ไม่พบผลการค้นหา
กระทรวงทรัพย์ฯ และ กรอ. ให้ กอ.รมน. แต่ละจังหวัดลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานนำเข้าขยะมีพิษและขยะอิเล็กทรอนิกส์ พบลักลอบเคลื่อนย้ายขยะอิเล็กทรอนิกส์ไปยังโรงงานที่ไม่มีใบอนุญาตประมาณ 14,000 ตัน

พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อม นายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมร่วมหาแนวทางการแก้ปัญหาการลักลอบนำเข้าขยะมีพิษและขยะอิเล็กทรอนิกส์นอกรอบนัดแรก หลัง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด ในการทำงานร่วมกันระหว่าง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กรมศุลกากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า เป็นการประชุมหารือนอกรอบก่อนจะแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมารับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง 1 ชุด วันนี้เน้นหารือใน 2 ประเด็น เกี่ยวกับการแก้ปัญหาขยะพลาสติกในระยะสั้น

โดยกำชับให้ กอ.รมน. แต่ละจังหวัดลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานนำเข้าขยะ ทั้งขยะอิเล็กทรอนิกส์และขยะเศษพลาสติกมีการนำเข้ามาในประเทศถูกต้องหรือไม่ หากพบเอกสารการสำแดงนำเข้าเป็นเท็จต้องดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตทันที รวมทั้ง ตรวจสอบปริมาณการนำเข้าขยะพิษจากต่างประเทศทั้งหมดมีสัดส่วนเท่าไหร่ เพื่อนำไปใช้ประกอบการการประเมินและพิจารณาอาจจะลดการนำเข้าขยะดังกล่าวในอนาคต ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาวจะเน้นเรื่องการใช้กฎหมายเข้ามาควบคุม ซึ่งจะมีการหารือลงลึกในรายละเอียดครั้งต่อไป

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาประเทศไทย มีมาตรการกำจัดขยะมีพิษด้วยการส่งขยะอิเล็กทรอนิกส์ไปทำลายในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ส่วนขยะโทรศัพท์มือถือจะถูกส่งไปทำลายที่ประเทศสิงคโปร์ โดยยอมรับว่าพบการลักลอบขนขยะมีพิษและขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้าประเทศอยู่มาก

ขณะที่ นายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า ได้จัดการโรงงานนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์หรือเศษขยะพลาสติกที่ไม่ถูกต้อง ด้วยการใช้พระราชบัญญัติโรงงานมาใช้ควบคุมและลงโทษผู้กระทำความผิดลักลอบขนขยะพิษเข้าประเทศไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่แจ้งขอใบอนุญาต ในเบื้องต้นได้ดำเนินการตรวจยึดใบอนุญาตโรงงานกระทำผิดเกือบทั้งหมดแล้ว โดยโรงงานนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์สั่งพักใบอนุญาตแล้ว 5 โรงงาน จากทั้งหมด 7 โรงงาน ภาพรวมปริมาณขยะพิษที่นำเข้ามาในประเทศแต่ไม่ได้นำเข้าโรงงานกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ในปีนี้มีทั้งหมด 37,000 ตัน จาก 7 โรงงานที่นำเข้ามา แล้วพบลักลอบเคลื่อนย้ายไปยังโรงงานที่ไม่มีใบอนุญาตประมาณ 14,000 ตัน ที่ต้องเร่งผลักดันกลับไปยังประเทศต้นทาง