ไม่พบผลการค้นหา
ขสมก.เตรียมรับรถเมล์เอ็นจีวี ที่เหลือ 389 คัน จากสัญญาล็อตแรก 489 คัน ภายใน ก.พ. 2562 หลังศาลปกครองกลางยกคำร้อง 'สยาม สแตนดาร์ด เอนเนอจี้' ฟ้องให้ชะลอซื้อ-ขายรถเมล์เอ็นจีวี วงเงิน 4,261 ล้านบาท

นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) รักษาการตำแหน่งผู้อำนวยการ เปิดเผยว่า จากกรณีที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ชะลอการซื้อ-ขายรถโดยสารใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติก๊าซ NGV จำนวน 489 คัน วงเงิน 4,261 ล้านบาท ตามคำฟ้อง ของบริษัท สยาม สแตนดาร์ด เอนเนอจี้ จำกัด

โดยห้ามนำมติคณะกรรมการบริหาร ขสมก. (บอร์ด ขสมก.) เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2560 และวันที่ 20 ธ.ค. 2560 ที่อนุมัติซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติ พร้อมซ่อมแซม และบำรุงรักษารถโดยสาร 489 คัน จากกลุ่มร่วมทำงาน SCN- CHO ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) และ บริษัท สแกนอินเตอร์ จำกัด (มหาชน ) นำไปดำเนินการใดๆ ที่มีผลผูกพัน จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา 

ทั้งนี้ ขสมก. ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งคุ้มครองดังกล่าว และล่าสุด เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ที่ผ่านมา ศาลปกครองได้มีคำสั่งเพิกถอนไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาพร้อมกับให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบ

ดังนั้น ขสมก.จึงได้เตรียมแผนรับรถเมล์ NGV ที่เหลืออีกจำนวน 389 คัน หลังจากก่อนหน้านี้ได้รับมอบมาแล้วจำนวน 100 คัน ทั้งนี้ มีรถที่พร้อมส่งมอบอยู่แล้วจำนวน 202 คัน ซึ่ง ขสมก. จะเร่งดำเนินการตรวจเช็คสภาพคาดว่าจะรับมอบรถได้ภายในเดือน ธ.ค. นี้

อย่างไรก็ตาม ยังมีรถที่เหลืออีก 187 คัน อยู่โรงงานผลิตที่ประเทศจีน โดย ขสมก. จะเร่งรัดบริษัทคู่สัญญาดำเนินการให้แล้วเสร็จคาดจะรับมอบรถได้ประมาณเดือน ก.พ. 2562

ด้านการชำระเงินตามกระบวนการจะต้องชำระภายใน 30 วัน หลังจากรับมอบรถ รวมถึงการจ่ายค่าซ่อมบำรุงรักษา ในระยะเวลา 7 เดือนที่สัญญาชะลอการซื้อขาย เป็นเงินจำนวน 18 ล้านบาท 

ส่วนรถที่ ขสมก. รับมอบมาแล้ว 100 คัน จะต้องชำระเงินจำนวน 300 ล้านบาทภายในเดือน พ.ย. นี้ โดยทางฝ่ายบริการได้เตรียมแผนการชำระไว้แล้ว

ด้านนายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ศาลปกครองได้มีคำสั่งเพิกถอนรับคำสั่งรับฟ้องของบริษัท สยาม สแตนดาร์ด เอนเนอจี้ (ผู้ฟ้องคดี) ไว้พิจารณา และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบ กรณีการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศ NGV จำนวน 489 คัน       

ดังนั้น คาดว่า ขสมก.จะสามารถรับมอบรถเมล์ NGV ที่เหลือได้หมด โดยขณะนี้กลุ่มทำงาน SCN-CHO ที่ประกอบด้วย บมจ.ช.ทวี (CHO) และ บมจ.สแกนอินเตอร์ (SCN) ได้จัดเตรียมรถไว้พร้อมรอส่งมอบให้ ขสมก.แล้ว คาดว่าการรับมอบรถจะใช้เวลาไม่นาน  

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2561 ศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาในคดีที่บริษัท สยาม สแตนดาร์ด เอนเนอจี้ ซึ่งเป็นผู้เข้าร่วมประมูลโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV จำนวน 489 คัน เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2560 หรือ หลังจากที่ ขสมก. ยกเลิกสัญญาจัดซื้อรถเมล์จากบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ปแล้วได้ยื่นฟ้อง ขสมก. และคณะกรรมการบริหารกิจการ ขสมก.

ทั้งนี้ ขสมก.ได้รับมอบรถเมล์ NGV จากกลุ่มทำงาน SCN-CHO ล็อตแรกจำนวน 100 คันไปแล้วเมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2561 ใช้ในการเดินรถ 5 เส้นทาง

ขณะที่ นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO กล่าวว่า กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ดำเนินงานอย่างสุจริต ตั้งมั่นในคุณภาพการบริหารงานตามหลักบรรษัทภิบาล โปร่งใส ตรวจสอบได้ ดังนั้น ต่อจากนี้กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ก็จะเดินหน้าทยอยส่งมอบรถอีกจำนวน 389 คันที่เหลือ โดยขสมก. นัดหมายรับรถเมล์ NGV ล็อตถัดไปจำนวน 202 คัน ภายในเดือน ธ.ค. นี้ 

ส่วนล็อตสุดท้ายจำนวน 187 คัน รับมอบประมาณเดือน ก.พ. 2562 รวมทั้งหมดเป็น 489 คัน มูลค่า 1,891 ล้านบาท เพื่อให้ผู้โดยสารรถเมล์ได้มีรถใหม่ใช้ ซึ่งเป็นรถโดยสารปรับอากาศชานต่ำ และมีทางลาดสำหรับเข็นรถวีลแชร์ เพื่อรองรับผู้ใช้บริการทุกประเภท ทั้งคนพิการและผู้สูงอายุ ให้สามารถใช้บริการรถโดยสารได้อย่างสะดวกปลอดภัยที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :