ไม่พบผลการค้นหา
ผบ.ทบ.ขอโทษและเเสดงความเสียใจ เหตุ จ.ส.อ.จักรพันธ์ กราดยิงประชาชน เผยมูลเหตุสำคัญถูกผิดสัญญาและไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้บังคับบัญชา ขออย่าด่าทหาร ถ้าจะด่าให้ด่า "พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์"

เมื่อเวลา 9.20 น. วันที่ 11 ก.พ. พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เเถลงข่าวกรณีเหตุสลด จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ทหารสังกัดค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา ใช้อาวุธปืนกราดยิงจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก 

พล.อ.อภิรัชต์ ได้กล่าวขอโทษและเเสดงความเสียใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เนื่องจากการกระทำของ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ซึ่งเป็นทหารภายใต้สังกัดกองทัพบก

โดยเปิดเผยว่า มูลเหตุสำคัญในการก่อเหตุ คือถูกผิดสัญญาและไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้บังคับบัญชา ในปัญหาเรื่องการซื้อขายที่ดิน จนนำไปสู่การก่ออาชญากรรมขโมยอาวุธภายในค่ายสุรธรรมพิทักษ์ กระทั่งนำไปก่อเหตุสลดที่ ห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 

“วินาทีที่ผู้ก่อเหตุลั่นไกสังหารประชาชนนั้น เขาคืออาชญากร ไม่ใช่ทหารอีกต่อไปแล้ว” พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวและว่าในรายละเอียดเรื่องที่ดินต้องสืบหาผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกันต่อไป

ผบ.ทบ.ยืนยันว่า การรักษาความปลอดภัยภายในหน่วยงาน การดูแลรักษาสรรพาวุธและค่ายทหารเป็นไปตามมาตรฐาน แต่ยอมรับว่า หลายๆ หน่วย มาตรฐานอาจจะไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับความใส่ใจของผู้บังคับบัญชา 

พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า กองทัพจะเยียวยาผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเต็มที่ทั้งร่างกายและจิตใจ ตามสิทธิและเกินกว่านั้นแน่นอน เพราะทุกท่านได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่สมบูรณ์

"ผมพร้อมทำทุกอย่างให้สภาพจิตใจ ทั้งครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นดีขึ้น" ผบ.ทบ.กล่าวและว่า ส่วนประชาชนผู้เสียชีวิต กองทัพบกพร้อมรับครอบครัวเข้ารับราชการตามคุณวุฒิ ถ้ามีความประสงค์ อีกทั้งผู้บาดเจ็บที่เสียโอกาสการประกอบวิชาชีพ กองทัพบกอ้าเเขนรับท่านโดยไม่มีข้อแม้


เปิดช่องร้องเรียนผู้บังคับบัญชา

พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้ก่อเหตุและคู่กรณีมีความสัมพันธ์กันตามสายบังคับบัญชา และเครือญาติของผู้บังคับบัญชา

หลังจากนี้ ตนจะเปิดช่องทางการร้องเรียนโดยตรงให้ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ถูกเอาเปรียบ เเละจะเน้นย้ำผู้บังคับบัญชาที่ไม่ใส่ใจดูแลทุกข์สุขของผู้ใต้บังคับบัญชา ขอให้มั่นใจและตนให้คำมั่นว่าช่องทางที่เปิดจะเป็นความลับที่สุด โดยท่านต้องเเสดงตัวตนว่าท่านเป็นใครหน่วยไหน และจะเปิดช่องให้ติดต่อโดยตรงมาที่ตัวเอง โดยไม่ผ่านช่องทางของกองทัพบก ตนจะหาช่องทางและบุคลากรมาทำ เพื่อให้ผู้ใต้บังคับบัญชาสามารถสื่อสารกับตนได้โดยตรงและจะลงโทษผู้กระทำผิดอย่างเต็มที่ตามความสามารถที่ทำได้

พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวย้ำว่า เสียใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้ และขอทุกคนอย่าด่ากองทัพบก อย่าด่าทหาร เนื่องจากกองทัพเป็นองค์กรไม่มีความรู้สึก เป็นองค์กรศักดิ์สิทธิ เป็นองค์กรมั่นคง ทหารที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในประเทศไทย อยู่ตามแนวชายแดน ปราบปรามยาเสพติด ทหารที่ยังต้องเสี่ยงชีวิต ปกป้องอธิปไตยของชาติ ยังมีอยู่่มาก

"ถ้าจะด่า จะตำหนิ ท่านมาด่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผมน้อมรับคำตำหนิการเเสดงความคิดเห็นทุกอย่าง ท่านมาด่าผม เพราะผมเป็นผู้บัญชาการทหารบก" พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวน้ำตาคลอและว่า ช่วงเวลาดำรงตำเเหน่ง ผบ.ทบ.ที่เหลืออยู่จะมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาและพัฒนาศักยภาพของกองทัพอย่างเต็มที่ต่อไป

ช่วงหนึ่งเมื่อถูกสื่อถามว่า ทำไมที่ผ่านๆ มาไม่สามารถเเก้ไขปัญหาผลประโยชน์ภายในองค์กรได้ 

พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ผู้บัญชาการแต่ละท่านที่ผ่านๆ มา มีนโยบายแตกต่างกันออกไป แต่นับตั้งเเต่ตนเข้ามาเป็น ผบ.ทบ.เห็นปัญหาหลายๆ และเริ่มแก้ไขปัญหาต่างๆ มาตลอด พยายามปรับตัว ปรับสภาพและองค์กรของตัวเอง เชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าหลังจากนี้ไปใครก็ตามที่เข้ามาเป็น ผบ.ทบ.จะยึดมั่นแนวทางแก้ไขปัญหาให้มันดีขึ้น ได้รับความเป็นธรรมทั้งเรื่องกำลังพล และขออย่าเอาไปเป็นประเด็นทางการเมือง

เมื่อถามว่าจะมีการเพิ่มมาตรการดูแลสรรพาวุธหรือไม่

พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า มีการเพิ่มกำลังและนำสุนัขเข้ามาช่วยดูแล โดยรับปากว่าจะไปทบทวนและทำให้ดีขึ้น อย่างไรก็ตามขอย้ำว่า มาตรการเดิมที่ทำอยู่ในระดับมาตรฐาน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซองยิงทำลายกุญแจ รวมถึงใช้รถจิ๊บพุ่งชนประตู จนสามารถลักลอบอาวุธไปได้

เมื่อถามว่าทำไมถึงใช้เวลาค่อนข้างนานในการคลี่คลายสถานการณ์

ผบ.ทบ.กล่าวว่า กำลังพลผู้ปฏิบัติงานไม่ได้คุ้นเคยกับพื้นที่ ต้องใช้เวลาพอสมควรในการดูแผนที่ภายใน ประสานงานกับผู้ดูแลห้างฯ และคนร้ายทำลายกล้องวงจปิดจนเสียหาย ที่สำคัญคือมีประชาชนติดอยู่จำนวนมาก จึงต้องการเวลาในการปฏิบัติภารกิจ อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ซึ่งเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ จะตอบเรื่องนี้ได้ชัดเจนกว่า


ปัดรับผิดชอบด้วยการลาออก

ช่วงหนึ่ง ผบ.ทบ.ถูกผู้สื่อข่าวถามว่า จะลาออกเพื่อเเสดงความรับผิดชอบหรือไม่

พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ถึงแม้ผู้ก่อเหตุจะเป็นกำลังพลของกองทัพบก แต่สิ่งที่กระทำไม่ใช่ภารกิจของกองทัพ และกระทำไปด้วยเหตุผลส่วนตัว

"ผู้ก่อเหตุไปก่อเหตุที่ไม่ใช่ภารกิจของกองทัพบก เช่น มีข้าราชการไปขนยาเสพติด ค้าอาวุธสงครามแล้วถูกตำรวจวิสามัญ ผมก็อยากจะถามเหมือนกันว่า มันสมควรจะใช้คำถามนี้กับผมหรือเปล่า ผมมีความรับผิดชอบเพียงพอต่อภารกิจที่ผมสั่ง ทุกตำเเหน่งที่ผ่านมาทุกวิกฤตที่ผ่านมาเเละผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าทุกวิกฤตที่ผ่านมา จนกระทั่งจะเกษียณอายุราชการ ผมเป็นคนรับผิดชอบ สิ่งต่างๆ มาตลอด" พล.อ.อภิรัชต์กล่าวและว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่ปฏิบัติการทางทหารเเต่เป็นเรื่องส่วนตัว

ผบ.ทบ. กล่าวว่า ถ้าอยู่บนพื้นฐานความจริงและหลักการ เราควรจะตอบสนองกับอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น อยากให้ผู้ที่ตั้งถามแบบนี้ดูข้อเท็จริงด้วย อย่ามุ่งหวังแต่คำตอบบางอย่างจากตน ที่ฟังแล้วพึงพอใจหรือรู้สึกว่าตนเองชนะ ตนบอกแล้วว่าตนไม่ยอมแพ้ ตนเเสดงความรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น

เมื่อถามว่า สังคมออนไลน์ตั้งคำถามว่าเหตุใดถึงใส่เครื่องแบบเต็มยศลงพื้นที่

ผบ.ทบ.กล่าวว่า ตนถือว่าวันนั้นไปทำงาน อย่างไรก็ตามเข้าใจว่าตนจะแต่งตัวอย่างไรก็โดนด่า ยิ่งถูกถามเปิดทางเช่นนี้ ยิ่งพูดไปก็ถูกนำไปวิจารณ์ในสังคมออนไลน์

"ยิ่งถามเปิดทางให้ผมพูดอย่างนี้ ก็ถูกนำไปกระทืบในทวิตเตอร์อีก" ผบ.ทบ.กล่าว "ผมเเต่งเครื่องแบบ ผมใส่ชุดฝึกฟูลออฟชั่นก็โดนด่า ผมรับรองได้"