ไม่พบผลการค้นหา
คณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติเอกฉันท์ 7 ต่อ 0 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อปี มองเศรษฐกิจไทยทยอยฟื้นตัวตามการผ่อนคลายจากมาตรการควบคุมโควิด-19 แต่ยังมีความไม่แน่นอนด้านการจ้างงาน-รายได้ครัวเรือน ชี้ต้องเร่งปรับโครงสร้างหนี้ ปล่อยสินเชื่อเพิ่ม

ทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 5/2563 มีมติเอกฉันท์ 7 ต่อ 0 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อปี เนื่องจากประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มทยอยฟื้นตัวตามการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศ และการทยอยฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลก แต่ยังต้องระวังความเสี่ยงจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกที่สอง

ขณะที่อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มติดลบในปีนี้ ก่อนจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในปี 2564 ตามที่ประเมินไว้ ส่วนเสถียรภาพการเงินมีความเปราะบางมากขึ้นตามแนวโน้มเศรษฐกิจ โดยคณะกรรมการฯ เห็นว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมาตั้งแต่ต้นปี รวมถึงมาตรการการคลังของรัฐบาล รวมทั้งมาตรการการเงินและสินเชื่อที่ออกมาเพิ่มเติม ช่วยบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นและจะสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้หลังการระบาดคลี่คลาย เอื้อให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่กรอบเป้าหมาย และลดความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงิน คณะกรรมการฯ จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในการประชุมครั้งนี้ 

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการฯ เห็นว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังไม่มีความแน่นอนสูง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การจ้างงาน และรายได้ของครัวเรือน เป็นผลกระทบที่ยาวนาน และต้องใช้เวลานาน ดังนั้นจึงต้องเร่งแก้ไขให้เกิดการจ้างงาน ดูแลเสถียรภาพของเศรษฐกิจ และการปรับโครงสร้างของเศรษฐกิจไทย นอกจากนี้จะต้องมีการปรับโครงสร้างหนี้ และเร่งรัดการปล่อยสินเชื่อให้มากขึ้นด้วย

ทั้งนี้ การประชุม กนง. ในปีนี้ยังเหลืออีก 3 ครั้ง ได้แก่ วันที่ 23 ก.ย., 18 พ.ย. และ 23 ธ.ค. ขณะที่ตั้งแต่ต้นปี 2563 กนง.ได้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปแล้ว 3 ครั้ง จากระดับ 1.25% ณ สิ้นปี 2562 ที่ผ่านมา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :