 112 ในเอ็มโอยู นพ.ชลน่านตอบว่า เรื่องนี้ต้องอยู่ในเงื่อนไขที่ทุกฝ่ายสามารถยอมรับได้ และในดราฟของเอ็มโอยู จากพรรคก้าวไกล ยังไม่มีการเขียนเรื่องนี้อยู่เลย และในเอ็มโอยูไม่ได้ยึดเรื่องนี้เป็นเรื่องหลักแต่อย่างใด และขณะนี้เอ็มโอยูยังเขียนไม่เสร็จ เขาเพียงแต่ส่งให้พรรคเพื่อไทยดูเท่านั้นว่าจะช่วยกันปรับแก้อย่างไร

พิธา ก้าวไกล _3495.jpeg