จังหวัดสระแก้วออกแถลงการณ์ ถึง กัมพูชา

วันที่ ๓ กันยายน ๒๕๖๘ นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ราชอาณาจักรไทย ได้ลงนามในหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดบ็อนเตียย์เมียนเจ็ย ราชอาณาจักรกัมพูชา เรื่อง ขอความร่วมมือดำเนินการย้ายราษฎรกัมพูชาที่รุกล้ำพื้นที่บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว แห่งราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๘ ความว่า "พื้นที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว มีราษฎรกัมพูชารุกล้ำเข้ามาปลูกสร้างบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งพื้นที่ตังกล่าวเป็นพื้นที่ของราชอาณาจักรไทย และเป็นพื้นที่นอกพื้นที่อ้างสิทธิตามบันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-กัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแตนทางบก ลงนามร่วมกันเมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๓ (MOU๔๓) ซึ่งเป็นการละเมิดอธิปไตยและกฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทย ในการนี้ ราชอาณาจักรไทยจึงต้องดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กับราษฎรกัมพูชาที่รุกล้ำ ดังนี้

๑.พื้นที่บ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว (หลักเขตที่ ๔๖-๔๗) จำนวนประมาณ ๖๔ ไร่ โดยมีราษฎรกัมพูชามาปลูกสร้างบ้านเรือนรุกล้ำ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าไม้ จึงเป็นการละเมิดกฎหมายของราชอาณาจักรไทย ดังนี้

(๑)การบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๕๔ และมาตรา ๗๒ ตรี และ

(๒) การเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๒๒ มาตรา ๖๒ และมาตรา ๘๑

.

๒.พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว (หลักเขตที่ ๔๒-๔๓) จำนวนประมาณ ๒๐ ไร่โดยมีราษฎรกัมพูชามาปลูกสร้างบ้านเรือนรุกล้ำจำนวนประมาณ ๓๕ ครัวเรือน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จึงเป็นการละเมิดกฎหมายของราชอาณาจักรทย ดังนี้

(๑) การบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๕๕ และมาตรา ๗๒ ตรี และ

(๒) การเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา๑๑ มาตรา ๖๒ และ มาตรา ๘๑

.

ในการนี้ จังหวัดสระแก้ว จึงขอความร่วมมือจากผู้ว่าราชการจังหวัดบ็อนเตียย์เมียนเจีย ราชอาณาจักรกัมพูชา ให้พิจารณาดำเนินการย้ายราษฎรกัมพูชาที่รุกล้ำออกจากฟื้นที่บ้านหนองจาน และพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ออกไปนอกราชอาณาจักรไทย ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หากราษฎรกัมพูชาที่รุกล้ำพื้นที่ดังกล่าว ยังไม่ย้ายออกจากพื้นที่ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่

(๑) พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๕๘๕ มาตรา ๕๕ และมาตรา ๗๒ ตรี

(๒) พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ มาตรา ๑๔ และมาตรา ๓๑ และ

(๓) พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๓๓ มาตรา ๖๒ และมาตรา ๘๒ ต่อไป ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามบันทึกผลการสำรวจร่วมไทย - กัมพูชา ในการค้นหาสภาพและที่ตั้งของหลักเขตแดนที่ ๔๖ และหลักเขตแดนที่ ๔๗ เมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ผลการประชุมวิสามัญคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ระหว่างไทยและกัมพูชา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๘ และผลการหารือของคณะกรรมการขายแด่นส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ ๑ แห่งราชอาณาจักรไทยและภูมิภาคทหารที่ ๕ แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๘ ณ จังหวัดสระแก้ว ราชอาณาจักรไทย