นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลผลักดันและประกาศใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 ประเทศไทยได้รับความสนใจในเวทีโลกในฐานะชาติแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ขับเคลื่อนสิทธิเสมอภาคอย่างจริงจัง ส่งผลให้การจัดงาน “Bangkok Pride Festival 2025” กลายเป็นที่จับตามองในระดับนานาชาติ โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2568 ภายใต้แคมเปญ “The Celebration: Right to Love”

กิจกรรมไฮไลต์ของงาน คือ Bangkok Pride Parade ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 1 มิถุนายน 2568 ณ ย่านสยาม (สยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่) คาดว่าจะมีผู้ร่วมงานกว่า 300,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 50,000 คน ซึ่งนอกจากจะเป็นเวทีเฉลิมฉลองของคอมมูนิตี้ LGBTQIAN+ ทั้งในและต่างประเทศแล้ว ยังเป็นกลไกสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยประเมินว่าภายในเดือนเดียว จะเกิดเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 4,500 ล้านบาท

การจัดงานปีนี้ยังอยู่ภายใต้ธีม “Born This Way” สื่อถึงพลังแห่งตัวตนและการต่อสู้เพื่อสิทธิต่อเนื่องจากความสำเร็จของสมรสเท่าเทียม สู่การยอมรับอัตลักษณ์ในทุกมิติ รัฐบาลไทยร่วมมือกับองค์กรเครือข่ายภาคีทั้งในและต่างประเทศ เพื่อยกระดับ Bangkok Pride Festival ให้กลายเป็นเทศกาลระดับชาติ และดึงดูดให้ไทยกลายเป็น Pride Destination ที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก

นางสาวศศิกานต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สมรสเท่าเทียมไม่ได้เป็นเพียงชัยชนะของสิทธิมนุษยชน แต่ยังเปิดประตูสู่เศรษฐกิจใหม่ (Rainbow Economy) โดยคาดว่าจะสร้างงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมากกว่า 76,000 ตำแหน่ง และดึงดูดนักท่องเที่ยว LGBTQIAN+ ทั่วโลกให้เดินทางมาประเทศไทยเพิ่มขึ้นอีก 4 ล้านคนต่อปี สร้างรายได้กว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยปัจจุบันมีการจดทะเบียนสมรสแล้วถึง 15,231 คู่ ซึ่งในจำนวนนี้ 11,478 คู่เป็นคู่หญิง-หญิง สะท้อนถึงความเปิดกว้างทางกฎหมายและสังคมของไทย”

รัฐบาลมุ่งมั่นในการส่งเสริมสิทธิเสมอภาคในทุกมิติ โดยเชื่อมั่นว่า Bangkok Pride Festival 2025 จะไม่เพียงเป็นเวทีของการเฉลิมฉลองความรักเท่านั้น แต่ยังเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้กับประชาชน และเสริมสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยในสายตาชาวโลกอย่างภาคภูมิ