ต่างประเทศ
ขังนายพลใกล้ชิด ‘มินอ่องหล่ายน์’ สอบปากคำข้อกล่าวหาคดีคอร์รัปชัน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในการรณรงค์เพื่อควบคุมราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้น และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เผด็จการทหารเมียนมาได้จับกุมตัว พล.ต.ยันหวงโซ ซึ่งเป็นผู้นำคณะกรรมการกลางของเผด็จการทหาร ว่าด้วยกิจการประกันการไหลเวียนการค้าและสินค้าอย่างราบรื่น
นับตั้งแต่นั้นการจับกุมตัวครั้งนั้นเป็นต้นมา เผด็จการเมียนมาได้เริ่มสอบปากคำผู้นำเข้า ผู้ส่งออก นายธนาคาร และเจ้าหน้าที่หลายร้อยราย ในธุรกิจที่ทหารเป็นเจ้าของ เช่น ธนาคารเมียวดี และบริษัทเมียนมาร์ อีโคโนมิก คอร์ปอเรชั่น
จากรายงานที่อ้างอิงการสอบสวนเปิดเผยว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โมมยินต์ตุน ได้ลักลอบเก็บสินบนจากนักธุรกิจ เป็นเงินหลายล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยนักธุรกิจบางรายกล่าวกับสำนักข่าว The Irrawaddy ว่า พวกเขาต้องจ่ายเงินให้ โมมยินต์ตุน อย่างน้อย 20,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 715,600 บาท) หรือทรัพย์สินที่เทียบเท่าเป็นทองคำ และของขวัญ อาทิ สุราคอนยัคหลุยส์ 13 ซึ่งมีราคาต่อขวดขนาด 750 มิลลิลิตร มากกว่า 4,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 143,120 บาท) ในการจะเป็นใบเบิกทางให้นักธุรกิจสามารถเข้าพบกับ โมมยินต์ตุน ได้
โมมยินต์ตุน ซึ่งมีลำดับชั้นยศสูงเป็นอันดับที่ 6 ของกองทัพเมียนมา คอยทำหน้าที่ดูแลกิจการเศรษฐกิจของเมียนมา โดยเขาได้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการการลงทุนเมียนมา (MIC) ซึ่งควบคุมโดยเผด็จการทหาร และคณะกรรมการกำกับการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (FESC) โดยหน่วยงานดังกล่าวนี้ ได้รับการก่อตั้งขึ้นโดยเผด็จการเมียนมา เพื่อตอบสนองต่อปัญหาการขาดแคลนเงินสกุลเหรียญสหรัฐฯ และมีอำนาจควบคุมธนาคารกลางแห่งเมียนมา
ทั้งนี้ ยันหวงโซ ซึ่งทำงานด้านการค้าและประเด็นที่เกี่ยวข้องภายใต้การดูแลของ โมมยินต์ตุน ได้รับการปล่อยตัว เพื่อทำหน้าที่เป็นโจทก์ของฝ่ายรัฐบาลเผด็จการทหารเมียนมา ในการยื่นฟ้องต่อ โมมยินต์ตุน
The Irrawaddy ระบุว่า มินอ่องหล่ายน์ ตกอยู่ในความรู้สึกอับอายอย่างมาก เกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาวในกรณีการคอร์รัปชั่นที่เกี่ยวข้องกับ โมมยินต์ตุน ซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมของผู้นำเผด็จการเมียนมาเอง ทั้งนี้ มีการคาดเดากันว่า โมมยินต์ตุน จะเป็นผู้สืบทอดอำนาจต่อจาก มินอ่องหล่ายน์ ในอนาคต
โมมยินต์ตุน มีอายุน้อยกว่า มินอ่องหล่ายน์ 10 ปี ทั้งนี้ เป็นที่รู้กันดีว่า โมมยินต์ตุน ในวัย 55 ปี เป็นผู้จงรักภักดีอย่างแท้จริงต่อหัวหน้าเผด็จการรัฐประหารเมียนมา โดย โมมยินต์ตุน ได้รับความไว้วางใจและการเลื่อนขั้นในตำแหน่งอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเขาจะขาดประสบการณ์ทางการทหาร หรือการบริหารที่โดดเด่นก็ตาม นอกจากนี้ โมมยินต์ตุน ยังเป็นสมาชิกที่อายุน้อยที่สุดในสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) ของเผด็จการทหารเมียนมา และได้รับตำแหน่งอันรุ่มรวยใน MIC และ FESC ที่ควบคุมโดยเผด็จการทหารเมียนมา
ที่มา:
