ไม่พบผลการค้นหา
ปธน.ทรัมป์ของสหรัฐฯ ประณามการไต่สวน 'ไมเคิล โคเฮน' อดีตผู้ช่วยคนสนิทของตัวเอง ที่ให้การว่าทรัมป์รู้เห็นเรื่องแฮกเกอร์รัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี 2016 แต่ทรัมป์โทษว่าการไต่สวนครั้งนี้ทำให้การเจรจาระหว่างสหรัฐฯ-เกาหลีเหนือ ไร้ข้อตกลงร่วมกัน

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เผยแพร่ข้อความโจมตีพรรคฝ่ายค้านเดโมแครตผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว หลังจากที่คณะกรรมาธิการป้องกันและกำกับดูแลความประพฤติมิชอบของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เรียกตัวนายไมเคิล โคเฮน อดีตนักกฎหมายและผู้ช่วยคนสนิทของนายทรัมป์ ขึ้นให้ปากคำในการไต่สวนข้อกล่าวหาที่ระบุว่า ทรัมป์อาจมีส่วนรู้เห็นกับกลุ่มแฮกเกอร์รัสเซียที่ก่อเหตุเผยเผยแพร่ข่าวปลอมแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี 2016

การให้ปากคำของนายโคเฮนเกิดขึ้นช่วงเดียวกับที่นายทรัมป์เดินทางไปยังกรุงฮานอยของเวียดนาม เพื่อร่วมการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสหรัฐฯ-เกาหลีเหนือ ที่เวียดนามเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการจัดการเจรจา และโคเฮนได้ขึ้นให้การเป็นปฏิปักษ์ต่อทรัมป์ โดยข้อความตอนหนึ่งของโคเฮนระบุว่าทรัมป์เป็น 'คนโกหก' - 'เหยียดเชื้อชาติ' และ 'ขี้โกง' โดยที่เขารู้สึกละอายใจที่เคยจงรักภักดีต่อทรัมป์ แต่ตอนนี้เขาจะไม่ทำเช่นนั้นอีกแล้ว

กรณีดังกล่าวทำให้ทรัมป์ตอบโต้โคเฮนว่าเป็นคนโกหกหลอกลวงเช่นกัน พร้อมทั้งระบุว่า การเจรจาระหว่างสหรัฐฯ-เกาหลีเหนือ ไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากผู้นำทั้งสองฝ่ายไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้ แต่ปัจจัยหลักๆ เป็นเพราะพรรคฝ่ายค้านเดโมแครตจัดการไต่สวนคดีที่เกี่ยวพันกับประธานาธิบดีในขณะที่ตนไม่อยู่ในสหรัฐฯ

"การที่เดโมแครตเริ่มไต่สวนคนโกหกหลอกลวงในช่วงเวลาสำคัญที่มีการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับเกาหลีเหนือ ถือเป็นความตกต่ำครั้งใหม่ของการเมืองอเมริกัน และเป็นเหตุให้ต้องผละจากการเจรจา อย่าทำแบบนี้เมื่อประธานาธิบดีอยู่ต่างประเทศ น่าละอาย!"

ทั้งนี้ เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ไมเคิล โคเฮน ถูกศาลนครนิวยอร์กตัดสินจำคุก 36 เดือน และจะถูกส่งตัวเข้าเรือนจำในเดือน พ.ค.ที่จะถึง พร้อมปรับเงินอีกเกือบ 2 ล้านดอลลาร์ (65.3 ล้านบาท) ในข้อหาละเมิดกฎหมายควบคุมงบประมาณหาเสียง ฐานปกปิดข้อมูลการใช้เงินที่มอบให้แก่ 'สตอร์มี แดเนียลส์' อดีตนักแสดงหญิงแนววาบหวิวที่เคยมีความสัมพันธ์กับนายทรัมป์ เพื่อปิดปากไม่ให้เดเนียลออกมาเปิดโปงความสัมพันธ์ดังกล่าว

โคเฮนได้เปิดเผยหลักฐานประกอบเป็นสำเนาเช็คที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ บุตรชายของ ปธน.ทรัมป์ สั่งจ่ายเงินให้แก่โคเฮนเป็นค่าชดเชยที่เขามอบเงินปิดปากแดเนียลส์ด้วย

นอกจากนี้ โคเฮนยังระบุว่า ทรัมป์รู้เห็นเรื่องที่โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ บุตรชายของเขาเอง รวมถึงเครือข่ายคนสนิท พบกับผู้เกี่ยวข้องกับรัฐบาลรัสเซียช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งเข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งเช่นกัน เพราะ กม.ดังกล่าวระบุว่า ผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้องไม่เกี่ยวข้องหรือติดต่อกับตัวแทนที่เกี่ยวข้องรัฐบาลต่างชาติ

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ปฏิเสธมาตลอดว่าตนไม่มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำหรือคำกล่าวอ้างของโคเฮน แต่คณะกรรมาธิการฯ สังกัดพรรคเดโมแครตต้องการให้โคเฮนขึ้นให้ปากคำ เพื่อหาข้อมูลสนับสนุนการพิจารณาถอดถอนทรัมป์ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี และทรัมป์ระบุว่าเขาพยายามติดตามรับฟังคำให้การของโคเฮนในเรื่องนี้ แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเขายังติดภารกิจ แต่การรับฟังโคเฮนให้ปากคำในเวลาเดียวกับที่มีการประชุมครั้งสำคัญเกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ 'เลวร้าย' อย่างยิ่ง

ทั้งนี้ การประชุมสุดยอดผู้นำระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือครั้งที่ 2 ที่กรุงฮานอยต้องยุติลงกลางคันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และไม่มีข้อตกลงร่วมกันใดๆ ระหว่างผู้นำสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือ ต่างจากการประชุมสุดยอดผู้นำครั้งที่ 1 เมื่อเดือนมิถุนายนปี 2018 ที่สิงคโปร์

ประธานาธิบดีทรัมป์แถลงว่า สหรัฐฯ ไม่อาจยอมรับได้ หากเกาหลีเหนือไม่ปลดอาวุธนิวเคลียร์ทั่วประเทศ หลังจากเกาหลีเหนือเสนอจะปลดอาวุธนิวเคลียร์และรื้อถอนโรงงานนิวเคลียร์ในเมืองยองบอนเท่านั้น

ขณะที่ประธานาธิบดีมุนแจอินของเกาหลีใต้ ระบุว่าจะหาหนทางเจรจาต่อไป เพื่อผลักดันให้เกิดการประชุมระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ ขึ้นอีกครั้ง ซึ่งประธานาธิบดีมุนเชื่อว่า ในที่สุดแล้วสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือจะสามารถหาข้อตกลงด้วยกันได้ในที่สุด

ที่มา reuters / the guardian

ข่าวที่เกี่ยวข้อง