ไม่พบผลการค้นหา
โฆษกรัฐบาลเยอรมนียืนยัน 'แองเกลา แมร์เคล' นายกรัฐมนตรี ต้องกักตัวเองที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน หลังมีปฏิสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ 'โควิด-19' ขณะที่ สว. สหรัฐฯ ติดเชื้อ ถูกวิจารณ์ ไม่รับผิดชอบต่อสังคม

CNN รายงานว่า แองเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีของเยอรมนี กักตัวเองที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน หลังมีปฏิสัมพันธ์ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ 'โควิด-19' โดยโฆษกรัฐบาลเยอรมนีเป็นผู้ออกมายืนยันเหตุการณ์ดังกล่าวต่อสาธารณชน พร้อมระบุว่าเมื่อวันศุกที่ผ่านมา (20 มี.ค.2563) แพทย์ได้เดินทางมาฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อนิวโมคอคคัสให้กับแมร์เคล ก่อนที่จะพบว่าตัวเองติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่นานหลังจากนั้น โดยระหว่างการกักตัว นายกฯ เยอรมนี จะได้รับการตรวจหาการติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง

ในวันที่ 22 มี.ค. นายกรัฐมนตรีเยอรมนีประกาศเพิ่มมาตการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ด้วยการ สั่งห้ามไม่ให้ประชาชนรวมตัวกันมากกว่า 2 คนขึ้นไป ยกเว้นในกรณีของการอยู่ร่วมกันในครอบครัว นอกจากนั้นก็ยังเรียกร้องให้ประชาชนมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนให้น้อยที่สุด และอยู่ห่างจากผู้อื่นในพื้นที่สาธารณะอย่างต่ำ 1.5 - 2 เมตร

ขณะที่สหรัฐอเมริกาพบว่า แรนด์ พอล สว.สังกัดพรรครีพับลิกันจากมลรัฐเคนทักกี กลายเป็น สว. คนแรกของสหรัฐฯที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้วอย่างเป็นทางการ สร้างความตื่นตระหนกและความไม่พอใจเป็นวงกว้าง โดยผู้ที่มีปฏิสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเขาในช่วง 14 วันที่ผ่านมาต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่าพอลไม่แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการกักตัวเพื่อดูอาการอยู่ที่บ้าน ตรงกันข้าม เขากับเข้าร่วมงานสัมคมต่างๆ ในช่วงเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา 

เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว พอลเข้าร่วมงานสังคมในเมืองหลุยส์วิลล์ มลรัฐเคนทักกี ซึ่งมีผู้คนเข้าร่วมจำนวนมาก และขณะนี้มีรายงานแล้วว่าผู้ร่วมงานหลายคนติดเชื้อโควิด-19 หนึ่งในนั้นคือบุคคลสำคัญอย่าง เกรก ฟิชเชอร์ ภรรยาของนายกเทศมนตรีเมืองหลุยส์วิลล์

การทราบข่าวดังกล่าวทำให้บรรดานักการเมืองของสหรัฐฯต่างกังวลอย่างมากถึงโอกาสการรับเชื้อที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพอลมีปฏิสัมพันธ์ใกล้ชิดอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ไม่ว่าจะระหว่างการทำงานร่วมกับ สว.คนอื่นๆ การร่วมรับประทานอาหารกันบ่อยครั้งในช่วง 14 วันที่ผ่านมา และการออกกำลังกายกับบุคคลใกล้ชิดและเพื่อนร่วมงาน โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่าเขาได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกายแล้ว