ไม่พบผลการค้นหา
นายรวิศ สอดส่อง ผู้แทน พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร่วมงานฉลองวันชาติโปรตุเกส กระชับความสัมพันธ์ไทย-โปรตุเกส เสริมสร้างความร่วมมือด้านกระบวนการยุติธรรมระหว่างประเทศ

วันนี้ (10 มิถุนายน 2568) นายรวิศ สอดส่อง หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้แทน พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร่วมแสดงความยินดีร่วมงานเลี้ยงรับรอง เนื่องในโอกาสวันชาติโปรตุเกส โดยมี นายลูวิช มานูแวล ดือ มากาไญช์ ดือ อัลบูแกร์ก วือโลซู (H.E. Mr. Luís Manuel de Magalhães de Albuquerque Veloso) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐโปรตุเกสประจำประเทศไทย และคณะ ให้การต้อนรับ ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูตโปรตุเกสประจำประเทศไทย เจริญกรุง กรุงเทพฯ ทั้งนี้ นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ร่วมเป็นเกียรติในงานด้วย โดยมีผู้ร่วมงาน ทั้งแขกผู้มีเกียรติระดับสูง นักการทูต นักธุรกิจ ข้าราชการ รวมทั้งผู้แทนทางการทูตของประเทศที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยเข้าร่วมงานอย่างคับคั่งกว่า 500 คน 

S__10273133_0.jpgS__10273232.jpg

เมื่อเดือนมิถุนายน 2567 พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นำคณะ เดินทางเยือนโปรตุเกสอย่างเป็นทางการ พร้อมกับกล่าวชื่นชมโปรตุเกสโมเดล ซึ่งประเทศไทยได้ศึกษาและนำมาเป็นพื้นฐานของการยกร่างประมวลกฎหมายยาเสพติดของไทย โดยยึดหลักการผู้เสพเป็นผู้ป่วย และได้รับการบำบัดโดยกระทรวงสาธารณสุข อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทยยังมีความเห็นที่แตกต่างกันในประเด็นนี้อยู่ จึงอยากศึกษาแนวทางของโปรตุเกส ทั้งการบำบัดผู้ติดยาเสพติดที่เป็นกลุ่มผู้ต้องราชทัณฑ์ และกลุ่มผู้ถูกคุมประพฤติ

ในครั้งนั้น คณะผู้แทนไทย จากกระทรวงยุติธรรม ได้ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวปฏิบัติภายใต้โปรตุเกสโมเดล ซึ่งยึดผู้เสพเป็นผู้ป่วย โดยกระทรวงยุติธรรมและกระทรวงสาธารณสุขของไทยได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ในเบื้องต้นจะแบ่งกลุ่มเป้าหมายออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้ติดยาเสพติดจะได้รับการบำบัดโดยกระทรวงสาธารณสุข ส่วนผู้ค้ายาเสพติดจะถูกดำเนินคดีโดยกระทรวงยุติธรรม 

สำหรับแนวทางการบำบัดผู้ติดยาเสพติดของโปรตุเกส จะให้ความสำคัญกับ

(1) การวิเคราะห์ข้อมูลรายบุคคล เพื่อประเมินว่าต้องการความช่วยเหลือด้านใด เช่น ความช่วยเหลือด้านกฎหมาย การสร้างอาชีพ การบำบัด

(2) การบำบัดที่เหมาะสม เช่น การใช้สารทดแทน การจัดห้องเสพยาเสพติด การจัดโปรแกรมสุขภาพ ฯลฯ

(3) การติดตาม เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ติดยาเสพติดสามารถกลับคืนสู่สังคมได้

นอกจากน้้น โปรตุเกส ได้เน้นย้ำความสำคัญของการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน ตลอดทั้งกระบวนการบำบัดรักษา การลดการใช้ยาเสพติด และการเตรียมความพร้อมในการกลับคืนสู่สังคม โดยการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้สำเร็จได้ จะต้องอาศัยการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม

S__10273147_0.jpg

โดยการหารือข้อราชการในครั้งนั้น นับเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและโปรตุเกสให้มีความแน่นแฟ้น โดยกระทรวงยุติธรรมของไทยและโปรตุเกสมีความร่วมมือด้านงานยุติธรรมในมิติต่าง ๆ อย่างใกล้ชิดต่อเนื่องมาโดยตลอด

S__10273233_0.jpg