สำนักข่าว CNBC รายงานอ้างอิงข้อมูลจาก The Wall Street Journal ซึ่งระบุว่า ทางการสหรัฐอเมริกาและจีนจะเลื่อนมาตรการการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 160,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯออกไป ซึ่งตามเดิมมีกำหนดจะเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการในวันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคมนี้ ท่ามกลางความพยายามของทั้ง 2 ประเทศที่ต้องการเดินหน้าเจรจาเพื่อยุติข้อพิพาททางการค้าที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน

การเจรจาต่อรองระหว่างชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอับดับที่ 1 และ 2 นี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการวางรากฐานสำคัญทุกอย่างให้พร้อม เพื่อนำไปสู่การระงับการจัดเก็บภาษีสินค้าจากจีนมูลค่า 160,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีก 15 เปอร์เซ็นต์ โดยทั้งสองประเทศกำลังพยายามที่จะกู้แผนการเจรจาขั้นแรก (Phrase One) คืน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ไม่สามารถตกลงกันได้จนต้องล้มไปในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยเป็นขั้นตอนที่สำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งในข้อตกลงระบุไว้อย่างชัดเจนว่าจีนจะต้องซื้อสินค้าทางการเกษตรจากสหรัฐฯ

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ส่งผลดีอย่างมากต่อภาพรวมตลาดหุ้นสหรัฐฯ เพราะที่ผ่านมาทุกฝ่ายต่างกังวลว่าเมื่อมาตรการการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนถูกบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ผู้ที่จะได้รับผลกระทบเต็มๆ จะไม่ใช่เพียงธุรกิจจากจีนเท่านั้น แต่จะรวมถึงผู้ผลิตและผู้บริโภคในสหรัฐฯด้วย 

ซึ่งแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ามาตรการเลื่อนการขึ้นภาษีสินค้าจีนจะมีระยะเวลายาวนานเท่าใด แต่อย่างน้อยก็สร้างความผ่อนคลายให้กับสภาวะความตึงเครียดระหว่างภาคธุรกิจทั้ง 2 ประเทศได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าประเภทเสื้อผ้า โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป และของเล่นเด็ก

ทั้งนี้ CNBC ชี้ว่าสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ และทำเนียบขาวยังไม่ได้ออกมาชี้แจงรายละเอียดหรือแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้แต่อย่างใด