นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ได้เห็นโฉมหน้าครม.หนู1 ต้องบอกว่าผิดหวัง ไม่เหนือความคาดหมาย สายที่ใกล้ชิดบุรีรัมย์ ได้ดี ตบเท้าเข้าสู่อำนาจคุมกระทรวงสำคัญๆ กระทรวงมหาดไทย คมนาคม ยุติธรรม ที่ผู้คนคลางแคลงใจประเด็นการฮั้วสว. ที่ดินเขากระโดง แถมยังส่งรองนายกรัฐมนตรีบางคน มาคอยดูแลอีกชั้น ขอทำนายล่วงหน้าเลย การประชุมนัดแรกแบ่งงานรองนายกฯ จะให้กำกับ รัฐมนตรีที่พรรคนั้นๆ เป็นเจ้ากระทรวง ความแปลกใจการตั้งครม. ที่บอกจะมาดูแลปัญหาปากท้องให้ประชาชน ฟื้นความเชื่อมั่น กระทรวงดูแลการค้าขายในประเทศ ต่างประเทศ ธุรกิจบริการ ทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ มีรัฐมนตรีทำงานแค่คนเดียว กระทรวงอุตสาหกรรม มีรัฐมนตรี 2 คนจากพรรคเดียวกันทำงาน แทบจะทุกกระทรวง แบ่งรัฐมนตรีในสังกัดพรรคนั้นๆ กำกับดูแลทั้งกระทรวง แล้วอย่างนี้ จะไม่ให้สังคมตั้งคำถามว่า ต่างตอบแทนได้อย่างไร
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า พรรคประชาชน ในฐานะผู้ยกมือสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย ควรจะต้องมีส่วนรับผิดชอบ นับวันเริ่มจะผิดข้อตกลง MOA เข้าไปมากขึ้นทุกที การเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตั้งสสร.ในระยะเวลา 4 เดือน ดูแล้วน่าจะเกิดได้ยาก พรรคภูมิใจไทย กำลังขยายอาณาจักรดึง ดูด หลายกลุ่มการเมือง เข้ามาในสังกัดตัวเอง ระยะเวลาบริหารงาน 4 เดือนยุบสภาฯ นับตั้งแต่แถลงนโยบายต่อสภาฯ จะเป็นไปตามนั้นหรือไม่ เริ่มเห็นการออกลายบ้างแล้ว พรรคประชาชน อาจจะไม่มีรัฐมนตรีเข้าไปทำงาน แต่การยกมือสนับสนุน มอบความชอบธรรมให้นายอนุทิน เป็นนายกฯ แล้วพอเห็นโฉมหน้าครม.ชุดใหม่ เป็นอย่างไร ที่บอกว่า จะเปิดอภิปราย รวบรวมหลักฐานยื่นเอาผิดรัฐมนตรีคนนั้นๆและนายกฯในฐานะคนลงนามแต่งตั้ง ไปตามองค์กรอิสระ ศาลรัฐธรรมนูญ หวังว่าคงจะไม่ลืมสิ่งที่เคยพูดไป
“ดูแล้ว วาระการทำงานของรัฐบาลหนู1 อาจจะสั้นกว่า 4 เดือน ปัญหาต่างๆ รอแก้ไข เศรษฐกิจ ปากท้อง สังคม ยาเสพติด ความมั่นคงภายในประเทศ การฟื้นฟูความเชื่อมั่น ดึงนักลงทุนต่างชาติ เข้าคิวเร่งด่วนรอแก้ไข เรื่องที่ดินเขากระโดง ฮั้วสว. ขอดักทางเอาไว้เลย อย่าไปแทรกแซงการทำงานเจ้าหน้าที่ หรือตั้งคณะทำงาน กรรมการสอบแล้วสอบอีก ยื้อเวลาจนครบวาระ สุดท้ายหาคนกระทำความผิดไม่ได้อย่างเด็ดขาด การจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ ใช้สรรพกำลัง ทรัพยากรต่างๆ อย่างสุดกำลัง แลกมากับการเข้าสู่อำนาจ นักวิเคราะห์การเมืองบางคนตั้งคำถามค่าหัวต่างตอบแทน 50-80 ล้าน ไม่รู้เป็นเช่นนั้นหรือไม่ ถ้าเป็นจริงก็ต้องบอกว่า น่าตกใจอย่างมาก สโลแกน ภูมิใจไทย พูดแล้วทำ จากนี้ไป จะถูกตามติดตรวจสอบทุกฝีก้าวทุกๆเรื่อง จะอยู่แค่ 4 เดือน หากเกิดการบิดพลิ้ว ตุกติก ขอให้ทุกพรรคการเมือง ประชาชน จดจำ จดใส่บัญชีผืนหนังเอาไว้ แล้วค่อยไปสั่งสอนเอาคืนในคูหาเลือกตั้ง” นายพร้อมพงศ์กล่าว