การเดินทางเยือนจีนในครั้งนี้ของปูติน มีขึ้นในช่วงไม่กี่วันหลังจากที่รัสเซียเปิดฉากการรุกรานครั้งใหม่ในภูมิภาคคาร์คีฟ ซึ่งเป็นพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน และรัสเซียยังได้อ้างว่ากองทัพของพวกเขาสามารถรุกคืบไปในแนวหน้ารบยาว 1,000 กิโลเมตร หลังจากความล่าช้าจากการส่งมอบอาวุธและกระสุนจากสหรัฐฯ มาให้แก่ยูเครน
ปูติน และ สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ประกาศความเป็นหุ้นส่วนอย่าง “ไม่มีขีดจำกัด” ระหว่างรัสเซียและจีนไม่กี่วันก่อนที่ปูตินจะส่งกองทหารไปยังยูเครนในเดือน ก.พ. 2565 ต่อมาในเดือน มี.ค. 2566 เมื่อสีเดินทางเยือนรัสเซีย ประธานาธิบดีจีนได้กล่าวถึง “ยุคใหม่” ในความสัมพันธ์ของจีนกับรัสเซีย ในขณะที่ในเดือน ต.ค. ซึ่งปูตินได้เดินทางเยือนจีนครั้งสุดท้าย สีได้พูดถึง “มิตรภาพอันลึกซึ้ง” ระหว่างผู้นำทั้งสองที่พบกันกว่า 42 ครั้งในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
สำนักข่าว Xinhua ของจีน รายงานยืนยันการเดินทางเยือนจีนของปูติน โดยสื่อของจีนรายงานว่า การที่ปูตินมาเยือนจีนอย่างเป็นทางการ เป็นการมาถึงของ “เพื่อนเก่า”
ก่อนการเดินทาง ปูตินกล่าวว่าการเลือกจีนเป็นจุดหมายปลายทางต่างประเทศแห่งแรกนับตั้งแต่เขาเข้าทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 5 ตอกย้ำถึง “ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ในระดับสูงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน” ระหว่างทั้งสองประเทศ ตลอดจนของเขาซึ่งมีมิตรภาพอันใกล้ชิดกับสี
“เราจะพยายามสร้างความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นในด้านอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีชั้นสูง อวกาศ และพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ ปัญญาประดิษฐ์ แหล่งพลังงานหมุนเวียน และภาคส่วนนวัตกรรมอื่นๆ” ปูตินกล่าวกับสำนักข่าว Xinhua ของจีน
ผู้นำทั้งสองจะเข้าร่วมในงานกาล่าดินเนอร์ฉลองครบรอบ 75 ปีนับตั้งแต่สหภาพโซเวียตรับรองสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งถูกประกาศโดย เหมาเจ๋อตุง ภายหลังชัยชนะของพรรคคอมมิวนิสต์ในสงครามกลางเมืองของจีนในปี 2492 นอกจากนี้ ปูตินจะเดินทางเยือนเมืองฮาร์บินทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ซึ่งเป็นเมืองที่มีความผูกพันอันแน่นแฟ้นกับรัสเซีย
ในการให้สัมภาษณ์กับ Xinhua ปูตินยังกล่าวเชิงสนับสนุนแผนสันติภาพยูเครน 12 ประการที่จีนเคยประกาศ ในช่วงครบรอบ 1 ปีแรกของการรุกรานเต็มรูปแบบของรัสเซียในยูเครนเมื่อเดือน ก.พ. 2566 โดยปูตินกล่าวว่าข้อเสนอดังกล่าวสามารถเป็นพื้นฐานสำหรับการพูดคุยได้ และรัสเซีย “เปิดกว้างสำหรับการเจรจาเกี่ยวกับยูเครน” ปูตินยังย้ำถึงจุดยืนของรัสเซียที่มีมายาวนานว่า “การเจรจาต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของทุกประเทศที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง รวมถึงของเราด้วย”
โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน กล่าวว่าการเจรจาใดๆ จะต้องรวมถึงการฟื้นฟูบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน การถอนทหารรัสเซียออกจากดินแดนทั้งหมดของยูเครน การปล่อยตัวนักโทษทั้งหมด การตั้งศาลสำหรับการพิจารณาคดีหาผู้ที่รับผิดชอบต่อการรุกราน และการมีหลักประกันความปลอดภัยสำหรับยูเครน
จีนกล่าวอ้างว่าตัวเองมีความเป็นกลางในความขัดแย้งยูเครนและรัสเซีย แต่ไม่ได้ประณามรัสเซียสำหรับการรุกรานอธิปไตยยูเครน
สำนักประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวในแถลงการณ์ว่า ในระหว่างการเจรจาในสัปดาห์นี้ ปูตินและสีจะ “หารือโดยละเอียดเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือเชิงกลยุทธ์อย่างรอบด้าน” และกำหนด “ทิศทางใหม่สำหรับการพัฒนาความร่วมมือระหว่างรัสเซียและจีนต่อไป” ทั้งนี้ รัสเซียและจีนได้แสดงให้เห็นชัดเจนว่า พวกเขาต้องการสร้างระเบียบระหว่างประเทศใหม่ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของตนเองว่าโลกควรจะเป็นอย่างไร
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (14 พ.ค.) เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวอ้างว่ารัสเซียและจีนมี “บทบาทสำคัญที่สมดุลในกิจการระดับโลก” และการเยือนจีนของปูตินจะ “เสริมสร้างการทำงานร่วมกันของเรา”
ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่มีสิทธิออกเสียงยับยั้งร่วมกับสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส
รัสเซียได้สร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีนที่มากยิ่งขึ้น โดยรัสเซียได้หันเหการส่งออกพลังงานของตัวเองส่วนใหญ่ไปยังจีน และนำเข้าส่วนประกอบไฮเทคสำหรับอุตสาหกรรมการทหารจากบริษัทจีน ท่ามกลางมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียจากชาติตะวันตก
นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังได้กระชับความสัมพันธ์ทางทหารมากขึ้น โดยจัดการแข่งขันสงครามร่วมกันเหนือทะเลญี่ปุ่นและทะเลจีนตะวันออก และจัดการฝึกอบรมสำหรับกองกำลังภาคพื้นดินในดินแดนของกันและกัน
จีนยังได้ยกระดับกิจกรรมทางทหารรอบๆ เกาะไต้หวันที่ปกครองตนเอง ในขณะที่ไต้หวันกำลังเตรียมจัดพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในช่วงวันที่ 20 พ.ค.นี้ ของ วิลเลียม ไล่ ชิงเต๋อ ผู้ซึ่งได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีในการเลือกตั้งเมื่อเดือน ม.ค. ทั้งนี้ จีนอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนไต้หวันเป็นของตนเอง และไม่ได้ปฏิเสธการใช้กำลังเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการยึดคืนไต้หวัน
ที่มา: