ไม่พบผลการค้นหา
ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 ตอกย้ำ ‘ประยุทธ์’ ต้องรีบลงจากหลังเสือ หาทางออกให้ประเทศ อย่าปล่อยให้เศรษฐกิจพังหนัก คนใน พปชร.ยังเล่นการเมืองแบบเก่า

นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา'35 เปิดเผยว่าตามที่คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา35ได้ออกแถลงการณ์ในโอกาสครบรอบ 28 ปีของเหตุการณ์พฤษภาคม2535 เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2563 เรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีแสดงเจตจำนงด้วยการเสียสละลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเนื่องจากเห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ไม่เหมาะกับสถานการณ์ใหม่แล้ว  เพราะไม่ได้ปฏิรูปประเทศและสร้างความปรองดองสมานฉันท์ตามสัญญาและยังสืบทอดอำนาจทั้งนี้เพื่อเปิดพื้นที่ให้รัฐบาลชุดต่อมาที่ไม่ใช่คู่ขัดแย้งได้เข้ามาแก้ปัญหาซึ่งถือเป็นการล้างกระดานใหม่ก่อนที่สถานการณ์ต่างๆของบ้านเมืองจะรุมเร้าเกิดความปั่นป่วนโกลาหลและกระทบต่อสถาบันสำคัญของชาติจนไร้หนทางเยียวยาวแก้ไขได้โดยก่อนจะลาออก 3-4 เดือนให้แก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจและปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมแต่พล.อ.ประยุทธ์ยังคงนิ่งเฉยไม่สนใจคณะกรรมการญาติวีรชนฯจึงขอตอกย้ำสถานการณ์ดังนี้

1.การแย่งชิงตำแหน่งกันในพรรคพลังประชารัฐซึ่งเป็นพรรคแกนนำตั้งรัฐบาลเพื่อต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีกันท่ามกลางปัญหาที่เกิดขึ้นจากผลกระทบของโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนจากปัญหาปากท้องตกงานอันเนื่องมากจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำสะท้อนให้เห็นว่านักการเมืองในฝ่ายรัฐบาลไม่ได้สนใจที่จะแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างแท้จริงสนใจแต่เพียงผลประโยชน์และพวกพ้องของตนเองมากกว่าผลประโยชน์ของชาติและประชาชนโดยรวมซึ่งเป็นการเมืองแบบเก่าอันเป็นผลพวงจากรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ร่างขึ้นมาเพื่อสืบทอดอำนาจของตัวเองไม่ใช่เพื่อการปฏิรูปขณะที่พรรคการเมืองอื่นทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านก็มีความขัดแย้งภายในเช่นกันซึ่งตราบใดที่ยังไม่มีการปฏิรูปการเมืองอย่างแท้จริงการเมืองไทยก็จะวนเวียนอยู่ใน”การเมืองน้ำเน่า”เช่นนี้ระบบรัฐสภาก็เป็นที่พึ่งพาไม่ได้สุดท้ายจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นระบอบประชาธิปไตยและประเทศชาติกลายเป็นวงจรอุบาทว์อีกพอกันทีกับ"การเมืองน้ำเน่า"ประชาชนอดทนมามากแล้ว

2.พล.อ.ประยุทธ์ไม่ปฏิรูปประเทศและไม่สร้างความปรองดองสมานฉันท์หลังยึดอำนาจ 22 พ.ค. 2557 มีการตั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) แล้วก็ยุบทิ้งแล้วก็ตั้งสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และปัจจุบันมีคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ11 ด้านรวมทั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ  ซึ่งทั้งหมดคือการซื้อเวลาเพื่อสืบทอดอำนาจเท่านั้นหลังการแพร่ระบาดไวรัสโควิดสถานการณ์โลกได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วกลายเป็นยุคNew Normal คณะกรรมการปฏิรูปเหล่านี้จึงไร้ความหมายระบบการเมืองไทยก็ยังเป็นแบบOld Normal ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ใหม่ได้โดยเฉพาะวิกฤติเศรษฐกิจที่ลุกลามทั่วโลกในขณะที่แกนนำกลุ่มการเมืองและผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งยังติดคดีความหากความขัดแย้งทางการเมืองขยายตัวอีกสถานการณ์จะลุกลามเกินกว่าใครจะควบคุมสถานการณ์ได้

3.รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์มีเวลาอีกไม่นานแล้วก่อนจะสายเกินไปรีบเร่งแก้ปัญหาใหญ่ของบ้านเมืองเป็นเกียรติประวัติก่อนลงจากหลังเสือโดยเฉพาะปัญหาทุนผูกขาดประเทศปัญหากับดักรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจกระบวนการยุติธรรมสองมาตรฐานไร้ความน่าเชื่อถือจึงต้องเร่งปฏิรูปโครงสร้างการเมืองเศรษฐกิจและสังคมโดยเร่งด่วนก่อนประเทศไทยจะเผชิญสถานการณ์วิกฤติเหมือนสหรัฐอเมริกาปัญหาใหญ่จากความขัดแย้งกำลังจะปะทุขึ้นมาในไม่ช้าโดยเฉพาะปัญหาการเลือกปฏิบัติความเหลื่อมล้ำต่ำสูงทางเศรษฐกิจในสังคมคนรวยล้นฟ้า1% กลับครอบครองโภคทรัพย์ในแผ่นดินมากมายแต่ประชาชนกำลังเป็นทุกข์ยากจากภาวะตกงานและกำลังจะอดตายเพราะนโยบายรัฐบาลและโครงสร้างประเทศที่ล้าหลัง 

4.ถ้าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ขอให้คัดเลือกบุคคลที่มีความรู้ความสามารถมาบริหารประเทศไม่ใช่แต่งตั้งเพราะมีการต่อรองกันใครมีมือมากกว่าก็ได้กระทรวงที่มีผลประโยชน์ไปดูแลและที่สำคัญต้องโละระบบโควตาเพราะถ้ายังมีระบบนี้จะยิ่งทำให้ประเทศประสบวิกฤติหนักเข้าไปอีกและการปรับครม.ควรจะเป็นเพียงชั่วคราวเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจและทำภารกิจพิเศษอาทิการแก้ไขให้มีการลดค่าใช้ไฟฟ้าประปา  ราคาพลังงานและระบบขนส่งมวลชนสาธารณะให้ถูกลงกว่าเดิมเพื่อบรรเทาภาระของประชาชนด้วยการยกเลิกสัญญาที่ไม่เป็นธรรมที่ทำไว้กับเอกชนเพื่อรักษาผลประโยชน์สาธารณอย่างแท้จริง

5.รัฐบาลต้องรีบแก้ไขปัญหารัฐธรรมนูญเนื่องจากการทำหน้าที่ของวุฒิสภามาถึงทางตันแล้วจากการใช้อำนาจมิชอบลงมติเห็นชอบให้นายสุชาติตระกูลเกษมสุขเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทั้งที่ขาดคุณสมบัติขัดรัฐธรรมนูญ 2560 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เนื่องจากทำหน้าที่รัฐสภามาก่อนเป็นเรื่องผลประโยชน์ขัดกันชัดเจนและอย่านำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทรัฐบาลต้องเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญร่วมกับผู้แทนปวงชนจากทุกพรรคการเมืองเพื่อเดินหน้าบ้านเมืองสู่การปรองดองสมานฉันท์โดยเร็ว