ไม่พบผลการค้นหา
นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส. พรรคเพื่อไทย ตั้งข้อสังเกตการเปิดทางร่าง รธน. MOA ส้ม-น้ำเงิน อาจได้แค่ยุบสภา 4 เดือน ที่เหลือไม่ได้อะไรเลย ถามหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้จริงใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ

นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย อภิปรายถึงนโยบายรัฐบาล ในประเด็นของการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดช่องทางให้มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จากการที่ได้อ่านข้อตกลง ระหว่างพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย กลับอ่านนโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีระบุเอาไว้เพียงสามบรรทัด ทำให้เกิดความรู้สึกว่า ขาดความเชื่อมั่นว่า รัฐบาลมีความจริงจังและจริงใจในการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มากน้อยแค่ไหน

ข้อตกลงที่มีการทำกันไว้มีความยาวทั้งหมด 5 ข้อ ผมได้อ่านอยู่หลายครั้งหลายหนโดยเฉพาะในข้อที่ 3 ที่มีการเขียนว่า ให้มีความร่วมมือระหว่างคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ พรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทยในการเร่งผลักดันร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อกำหนดให้มีกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง ให้แล้วเสร็จในวาระของสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้โดยเร็ว 

สาระสำคัญคือท่านขอสามประสาน แต่เมื่อเปิดดูนโยบายของรัฐบาล ได้มีการเขียนไว้แต่ไม่ได้อยู่ในนโยบาย 15 ข้อ มีเพียงการเขียนไว้ในช่วงอารัมภบทว่า รัฐบาลนี้จะสนับสนุนการจัดทำประชามติและการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญโดยรับฟังเสียงของพี่น้องประชาชน 

ผมมีข้อสังเกตที่เป็นห่วงอยู่พอสมควร เพราะนโยบายที่เขียนไปกับข้อตกลงที่ได้มีการทำร่วมกันไว้นั้นดูไม่สอดคล้องกัน เพราะข้อตกลงที่ทำกันไว้ทำให้เข้าใจว่า คณะรัฐมนตรีพรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทย จะต้องร่วมกันผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ในเวลานี้คณะรัฐมนตรียังไม่มีท่าทีว่าจะเสนอญัตติแก้ไขเพิ่มเติมร่างและธรรมนูญเลย 

มีเพียงแต่พรรคภูมิใจไทยที่เป็นพรรคแกนนำที่เสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญขึ้นมา แต่ยังไม่มีร่างของคณะรัฐมนตรี แต่ก็เข้าใจว่าท่านอาจจะอ้างว่าตอนนี้ยังบริหารราชการแผ่นดินไม่ได้จึงยังไม่สามารถจะมีร่างของคณะรัฐมนตรีได้

การที่ไม่มีร่างรัฐธรรมนูญของคณะรัฐมนตรีจะนำมาสู่ปัญหาสำคัญคือ ในวาระที่ 1 2 และ 3 ของการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญนั้นจะต้องได้เสียงจากรัฐสภาเกินกว่ากึ่งหนึ่งเป็นเงื่อนไขประการสำคัญ 

และเมื่อสองสามวันนี้ได้พบเห็นการให้สัมภาษณ์ของหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่งที่ร่วมรัฐบาลอยู่ในขณะนี้ให้สัมภาษณ์ว่า ท่านไม่สนับสนุนการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2560 เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง ท่านจะรักษารัฐธรรมนูญฉบับนี้ไว้และไม่เห็นด้วยที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อเปิดทางให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

สาเหตุที่มีการย้ำเรื่องนี้ เพราะในท้ายที่สุดหากเราจะผลักดันร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมของทั้งสามพรรคการเมืองที่ได้มีการยื่นเสนอ ให้เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา คณะรัฐมนตรีมั่นใจได้หรือไม่ว่า พรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดจะเห็นชอบกับร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่แต่ละพรรคนำเสนอ การที่มีการออกให้สัมภาษณ์เช่นนี้ก็เป็นเรื่องที่ชัดเจนว่า ยังไม่มีแนวทางของคณะรัฐมนตรี ว่าจะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ นี่คือสาระสำคัญที่เป็นข้อวิตกกังวล

และนอกจากท่านจะต้องได้เสียงจากรัฐสภาเกินกว่ากึ่งหนึ่งแล้ว ปัญหาสำคัญอีกประการหนึ่งคือท่านจะต้องได้เสียงจาก วุฒิสมาชิกไม่น้อยกว่าหนึ่งในสาม ปัญหาที่ผมกังวลก็คือหากเราไม่สามารถผลักดันให้มีการผ่านร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้ เราก็ทำได้เพียงปล่อยให้มีการเซ็นข้อตกลงกันไปโดยที่ได้เพียงแค่การยุบสภาภายใน 4 เดือนแต่รัฐธรรมนูญนั้นเราจะไม่ได้อะไรเลย ซึ่งปัญหาที่ตามมาอีกอันอย่างหนึ่งก็คือ ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ

เรื่องรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เป็นสิ่งที่เราตั้งใจรอคอยกันมานาน แต่เท่าที่ดูจากสถานการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาแล้ว คาดว่าจะมีพลังจากองค์กรต่างๆ ในการต่อต้าน ไม่ให้มีการเปิดทางเพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 

โดยรวมแล้วสิ่งที่จะทำให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมนี้ไม่ประสบความสำเร็จมาจาก 

1.การได้รับเสียงไม่เกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา 

2.วุฒิสมาชิกไม่เห็นด้วยและได้เสียงไม่ถึงหนึ่งในสามของจำนวนวุฒิสมาชิกทั้งหมด 

3.เกิดสถานการณ์บางอย่างแบบที่เคยเกิดขึ้นในอดีตเช่นมีพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งไปรวบรวมเสียงและยื่นคำร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอำนาจหน้าที่ของรัฐสภาอีกครั้ง หรือในท้ายที่สุดอาจมีขบวนการต่อต้านลักษณะอื่นเกิดขึ้น จนทำให้การจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่ประสบความสำเร็จ

คำถามสำคัญคือหากมันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ พรรคไหนจะต้องรับผิดชอบหากเกิดเหตุการณ์นั้น ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ผมสังเกตได้จากสัญญาณต่างๆ จากการรับฟังทั้งหลายทั้งปวง ไม่ได้หมายความว่า ผมจะไม่เห็นด้วยกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่