ไม่พบผลการค้นหา
อินสตาแกรม ขยายนโยบายแบนภาพวาด การ์ตูน มีม และภาพจากหนัง ที่เกี่ยวข้องกับการทำร้ายตัวเองหรือการฆ่าตัวตาย หลังเริ่มแบนภาพถ่ายและวิดีโอลักษณะนี้มาแล้วเพื่อลดอิทธิพลด้านลบที่กระตุ้นผู้ใช้งาน ทว่าจะใช้มาตรการที่หลากหลายมากกว่าแค่ลบโพสต์ทิ้ง

ตั้งแต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ อินสตาแกรมได้แบนภาพที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการทำร้ายตัวเองและการฆ่าตัวตายมาแล้ว โดยภายในสามเดือนหลังใช้นโยบายนี้ ทางอินสตาแกรมชี้ว่าได้มีการใช้มาตรการลบ ลดการเข้าถึง หรือขึ้นป้ายเตือนเนื้อหาสุ่มเสี่ยง สำหรับภาพหรือวิดีโอที่เข้าข่ายกว่า 834,000 รายการ โดยอ้างว่าตรวจพบคอนเทนต์เหล่านี้ก่อนจะมีคนกดส่งรีพอร์ตให้อินสตาแกรมถึง 77 เปอร์เซ็นต์

ล่าสุดอดัม มอสเซรี ซีอีโออินสตาแกรมออกประกาศเมื่อวันที่ 27 ตุลาคมว่าตั้งแต่เดือนนี้ได้มีการขยายนโยบายการแบนคอนเทนต์ทำร้ายร่างกายและฆ่าตัวตาย ให้ครอบคลุมถึงคอนเทนต์ที่ไม่ใช่รูปภาพหรือวิดีโอของคนจริงๆ หรือเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นด้วย เช่น รูปวาด การ์ตูน มีม ตลอดจนภาพจากภาพยนตร์

นอกจากนี้ การแบนยังรวมถึงจะมีการลบรูปอื่นๆ ที่อาจไม่ได้แสดงให้เห็นถึงการทำร้ายตัวเองหรือการฆ่าตัวตายโดยตรง แต่แสดงถึงวัตถุหรือวิธีการที่เกี่ยวข้องกับการทำร้ายตัวเองด้วย

ผู้ใช้อินสตาแกรมที่แชร์คอนเทนต์ในลักษณะนี้ จะไม่ถูกนำมาแนะนำในรายการค้นหา (search) หรือในหน้าแท็บเอ็กซ์พลอร์ (Explore)

อย่างไรก็ตาม อินสตาแกรมระบุว่าได้พยายามรักษาสมดุลระหว่างการป้องกันไม่ให้เยาวชนเข้าถึงเนื้อหาที่สุ่มเสี่ยง กับการเปิดให้ผู้คนได้แบ่งปันหรือระบายประสบการณ์ปัญหาด้านสุขภาพจิต

ทางอินสตาแกรมได้ชี้แจงว่าเหตุผลที่ไม่ได้ลบคอนเทนต์ทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตายทิ้งทั้งหมดเลยนั้น เป็นเพราะได้รับฟังคำชี้แนะจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญว่าการให้โอกาสผู้คนในการแชร์เรื่องราวของตัวเองในช่วงที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตของพวกเขา และช่วงเวลาที่เขาเยียวยาฟื้นฟูตัวเองนั้นก็นับเป็นการให้ความช่วยเหลือที่สำคัญ

อีกทั้งการห้ามไม่ให้ผู้คนแบ่งปันเรื่องราวเช่นนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการตีตราว่าการเป็นปัญหาทางสุขภาพจิตเช่นนี้เป็นเรื่องน่าละอาย แต่ยังเป็นการขัดขวางไม่ให้บุคคลที่รักและห่วงใยพวกเขารับรู้ถึงปัญหาและให้ความช่วยเหลืออีกด้วย

ทั้งนี้ อินสตาแกรมได้พยายามจัดการกับคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตัวตาย หลังจากเมื่อปี 2017 มอลลี รัสเซลล์ วัยรุ่นสาวชาวอังกฤษได้จบชีวิตตัวเอง โดยทางครอบครัวกล่าวโทษว่าอินสตาแกรมมีส่วนต้องรับผิดชอบในการตายครั้งนี้ เนื่องจากรัสเซลล์ใช้อินสตาแกรมโพสต์และเข้าถึงเนื้อหาเกี่ยวกับโรคซึมเศร้าและการฆ่าตัวตาย

ทั้งนี้ อินสตาแกรมระบุว่าตระหนักดีว่าการอัพเดตหรือออกมาตรการใดๆ เพียงครั้งเดียวไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ นโยบายและเทคโนโลยีจะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องไปตามกระแสและพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้คน

ที่มา: Instagram / Tech Crunch / Cnet