ไม่พบผลการค้นหา
นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม ชี้รัฐบาลไทยนำเข้าขยะจากต่างประเทศกว่า 4 แสนตัน สูงอันดับ 3 ของอาเซียน ชี้เป็นความย้อนแย้งของการรณรงค์

นายสนธิ คชวัฒ์ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย โพสต์ให้ความเห็นกรณีนโยบายรัฐบาล กรณีลดขยะในประเทศ ว่าเป็นความย้อนแย้งของนโยบายดังกล่าว โดยนายสนธิ ได้ยกเหตุผลเป็นองค์ประกอบ 4 ข้อคือ 

1) ภาคเอกชนภาคีเครือข่าย 43 แห่ง ให้ความร่วมมือกับภาครัฐด้วยความสมัครใจงดให้ถุงพลาสติกในห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป คาดว่าจะลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว (single-use plastic) ลงได้ 7.8 แสนตันต่อปี จากปริมาณถุงพลาสติกที่เกิดขึ้นประมาณ 2 ตันต่อปี

แนะเก็บค่าธรรมเนียมถุงพลาสติก

2) แต่หากจะให้การลดถุงพลาสติกเกิดผลที่กว้างมากขึ้น แบบในประเทศพัฒนาแล้วก็ต้องออกกฏหมายเก็บค่าธรรมเนียมถุงพลาสติก หรือเก็บเงินค่าถุงพลาสติกในทุกร้านค้าทั่วประเทศ โดยอาจให้เป็นถุงพลาสติกที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ หรือเป็นถุงพลาสติกมีความหนาใช้ได้หลายครั้ง การคิดเงินค่าถุงพลาสติกเพียงเล็กน้อยจะเปลี่ยนพฤติกรรมและลดปริมาณการใช้ถุงได้จำนวนมาก เพราะผู้ซื้อสินค้าที่เคยได้รับถุงฟรี หากไม่ต้องการจ่ายเงินค่าถุง ก็ต้องนำถุงเก่ามาใช้ซ้ำหรือเตรียมถุงผ้าสำหรับใส่สินค้ามาด้วย

ไทยนำเข้าขยะจากต่างประเทศ อันดับ3 ในอาเซียน 

3) ปี 2561-2562 ประเทศไทยนำเข้าขยะพลาสติก จากต่างประเทศมากถึง 481,381 ตัน สูงเป็นอันดับ 3 ในอาเซียน (กรีนพีช) และกำหนดให้มีปริมาณนำเข้าในปีต่อไปปีละ 70,000 ตัน เพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าพลาสติกราคาถูก ถ้าใครซื้อของใช้พลาสติกตามร้าน 20 บาท ทั้งหมดจะมาจากพลาสติกรีไซเคิล แต่ที่ยิ่งกว่านั้นปัจจุบันสินค้าพลาสติกคุณภาพต่ำราคาถูก ถูกนำเข้าจากประเทศจีนเป็นจำนวนมาก นำมาขายและกลายมาเป็นขยะท่วมประเทศไทยอยู่ทุกวันนี้ คำถามว่าทำไมไม่ใช้ขยะพลาสติกในประเทศไทยมารีไซเคิลแทนการนำเข้า 

ข้อเท็จจริงคือขยะพลาสติกในประเทศไทยมีจำนวนมากจริง แต่เป็นขยะที่ไม่ได้ถูกคัดแยกอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งจากประชาชนและรัฐบาล จึงมีการปนเปื้อนสูงดังนั้นโรงงานอุตสาหกรรมจึงซื้อขยะพลาสติกจากต่างประเทศ โดยเป็นไปตามเงื่อนไขการนำเข้าของรัฐบาลคือเศษพลาสติกต้องสะอาดไม่ปนเปื้อนมีขนาดไม่เกิน 2.0 เซนติเมตร นำมารีไซเคิลและผลิตสินค้าพลาสติกราคาถูกขาย ซึ่งจะมีต้นทุนถูกกว่าการนำขยะพลาสติกในประเทศไทย มาคัดแยกและนำมารีไซเคิลผลิตเป็นสินค้าใหม่ ทำให้ขยะพลาสติกในประเทศตกค้างจำนวนมากและถูกกองทิ้งไว้ในหลุมขยะเทศบาลและไหลลงทะเลในที่สุด

ความย้อนแย้งของการรณรงค์ จากการเอื้อทุนต่างประเทศ

4) โรงงานคัดแยกและรีไซเคิล ในประเทศไทยตั้งขึ้นได้ง่ายเนื่องจากมีประกาศคสช.ที่ 4/2559 กำหนดให้ตั้งที่ใดก็ได้ไม่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายผังเมืองทำให้จังหวัดสมุทรสาครมีโรงงานรีไซเคิลถึง 6,000 แห่งและมากกว่า 3,000 แห่งในจังหวัดสมุทรปราการ, ฉะเชิงเทรา เป็นต้น

5) รัฐบาลกำลังรณรงค์ให้คนไทยเสียสละลดการใช้ถุงพลาสติกกันอย่างกว้างขวาง แต่อีกด้านเรากลับยินยอมให้นำเข้าขยะเศษพลาสติกจากต่างประเทศจำนวนมากมารีไซเคิลเป็นสินค้าพลาสติกราคาถูก คุณภาพต่ำมาขายในประเทศ ซึ่งสุดท้ายก็กลายเป็นขยะพลาสติกมหาศาลอยู่ในประเทศ รวมทั้งยินยอมให้ต่างประเทศมาตั้งโรงงานรีไซเคิลพลาสติกในประเทศได้อย่างง่ายดาย