ไม่พบผลการค้นหา
นายกรัฐมนตรี แถลงหลังประชุม ศบค.ชุดใหญ่ แจงเหตุคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อให้แก้ปัญหาได้ทันเวลา ย้ำผ่อนคลายระยะ 5 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนผู้มีรายได้น้อย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ว่า ขณะนี้อยู่ในห้วงเวลาสำคัญ แม้ช่วงที่ผ่านมาทุกอย่างดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีความเสี่ยงหลายประการ ซึ่งในระยะแรก และระยะที่ 2-3-4 ต้องมีการปฏิบัติตามมาตรการอย่างเข้มงวด และวันนี้จะมีการผ่อนคลายในระยะที่ 5 ซึ่งยังมีความเสี่ยงค่อนข้างมาก ดังนั้นขึ้นอยู่กับความร่วมมือของประชาชนทุกคนและสถานประกอบการต่างๆ

"ขอให้ย้อนกลับไปดูว่าในช่วงที่ผ่านมาที่มีติดเชื้อไม่มากนักเกิดจากอะไร ซึ่งเกิดจากมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวด และมีการใช้มาตรการพิเศษ โดยเฉพาะมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกมาถึงควบคุมได้ถึงวันนี้ ซึ่งเหตุผลที่ทำไมถึงต้องมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ได้บอกหลายครั้งแล้วว่าแม้มีกฎหมาย 40 ฉบับแต่ละหน่วยงานถือไว้ แต่หลายกิจกรรมไม่สามารถดำเนินการได้ทันที เช่น การเปิด-ปิดสถานที่ต่างๆ หรือการเข้าออกประเทศ ที่ต้องผ่านขั้นตอนทำให้หลายอย่างอาจไม่ทันต่อเวลาในการแก้ปัญหาจึงต้องมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ได้ปิดกั้นใครทั้งนั้น" นายกรัฐมนตรี กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ที่สำคัญในห้วงที่ยังมีการแพร่ระบาด จะเห็นหลายประเทศที่มีการประกอบกิจกรรมที่มีรวมตัวทำกิจกรรมของคนจำนวนมากก็มียอดผู้ติดเชื้อสูง ดังนั้นจึงจำเป็นพิจารณาตามขั้นตอนโดยในระยะที่ 5 จะมีการผ่อนคลายสถานประกอบการต่างๆรวมถึงการเข้าออกประเทศของนักธุรกิจต่างๆ แต่ย้ำว่าต้องมีมาตรการเชิงรุก โดยต้องมีการรองรับในวันข้างหน้า โดยเฉพาะในเรื่องการท่องเที่ยว การค้าขายและการประกอบกิจกรรมต่างๆ โดย ในรายละเอียดโฆษก ศบค.และปลัดกระทรวงชี้แจงเหตุผลถึงความจำเป็นต่อไป อย่างไรก็ตามเหตุผลถึงความจำเป็นในการผ่อนคลายระยะที่ 5 สิ่งสำคัญคือเห็นใจผู้มีรายได้น้อยและ ผู้ที่ต้องประกอบอาชีพหาเลี้ยงครอบครัว โดยต้องมีมาตรการสำคัญที่จะรองรับ เพื่อให้เห็นว่าเรามีความพร้อมแต่ไม่สามารถรับรองได้ 100% เพราะทุกอย่างอยู่ที่คนไทยทุกคนที่จะร่วมมือกันทุกอย่าง ถึงจะผ่านพ้นไปด้วยดี 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวสั้นๆ ระหว่างเดินกลับไปยังทำงาน ถึงการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถือ เป็นการลิดรอน สิทธิเสรีภาพของประชาชนหรือไม่ ว่า "คนละกาลเทศะ"