เศรษฐกิจ
สถานะสงครามการค้าล่าสุด จีนเผย 'ตกลงกันได้บ้าง'
'เล่อ ยูเฉิง' รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศของรัฐบาลจีน กล่าวในงานประชุมเซี่ยงซาน (Xianshan Forum) ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนว่า การเจรจาประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนมีความคืบหน้าแต่ไม่ได้ระบุว่า มีข้อตกลงใดบ้างที่บรรลุแล้ว ทั้งนี้ 'เล่อ' ยังย้ำว่าปัญหาทุกอย่างสามารถหาทางออกได้หากทั้งสองมีความเคารพซึ่งกันและกัน
อย่าให้ไปถึง 'สงครามเย็น'
มีการแสดงความกังวลอย่างชัดเจนเกี่ยวกับประเด็นความพยายามยะระดับสงครามการค้าไปเป็นสงครามเย็น โดยรัฐบาลจีนกล่าวว่าฝั่งจีนมีความกังวลอย่างต่อเนื่องว่ารัฐบาลสหรัฐฯพยายามแบ่งแยก หรือตัดสายสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่เรียกกันว่า "การแบ่งแยก" (de-coupling) จีนกังวลอย่างมากว่ารัฐบาลสหรัฐฯภายใต้การนำของ 'โดนัลด์ ทรัมป์' ประธานาธิบดี จะพยายามตัดขาดกับจีนโดยสิ้นเชิง
'เล่อ' สนับสนุนประเด็นดังโดยอ้างว่า โลกต้องการให้จีนและสหรัฐฯหยุดสงครามการค้าลง ซึ่งการจะทำเช่นนั้นทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องเปิดใจเข้าหากันไม่ใช่ตั้งแง่จะมา "แบ่งแยก" ประเทศ หรือยกระดับให้ความขัดแย้งครั้งนี้การเป็นสงครามเย็นครั้งใหม่
หลังจากมีความพยายามในการเจรจาเพื่อหาข้อยุติข้อพิพาททางการค้าหลายครั้ง ล่าสุด สหรัฐฯ ประกาศ ข้อตกลง "ระยะที่ 1" กับจีนที่จะระงับการขึ้นภาษีนำเข้าไว้ก่อน
'จีน' ไม่หวังยึดอำนาจใคร
'เล่อ' ย้ำจุดยืนของประเทศว่า จีนไม่เคยต้องการสิ่งอื่นใดนอกจากการช่วยให้ชีวิตของประชากรในประเทศดีขึ้น ประเทศไม่เคยต้องการสิ่งอื่นใดจากคนอื่น จีนไม่เคยวางแผนจะแย่งที่ใครทั้งนั้นและก็ไม่เคยคิดจะขู่ใครด้วย
นอกจากนี้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก จึงไม่มีเหตุผลใดจะโยนสิ่งดีๆเหล่านั้นทิ้งไป
"ทุกคนไม่ควรหวังว่าจีนจะยอมกลืนกินผลลัพธ์อันขมขื่มกับการสูญเสียผลประโยชน์ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินหรือท้องทะเล ไม่ว่าจะเป็นไต้หวัน ฮ่องกง ซินเจียง หรือทิเบต" เล่อ กล่าว
อย่างไรก็ตาม 'เล่อ' กล่าวว่า ทุกฝ่ายควรตระหนักว่า จีนจะไม่ยอมแลกความผลประโยชน์หลักของประเทศรวมทั้งความปลอดภัยของประเทศกับใครทั้งนั้น
โดยออกมาเตือนสหรัฐฯว่า เหล่านักนิติศาสตร์ของสหรัฐฯ "มีความพยายามที่มุ่งร้าย" ในการลดทอนความมั่นคงของฮ่องกงลง หลังสภาผ่านร่างกฎหมายเกี่ยวกับการประท้วงต่อต้านรัฐบาล
คลื่นซัดประเทศเล็ก
สงครามการค้าและความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีนไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของมหาอำนาจทั้ง 2 ของโลก แต่ส่งผลกระทบต่อประเทศข้างเคียงที่ต้องพึ่งทั้งสองประเทศ
'เอิง เอ็ง เฮ็น' รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ กล่าวว่า สิงคโปร์ในฐานะประเทศขนาดเล็กจับตามองสถานการณ์ดังกล่าวด้วยความกังวลสูงสุด พร้อมย้ำว่าสิงคโปร์จะยังคงสานสัมพันธ์กับทั้งสองประเทศ และไม่ดำเนินการใดๆที่เป็นการเลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ก็ตระหนักอย่างท่องแท้ว่ายิ่งทั้งสองประเทศยังคงดึงดันมีข้อพิพาทต่อไป ยิ่งจะสร้างความลำบากให้ประเทศอื่นๆในการไม่เลือกข้างและอยู่แบบเป็นกลาง
