ไม่พบผลการค้นหา
Good Monday พอดแคสต์โดยอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ชวนคนไทยทำความเข้าใจเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงของโลกทุกวันจันทร์

ทักษิณกล่าวในรายการว่า รายการนี้ตั้งใจจะมีทุกวันจันทร์ แต่บางสัปดาห์อาจขาดหายไปบ้าง มีเป้าประสงค์เพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่เขาได้พบเจอผู้คน ได้ดูงานในที่ต่างๆ แล้วนำประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้มาแลกเปลี่ยนกับประชาชนคนไทย เพื่อให้เห็นภาพของโลกทุกวันนี้ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วยิ่ง

ทักษิณเท้าความว่าการพูดครั้งนี้จะขยายความสิ่งที่ได้อวยพรปีใหม่กับประชาชน เรื่องแรก คือ ข้อน่าห่วงใยในเศรษฐกิจช่วงปลายปี 2562 ต่อต้นปี 2563 หรือ ค.ศ.2020 แม้ตัวเลขจะดูสวยงามแต่จะเป็นปีที่เศรษฐกิจโลกมีปัญหาตามวัฏจักรของระบบการเงินโลก จะเกิดภาวะวิกฤตซึ่งจะเป็นแรงกระแทกใหม่ต่อเศรษฐกิจไทย และไม่ว่าอย่างไรก็หนีไม่พ้นเพราะเราเป็นส่วนหนึ่งของโลก มีผู้รู้พูดกันว่าอาจเริ่มเกิดที่ยุโรปตะวันออกก่อนเพราะเศรษฐกิจและระบบธนาคารอ่อนแอ จึงน่าเป็นห่วงว่าประเทศไทยก็ยังไม่ได้ปรับตัวและอ่อนแอด้วยเช่นกัน

“เศรษฐกิจฐานรากเราอ่อนแอมาก ถ้าโดนเที่ยวนี้เราจะป้องกันกันยังไง นี่คือคำถามสำคัญ ระบบการเงินโลก ระบบเทคโนโลยี หรือวิธีการทำมาหากินด้วยโครงสร้างทางธุรกิจแบบใหม่ๆ ทำให้ทุกคนต้องปรับตัว ถ้าไม่ปรับตัวจะลำบาก บริษัทข้ามชาติหากินมาถึงประเทศไทย บริษัทระดับชาติของไทยก็หากินข้ามไปถึงชนบท คนตัวเล็กๆ ในชนบทจะเริ่มทำมาหากินลำบากขึ้น คนกลางๆ ก็เริ่มเหนื่อยมากขึ้น ถ้าไม่ใหญ่จริงก็รอดยาก ฉะนั้นมีทางเดียวคือต้องปรับตัวให้คนข้างล่างรวมตัวกันแข็งแรง” ทักษิณกล่าว

เขาขยายความเพิ่มเติมโดยเปรียบเทียบกับกรณีบริษัทไอบีเอ็ม (IBM) ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในอดีต ดำเนินธุรกิจโดยไม่เปิดให้ใครเข้ามาร่วม ผูกขาดไว้คนเดียว ผลสุดท้ายบริษัทคอมพิวเตอร์เล็กๆ จึงจับมือกันแล้วใช้ ‘ระบบเปิด’ เพื่อแข่งกับไอบีเอ็มและทำให้ยักษ์ใหญ่ในวงการทรุดลงได้

“วันนี้จะทำยังไงให้คนตัวเล็กของไทยมารวมกัน ไม่ใช่รวมตัวกัน แต่เอาเทคโนโลยีมาถักร้อยรวมกันให้บริษัทเล็กๆ เหล่านี้แข็งแรงได้ สมัยก่อนผมเคยคิดเรื่องแบรนด์ไทยแลนด์ ตอนนี้คิดเรื่องระบบแอปพลิเคชั่น (applications) ทั้งหลายที่จะทำให้เกิดแชริ่งอีโคโนมี (sharing economy) เอาสิ่งที่แต่ละคนมีมารวมกันเหมือนเป็นบริษัทใหญ่ แต่ไม่ใช่บริษัทใหญ่ ต่างคนต่างทำมาหากิน ต่างคนต่างมีรายได้ แต่ใช้เทคโนโลยีร้อยรวมกัน ถ้าทำไม่ได้ก็แข็งแรงสู้เขาไม่ได้” ทักษิณกล่าว 

ประเด็นต่อมา ก็คือ เทคโนโลยีหุ่นยนต์ ทักษิณกล่าวว่ามีการทำนายกันไว้ว่าราวปี 2045 หุ่นยนต์จะมีความฉลาดเท่ากับสมองมนุษย์ที่เป็นค่าเฉลี่ยของโลก ประเทศที่ไม่เจริญทางเทคโนโลยีจะมองหุ่นยนต์ว่ามาแย่งงานคนทำ แต่ประเทศที่มีความเจริญทางเทคโนโลยีจะมองว่าหุ่นยนต์มาช่วยทำให้คนสามารถไปทำงานที่สำคัญกว่าได้ งานจำเจซ้ำๆ ทั้งหลายให้หุ่นยนต์ทำก็ได้ ฉะนั้น ประเทศไทยควรฝึกคนให้เป็นนายหุ่นยนต์ตั้งแต่ตอนนี้ก่อนจะสายเกินไป

“อีกหน่อยก็จะใช้หุ่นยนต์หว่านข้าว เกี่ยวข้าว แล้วชาวนาจะทำยังไง ก็ต้องฝึกสิ เราอย่าไปหนีมัน ต้องสู้กับมัน นั่นคือหลักของผม อย่าไปหนีอะไร สู้กับมันดีกว่า ง่ายกว่า” ทักษิณกล่าว 

ประเด็นสุดท้ายที่เขากล่าวถึงคือ เรื่องเทคโนโลยีด้านสุขภาพ ตอนนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก การรักษาโรคที่ปลายทางดังที่เราทำกันทุกวันนี้เป็นสิ่งล้าสมัย สิ้นเปลือง ใช้เวลานาน และไม่ทำให้คนไข้ดีขึ้น โลกข้างหน้าจะใช้ดีเอ็นเอ (DNA) มาเป็นเครื่องมือประกอบในการวิเคราะห์เรื่องสุขภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังจะใช้ยาที่เป็นเคมีน้อยลง ใช้จุลินทรีย์หรือวิธีทางฟิสิกส์มากขึ้น รวมถึงการพัฒนาที่จะไปถึงประเด็นอะไหล่มนุษย์ (new man spare part) เนื่องจากมนุษย์สามารถเปลี่ยนอวัยวะได้ทั้งหมดยกเว้นสมอง ฯลฯ ทั้งหมดนี้จะทำให้วิธีการดูแลสุขภาพเปลี่ยนแปลงไปและชีวิตมนุษย์จะยาวขึ้น

“วันก่อนผมคุยกับอาจารย์จากฮาร์วาร์ด เขาบอกว่ายาส่วนใหญ่ที่ทำการทดลองทางคลินิกหรือทดลองกับมนุษย์ก่อนออกใช้นั้นเป็นยาทางตะวันตก อาจใช้ไม่ได้ดีกับคนตะวันออกก็ได้ เขาเลยมาเอาข้อมูลด้านคนป่วยที่เมืองจีนเพราะตลาดจีนเป็นตลาดใหญ่เพื่อดูว่าควรผสมอย่างไรถึงเหมาะกับคนเอเชีย อนาคตอีกหน่อยจะถึงขั้น personalized medicine เป็นยาที่เจาะจงเหมาะกับคนแต่ละประเภท ดีเอ็นเอจะถูกใช้งานมากขึ้น ยาเฉพาะเจาะจง อาหารเฉพาะเจาะจง”

“อีกอย่างคือมนุษย์เรามีโครโมโซม 23 คู่ ตรงปลายโครโมโซมเรียกว���า เทโลเมียร์ (telomere) ซึ่งมีความสั้นยาว หดได้ยืดได้ตามภาวะสุขภาพ เขาสามารถวัดความยาวของเทโลเมียร์เพื่อบอกว่าสภาวะร่างกายของเราดีหรือไม่อย่างไร เพื่อเราจะได้ปรับวิถีชีวิต การอยู่ การกิน การออกกำลังเพื่อให้เทโลเมียร์ตัวนี้กลับมายาว สุขภาพแข็งแรงขึ้นได้ แม้กระทั่งการใช้ยาที่เป็นเคมีก็จะถูกใช้ลดลง ผมเพิ่งไปเมืองจีนเยี่ยมบริษัทหนึ่งพบว่าเขาใช้เชื้อจุลินทรีย์มาทำยามากขึ้นแล้ว ทั้งรักษามะเร็ง ละลายลิ่มเลือดไม่ให้ข้น เติมวิตามินซีเข้ากระดูกมากขึ้นเพื่อให้กระดูกเราแข็งแรง”

ทักษิณกล่าวว่า อนาคตอันใกล้นี้ชีวิตมนุษย์จะยืนยาวขึ้น แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า อยู่อย่างไรให้มีคุณภาพ อยู่อย่างไรไม่เป็นภาระลูกหลาน ประเทศไทยต้องเตรียมรับมือกับสังคมของคนสูงอายุ ต้องมีการปรับตัวอย่างสูงในการออกแบบเศรษฐกิจประเทศ ออกแบบธุรกิจ ออกแบบการดูแลผู้คนและระบบสวัสดิการ

หมายเหตุ เรียบเรียงจากพอดแคสต์ Good Monday ประจำวันจันทร์ที่ 14 ม.ค. 2562 โดย ดร.ทักษิณ ชินวัตร เผยแพร่ในเว็บไซต์ thaksinofficial.com